ไอเดอร์ กุ๊ดยอห์นเซ่น ตำนานกองหน้า จากประเทศไอซ์แลนด์

sun-31
26 ต.ค. 25
17:30
82 views

ไอเดอร์ กุ๊ดยอห์นเซ่น ตำนานกองหน้า คือนักฟุตบอลระดับตำนาน ของประเทศไอซ์แลนด์ เป็นที่รู้จักจากการเป็นกองหน้าที่เปี่ยมไปด้วยทักษะ และความฉลาดในการเล่น เขาโด่งดังอย่างมากในช่วงเวลาที่ค้าแข้งกับสโมสรเชลซี และบาร์เซโลนา โดยสามารถคว้าแชมป์สำคัญๆ ในระดับสโมสรมาครองได้

เรื่องราวของนักเตะระดับตำนาน
ข้อมูลการแข้งในวงการลูกหนัง
ช่วงเวลาแห่งความสำเร็จในระดับสโมสร

เปิดประวัติและความเป็นมา ไอเดอร์ กุ๊ดยอห์นเซ่น

โดยชีวประวัติของไอเดอร์ กุ๊ดยอห์นเซ่น (Eidur Gudjohnsen) ลืมตาดูโลกครั้งแรก เมื่อวันที่ 5 เดือนกันยายน 1978 ในเมือง Reykjavík ของประเทศไอซ์แลนด์ เขาถือว่าเป็นตำนานกองหน้าผู้ทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่ง ของวงการฟุตบอลไอซ์แลนด์ เส้นทางอาชีพของเขาเริ่มต้นในบ้านเกิด

ก่อนจะย้ายไปค้าแข้งในยุโรป กับสโมสรดังอย่าง พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน และโบล์ตัน วันเดอเรอร์ส ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาเป็นที่รู้จักในอังกฤษ จุดสูงสุดในอาชีพการค้าแข้งคือ ช่วงเวลาที่เล่นให้กับเชลซี ระหว่างปี 2000-2006 (15 กันยายน 2025) [1]

จุดเริ่มต้นที่ก้าวเข้าสู่วงการฟุตบอล และค่าเหนื่อยเป็นแบบใด

โดยเจ้าตัวเริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลกับ สโมสรวาลูร์ เรคยาวิกในไอซ์แลนด์ ตั้งแต่อายุยังน้อย ก่อนจะสร้างปรากฏการณ์สำคัญ ด้วยการลงเล่นให้กับทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรก ในปี 1996 จากนั้นเขาย้ายไปอยู่กับพีเอสวี ไอนด์โฮเฟนในประเทศเนเธอร์แลนด์ แต่ก็ประสบปัญหาอาการบาดเจ็บหนักที่ข้อเท้า ทำให้ต้องกลับมาพักฟื้นที่บ้านเกิดชั่วคราว

ก่อนจะได้รับโอกาสสำคัญอีกครั้ง เมื่อทีมโบล์ตัน วันเดอเรอร์ส ในลีกอังกฤษเซ็นสัญญาคว้าตัวไปร่วมทีม ในช่วงที่เขาประสบความสำเร็จสูงสุด กับสโมสรระดับโลกอย่างเชลซี และย้ายมาร่วมทีมกับบาร์เซโลนาในช่วงฤดูกาล 2000 และหมดสัญญาในปี 2006

ซึ่งมีการต่อสัญญาของเขาได้ โดยจะขยายระยะเวลาออกไปอีก 2 ปี ทำให้เขาจะค้าแข้งกับสโมสรไปจนถึงปี 2008 ศูนย์หน้าชาวไอซ์แลนด์รายนี้ ได้บรรลุข้อตกลงในสัญญาฉบับใหม่ระยะยาว 4 ปี ซึ่งจะทำให้เขาได้รับค่าเหนื่อยเพิ่มขึ้นเป็น 55,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ (14 เมษายน 2012) [2]

