แหล่งรวมเกมส์ชั้นนำ สล็อต คาสิโน บาคาร่า พร้อมระบบล้ำทันสมัย รวดเร็วทันใจ

Pick and Roll ทำไมถึงเป็นอาวุธลับที่ไม่มีวันตาย

Pick and Roll

Pick and Roll กลยุทธ์ที่เรียบง่าย แต่ลึกซึ้ง และเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ ในโลกของบาสเกตบอล ที่ไม่ว่าเวลา จะผ่านไปนานแค่ไหน ไม่ว่าเกมจะเปลี่ยนเร็ว หรือช้า มันก็ยังคงทรงพลังเสมอ ยังคงเป็นหัวใจของเกมรุก ตั้งแต่ยุค 80s จนถึงยุคที่ Luka Doncic ครองเกม ด้วยจังหวะสโลว์โมชั่นในปี 2020s

  • ศิลปะแห่งบาสเกตบอล Pick & Roll
  • กลยุทธ์กีฬาบาสเกตบอล
  • ใครคือราชาแห่งพิคแอนด์โรล

จุดเริ่มต้นของพิคแอนด์โรลคืออะไร

“Pick & Roll” (พิค แอนด์ โรล) คือหนึ่งในแผนการเล่นพื้นฐาน ของเกมรุกในบาสเกตบอล โดยมีองค์ประกอบหลัก เพียงแค่สองคน แต่สามารถสร้างโอกาส ได้อย่างไร้ขีดจำกัด [1]

  • Ball-handler (บอล-แฮน-เดล-เลอร์) หรือ ผู้ครองบอล : คนที่มีหน้าที่ตัดสินใจ ว่าจะเลี้ยงไปเอง ส่งบอล หรือยิง
  • Screener (สกรีน-เนอร์) หรือ ผู้ตั้งสกรีน : ผู้เล่นที่เข้ามายืนบังแนวรับ ของฝ่ายตรงข้าม เพื่อช่วยให้เพื่อนมีทางเคลื่อนไหว
  • หลักการคือ
    สกรีนเนอร์จะเข้ามายืนบังทางผู้เล่นฝ่ายรับ ของบอลแฮนเดลเลอร์ ซึ่งเรียกกันว่า “ตั้งสกรีน” เพื่อให้บอลแฮนเดลเลอร์ หลุดจากการถูกประกบ จากนั้นสกรีนเนอร์จะ “โรล” เข้าไปในเขตใต้แป้น เพื่อรับบอล หรือป็อปออกไป ยังพื้นที่ด้านนอก เพื่อยิงจากระยะกลาง หรือระยะสามแต้ม

 

แม้ฟังดูง่าย แต่การใช้พิคแอนด์โรล ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดนั้น ต้องอาศัยทั้งเวลา จังหวะ ความสัมพันธ์ทางเคมี และความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ระหว่างผู้เล่นทั้งสอง

Stockton & Malone ต้นแบบแห่งความสมบูรณ์

หากจะกล่าวถึง “ราชาแห่งพิคแอนด์โรล” ชื่อของ นักบาสอาชีพ อย่างจอห์น สต็อคตัน (John Stockton) และคาร์ล มาโลน (Karl Malone) จะต้องปรากฏเป็นชื่อแรกเสมอ

  • สต็อคตัน คือพอยต์การ์ด (Point Guard) ที่แม่นยำ รวดเร็ว และรู้ใจเพื่อนร่วมทีม ได้ดีเกินกว่าใคร
  • มาโลน คือพลังแห่งกล้ามเนื้อ ความเร็ว และการจบสกอร์ อันเฉียบขาด

 

ตลอดช่วงทศวรรษ 1980–1990 ทั้งสองคนช่วยกันยกระดับ Utah Jazz (ยูทาห์ แจ๊ส) จนกลายเป็นทีมชั้นนำของลีก โดยใช้พิคแอนด์โรลเป็นอาวุธหลัก ในการเจาะแนวรับคู่แข่ง พิคแอนด์โรลในยุคนั้น อาจดูช้าไปสำหรับยุค NBA ปัจจุบัน แต่ความแม่นยำ และความมั่นใจในการใช้ ทำให้มันทรงพลังไม่แพ้ใคร [2]

ความพิเศษของคู่หู สต็อคตันและมาโลน

สิ่งที่ทำให้คู่หูคู่นี้พิเศษ ไม่ใช่แค่สถิติการ Assist (แอสซิสต์) หรือคะแนนเท่านั้น แต่คือ การอ่านเกมร่วมกัน อย่างแม่นยำ จังหวะที่สต็อคตัน เลี้ยงเข้ามาแล้วหยุดฉับพลัน ก่อนที่มาโลนจะพุ่งเข้าไปรับบอล เหมือนทั้งสอง มีสายตาที่สาม ที่รู้ว่ากันและกัน จะไปตรงไหน

ยุคเปลี่ยนพิคแอนด์โรลเปลี่ยน

Pick and Roll

เมื่อเข้าสู่ยุค 2000s โลกของ NBA เปลี่ยนเร็วขึ้น กลายเป็นยุคของการเล่นที่เร็ว เน้นการยิงสามแต้ม การวางแผนเกม เปลี่ยนจากการใช้เซ็นเตอร์ตัวใหญ่ เป็นศูนย์กลาง มาเป็นการกระจายผู้เล่นรอบนอก ให้ยิงได้ทุกคน แต่แม้กระแสจะเปลี่ยน พิคแอนด์โรลก็ไม่เคยหายไป ในทางกลับกัน มันกลับ “ปรับตัว”