ผลงานบนเส้นทางลูกหนังของไอเดอร์ กุ๊ดยอห์นเซ่น

บันทึกการเล่นให้กับสโมสรอาชีพ

เมื่อปี 1994 ค้าแข้งให้กับทีม พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ลงเล่นไป 17 นัด ประตูที่ทำได้7 ลูก
เมื่อปี 1995-1998 ค้าแข้งให้กับทีม เคอาร์ เรคยาวิก ลงเล่นไป 13 นัด ประตูที่ทำได้ 3 ลูก
เมื่อปี 1998 ค้าแข้งให้กับทีม โบลตัน วันเดอเรอร์ส ลงเล่นไป 6 นัด
เมื่อปี 1998-2000 ค้าแข้งให้กับทีม เชลซี ลงเล่นไป 55 นัด ประตูที่ทำได้ 18 ลูก
เมื่อปี 2000-2006 ค้าแข้งให้กับทีม บาร์เซโลนา ลงเล่นไป 186 นัด ประตู 54 ลูก
เมื่อในปี 2006-2009 ค้าแข้งให้กับทีม โมนาโก ลงเล่นไป 72 นัด ยิงไป 10 ประตู
เมื่อในปี 2009-2010 ค้าแข้งให้กับสโมสร ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (ยืมตัว) ลงเล่นไป 11 นัด ประตูที่ทำได้ 1 ลูก
เมื่อในปี 2010 เล่นให้กับสโมสร สโต๊คซิตี้ ลงสนามไป 4 นัด
เมื่อในปี 2011 เล่นให้กับสโมสร ฟูแล่ม (ยืมตัว) ลงเล่นไป 10 นัด
เมื่อในปี 2010-2011 เล่นให้กับสโมสร เออีเค เอเธนส์ ลงเล่นไป 10 นัด ยิงไป 1 ประตู
เมื่อในปี 2011-2012 เล่นให้กับทีม เซอร์เคอร์ บรูซ ลงสนามไป 13 นัด ประตูที่ทำได้ 6 ลูก
เมื่อในช่วงปี 2012-2014 เล่นให้กับทีม คลับ บรูกก์ ลงสนามไป 46 เกม ยิงไป 7 ประตู
เมื่อในช่วงปี 2014-2015 เล่นให้กับทีม โบลตัน วันเดอเรอร์ส ลงสนามไป 21 เกม ยิงไป 5 ประตู
เมื่อในช่วงปี 2015-2016 เล่นให้กับทีม Shijiazhuang Ever Bright ลงสนามไป 14 เกม ยิงไป 1 ประตู
เมื่อในช่วงปี 2016 เล่นให้กับทีม Molde ลงเล่นไป 23เกม ซับไป 1 ประตู
และสุดท้ายลงเล่นรวมทุกรายการ อยู่ทั้งหมด 500 นัด ซับไป 114 ประตู

สถิติการรับใช้ทีมชาติ ไอซ์แลนด์

ในช่วงปี 1992-1994 ยู17 ลงสนามไป 27 เกม ซับไป 6 ประตู
ในช่วงปี 1994 ยู19 ลงสนามไป 9 เกม ซับไป 2 ประตู
ในช่วงปี 1994-1998 ยู21 ลงสนามไป 11 เกม ซับไป 5 ประตู
ในช่วงปี 1996-2016 ลงสนามรวมทุกรายการ อยู่ทั้งหมด 88 เกม ซับไป 26 ประตู

การพัฒนาฝีเท้าอย่างต่อเนื่องของกุ๊ดยอห์นเซ่น

โดยเขาแสดงให้เห็นถึง การพัฒนาฝีเท้าอย่างต่อเนื่อง ด้วยการปรับบทบาทการเล่น ตามความต้องการของทีม และผู้จัดการที่ทีมโบล์ตัน วันเดอเรอร์ส เขาเริ่มต้นในฐานะกองหน้าตัวเป้า ที่มีสัญชาตญาณการทำประตูสูง ก่อนจะย้ายไปเชลซี และพัฒนาการเป็นคู่หูที่ลงตัวกับจิมมี่ ฟลอยด์ ฮัสเซลเบงค์ ภายใต้การคุมทีมของโชเซ่ มูรินโญ่ การอยู่ที่ทีมเชลซีนั้น เขาถูกปรับให้เล่นเป็นกองหน้าตัวต่ำหรือ มิดฟิลด์ตัวรุกมากขึ้น

บทบาทนี้ เน้นความฉลาดในการเชื่อมเกม การจ่ายบอล และวิสัยทัศน์ที่ยอดเยี่ยม การปรับตัวครั้งนี้ ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นที่ครบเครื่อง และมีความยืดหยุ่นทางแทคติกสูง สามารถประสานงานกับกองกลาง และกองหน้าได้อย่างลงตัว

การสร้างชื่อกับเชลซี และบทบาทสำคัญในยุคมูรินโญ่

โดยไอเดอร์กุ๊ดยอห์นเซ่นนั้น สร้างชื่อเสียงอย่างแท้จริงกับเชลซี โดยเริ่มต้นจากการเป็นคู่หูที่อันตรายกับจิมมี่ ฟลอยด์ ฮัสเซลเบงค์ และทำประตูรวมกันได้อย่างถล่มทลาย ในฤดูกาลแรกๆ อย่างไรก็ตาม บทบาทที่โดดเด่นที่สุดของเขา เกิดขึ้นเมื่อโชเซ่ มูรินโญ่ เข้ามาคุมทีมในปี 2004

ซึ่งมูรินโญ่เล็งเห็นความสามารถทางเทคนิค ที่หลากหลายของเขา จึงถูกปรับจากกองหน้าตัวเป้า มาเล่นในตำแหน่งที่ถอยต่ำลงมา เป็นกองหน้าตัวต่ำ หรือมิดฟิลด์ตัวรุก โดยบทบาทใหม่นี้ ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นที่เชื่อมเกม จากกองกลางอย่าง แฟรงค์ แลมพาร์ด ไปสู่กองหน้าตัวเป้าอย่าง ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ได้อย่างราบรื่น

เส้นทางแห่งความภาคภูมิใจของไอเดอร์ กุ๊ดยอห์นเซ่น เป็นยังไง

ผลงานและรางวัลที่ได้รับของเขา ช่วยพาทีมสิงห์บลู คว้าแชมป์ลีกสูงสุดอย่าง พรีเมียร์ลีก 2 สมัยติด ในฤดูกาล 2004-2005 และ 2005-2006
ช่วยพาทีมคว้าแชมป์ ลีกคัพ 1 สมัย ในช่วงปี 2005
ช่วยพาทีมคว้าแชมป์ คอมมิวนิตีชีลด์ 2 สมัย ในฤดูกาล 2000-2001 และ 2005-2006
และช่วยพาทีมบาร์เซโลนา คว้าแชมป์ ลาลีกา สเปน 1 สมัย ในฤดูกาล 2008-2009
ช่วยพาทีมคว้าแชมป์ โกปาเดลเรย์ 1 สมัย ในช่วงฤดูกาล 2008-2009
ช่วยพาทีมคว้าแชมป์ ซูเปร์โกปาเดเอสปัญญา 2 สมัย ตั้งแต่ฤดูกาล 2006-2007 และ 2009-2010
ช่วยพาทีมคว้าแชมป์ ยูฟ่าซูเปอร์คัพ 1 สมัย ในช่วงฤดูกาล 2009-2010
และสุดท้ายช่วยพาทีมคว้าแชมป์ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 1 สมัย ในช่วงฤดูกาล 2008-2009

ที่มา: Eidur Gudjohnsen (2025) [3]

บทสรุป ไอเดอร์ กุ๊ดยอห์นเซ่น ตำนานกองหน้า

ใจความสำคัญของ ไอเดอร์ กุ๊ดยอห์นเซ่น ตำนานกองหน้า นับว่าเป็นบุรุษลูกหนังแห่งไอซ์แลนด์ และเป็นตำนานที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ในระดับสโมสรกับเชลซี และบาร์เซโลนา เขาได้รับการยกย่อง จากความสามารถทางเทคนิคที่หลากหลาย และมีบทบาทที่สำคัญในการนำพาทีมเชลซี คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก และการคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกกับบาร์เซโลนาอีกด้วย

ก้าวแรกในอาชีพและการพัฒนาฝีเท้าในยุโรป เป็นยังไง

โดยก้าวแรกของไอเดอร์ กุ๊ดยอห์นเซ่น ในอาชีพนักฟุตบอลเริ่มต้นที่ไอซ์แลนด์ ก่อนจะย้ายสู่สโมสรยุโรปอย่าง พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน แต่ก็ประสบปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน เขาพัฒนาฝีเท้าอย่างแท้จริงกับ โบล์ตัน วันเดอเรอร์ส ในประเทศอังกฤษ ก่อนจะสร้างชื่อกับทีมเชลซี ในฐานะกองหน้าตัวเก่งผู้มีทักษะครบเครื่อง

กุ๊ดยอห์นเซ่นกับมรดก แห่งวงการฟุตบอลไอซ์แลนด์

นับว่าเป็นตำนานนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชาวไอซ์แลนด์ เป็นทั้งผู้สร้างแรงบันดาลใจ และผู้บุกเบิกเส้นทางให้นักเตะรุ่นหลัง เขาสร้างมรดกที่ล้ำค่า ด้วยการเป็นผู้เล่นคนแรกที่พาชื่อเสียงของประเทศเล็กๆ ไปประสบความสำเร็จในสโมสรระดับโลกอย่าง เชลซี และบาร์เซโลนา แถมยังการเป็นผู้ทำประตูสูงสุดในทีมชาติ และเป็นส่วนหนึ่งของชุดลุยศึกยูโร 2016 อีกด้วย