  • คู่หู Steve Nash – Amar’e Stoudemire (สตีฟ แนช – อามาร์ สเตาด์ไมเออร์) ในฟีนิกซ์ ซันส์ (Phoenix Suns) คืออีกหนึ่งเวอร์ชัน ที่รวดเร็ว ดุดัน และใช้ประโยชน์ จากจังหวะทันทีทันใด ได้อย่างยอดเยี่ยม
  • ทีมอย่าง San Antonio Spurs (ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส) ยุคโทนี่ ปาร์คเกอร์ – ทิม ดันแคน (Tony Parker – Tim Duncan) ก็ใช้พิคแอนด์โรล อย่างมีศิลปะ แม้จะไม่ฉูดฉาด แต่ก็เฉียบขาด และมีประสิทธิภาพสูง

 

พิคแอนด์โรลยุคนี้ เริ่มเน้นการ Stretch the Floor การมีสกรีนเนอร์ ที่สามารถยิงระยะไกลได้ ทำให้แนวรับ ต้องออกมาประกบ ส่งผลให้พื้นที่ใต้แป้นโล่ง สำหรับการทะลวงของบอลแฮนเดลเลอร์

Luka Doncic การคืนชีพของ “Slow PickandRoll”

ในโลกที่เกมเร็ว กลายเป็นสิ่งที่ทุกคนยึดถือ การมาถึงของลูก้า ดอนชิช (Luka Doncic) คือสิ่งที่ตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง เขาไม่ได้เร็วแบบรัสเซล เวสต์บรูก (Russell Westbrook) ไม่ได้แรงแบบยานนิส อันเทโทคุมโป (Giannis Antetokounmpo) แต่ลูก้ากลับควบคุมเกม ได้ราวกับเล่นอยู่ใน “ฟองสบู่ของตัวเอง”

สิ่งที่ทำให้ลูก้าน่ากลัว คือเขาใช้พิคแอนด์โรล ในรูปแบบที่ “ช้าแต่ชัดเจน” เขาอ่านการเคลื่อนที่ของแนวรับทุกจังหวะ สามารถดึงผู้เล่นเข้าหา แล้วยัดบอลให้เพื่อนร่วมทีม ในจังหวะที่แนวรับหลุดโฟกัสได้ แม้ว่าเขาจะไม่ได้ทำไฮไลต์ แบบดังกระหึ่ม แต่ลูก้าสร้างโอกาสทำแต้มได้แทบทุกครั้ง ที่เขาใช้พิคแอนด์โรล

พิคแอนด์โรลของลูก้า จึงกลายเป็นอาวุธใหม่ ที่ซ่อนอยู่ภายใต้จังหวะช้าๆ แต่เปี่ยมไปด้วยไอคิว [3]

บทเรียนจากพิคแอนด์โรล บาสเกตบอลคือศิลปะ “การรู้ใจ”

ในท้ายที่สุด พิคแอนด์โรลก็ไม่ใช่แค่เรื่องของเทคนิค แต่คือเรื่องของ “เคมีระหว่างผู้เล่น” และ “การอ่านสถานการณ์ร่วมกัน ในเสี้ยววินาที”

  • สต็อคตันรู้ว่ามาโลน จะเคลื่อนไปตรงไหน ก่อนที่เขาจะเริ่มเคลื่อนตัวด้วยซ้ำ
  • ลูก้ารู้ว่าผู้เล่นฝ่ายรับ จะหันหัวไปทางไหน ก่อนที่จะส่งบอล
  • แนชสามารถขยับตัวออกไปข้างๆ เพื่อดึงตัวประกบ ก่อนส่งลูกไปให้เพื่อนที่ไม่มีใครเห็น

 

พิคแอนด์โรลจึงไม่ได้เป็นแค่แผนการเล่น แต่คือศิลปะของการ ไว้วางใจ, รู้ใจ, และคิดให้เร็ว ในภายใต้ความกดดัน

ผลก็คือ “Pick & Roll” คืออาวุธที่เรียบง่ายแต่ล้ำลึก

ท้ายที่สุด พิคแอนด์โรลยังคงเป็นอาวุธหลัก ของทุกทีมใน NBA เพราะมันเปิดโอกาส สร้างความได้เปรียบ และตอบโจทย์ ในทุกยุคสมัย ได้อย่างกลมกลืน พิคแอนด์โรลยังคงอยู่ ไม่ใช่เพราะมันง่าย แต่เพราะมัน “ใช้งานได้จริง” และนั่นคือเหตุผลของศิลปะลับ ที่ไม่มีวันตาย ในโลกของบาสเกตบอล

พิคแอนด์โรลในยุคปัจจุบันเปลี่ยนไปอย่างไร ?

เปลี่ยนจากการพึ่งผู้เล่นตัวใหญ่ ไปสู่การเคลื่อนไหวที่ยืดหยุ่น เช่น ผู้ตั้งสกรีนถอยออกไปยิงจากวงนอก หรือมีเพื่อนอีกคน ยืนรอจังหวะยิงข้างนอก ทำให้แนวรับต้องกระจายตัวมากขึ้น และคุมพื้นที่ได้ยากกว่าเดิม

มีโอกาสที่พิคแอนด์โรลจะหมดความนิยมไหม ?

แทบเป็นไปไม่ได้ เพราะพิคแอนด์โรลคือเครื่องมือพื้นฐาน ในการสร้าง “ความได้เปรียบ” ให้กับเกมรุก มันไม่ใช่แค่แผนเก่า แต่คือรูปแบบที่สามารถปรับใช้ได้ในทุกยุคสมัย ทั้งกับผู้เล่นตัวใหญ่ และผู้เล่นเร็ว

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง