
ไททัน สายล่องหน ยักษ์ที่หายตัวได้ใต้แป้น
- Harry P
- 52 views
ไททัน สายล่องหน เชต โฮล์มเกรน (Chet Holmgren) คือหนึ่งในผู้เล่น ที่สร้างคำถามใหม่ ให้กับทุกตำราเก่า ของตำแหน่งเซนเตอร์ใน NBA เขาไม่ได้มีรูปลักษณ์ แบบผู้คุมใต้แป้นที่คู่แข่งจะหวั่นเกรง ตอนแรกเห็น แต่ที่น่าตกใจคือ การปรากฏตัวของเขา ที่แทบมองไม่เห็น แต่มีผลกระทบลึกซึ้งในทุกพื้นที่
เมื่อพูดถึงคำว่า “ยักษ์” ในโลกของ NBA คนส่วนใหญ่ มักนึกถึงภาพร่างสูงใหญ่ กล้ามโต ขยับช้า หนักแน่น แต่เชต โฮล์มเกรนกลับเปลี่ยนความคิดนั้นทั้งหมด
เขาไม่ได้เดินมาในสนาม แบบไททัน ที่เสียงฝีเท้าดังสนั่น แต่กลับเหมือน “ไททันสายล่องหน” ที่ร่างสูง 7 ฟุต 1 นิ้ว และเดินผ่านคุณไป โดยไม่ทิ้งร่องรอย จนคุณตัดสินใจชู้ตลูกขึ้นไป แล้วพบว่าเงาร่างบางๆนั้น กำลังลอยขึ้นมาสกัดคุณไว้ได้ทัน ก่อนที่คุณจะรู้ตัวเสียอีก
เชต โฮล์มเกรนคือปรากฏการณ์ ตั้งแต่ระดับไฮสคูล ด้วยความสูงเกิน 7 ฟุตแต่สามารถครองบอล ลากเลื้อย และยิงสามแต้มได้แบบการ์ด จุดเด่นที่ทำให้เขาไม่เหมือนใครคือ “frame” ที่ดูบางจนน่าเป็นห่วง แต่กลับมีทักษะทางร่างกาย ที่ควบคุมจังหวะได้อย่างลึกซึ้ง
ไม่ว่าจะในเกมระดับ NCAA หรือเวที FIBA รุ่นเยาวชน เขาก็สร้างความประหลาดใจ ให้ทุกคนด้วยการ “บล็อกจากเงา” เหมือนมีอีกตัวตนหนึ่ง ที่รอปิดเกม จากมุมที่ไม่มีใครคาด แต่เส้นทางของเขา ก็ไม่ได้สวยงามตลอด เมื่อถูกดราฟต์โดย OKC Thunder ปี 2022
โฮล์มเกรนกลับต้องพลาด ทั้งฤดูกาลแรก จากอาการเจ็บเท้ารุนแรง เสียงวิจารณ์ดังขึ้นทันทีว่า เขาอาจไม่เหมาะกับลีกนี้ ด้วยน้ำหนักตัว ที่ยังไม่ถึงมาตรฐานเซนเตอร์ทั่วไป แต่ฤดูกาล 2023-24 ที่โฮล์มเกรนกลับมา เขาไม่ได้แค่เหมาะสม แต่เขากลับกลืนสไตล์ NBA เข้ากับ DNA ของตัวเองได้อย่างสมบูรณ์ [1]
สิ่งที่ทำให้เชต โฮล์มเกรนแตกต่างจากเซนเตอร์ยุคใหม่ อย่างวิคเตอร์ เวมบันยามา (Victor Wembanyama) ไม่ใช่เพียงรูปร่าง หรือตำแหน่งในดราฟต์ แต่คือ “วิธีคิดเกม” เวมบันยามาอาจเหมือนหอคอย ที่ยิงเลเซอร์ได้ แต่โฮล์มเกรนเหมือนม่านควันล่องหน ที่อยู่ในทุกที่โดยไม่รู้ตัว
โฮล์มเกรนอ่านจังหวะ ก่อนเพลย์จะเริ่ม เขาบล็อกด้วย timing และมุมมอง ไม่ใช่แค่ด้วยความสูง เขาไม่พุ่งชน แต่ถอยหายไปจากสายตา แล้วกลับมาปิดเกม มีหลายครั้งที่ผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม คิดว่าเจอช่องว่าง ในการเลย์อัพแล้ว แต่กลับต้องตกใจ เมื่อเห็นมือบางๆ โผล่มาจากมุม ก่อนที่จะสกัดลูกในจังหวะสุดท้าย
โฮล์มเกรนไม่ใช่บล็อกเกอร์ธรรมดา เขายังเป็นเครื่องมือ ในเกมบุกของ OKC ที่ทำให้คู่แข่งสับสน เขาอาจจะไม่ได้ใช้พลังแบบโจเอล เอ็มบีด (Joel Embiid) หรือนิโคลา โยคิช (Nikola Jokic) แต่เขายิงสามแต้มแบบเควิน ดูแรนท์ (Kevin Durant) และสามารถลากบอล coast-to-coast ได้แบบตัวการ์ด
โฮล์มเกรนเปิดพื้นที่ให้ ไช กิลเจียส-อเล็กซานเดอร์ (Shai Gilgeous-Alexander) ทำงานได้ง่ายขึ้นด้วย pick-and-pop ที่มีศักยภาพในการยิงไกล และเมื่อคู่แข่งขยับออก เขาก็สามารถลุยทะลุวงใน โดยไม่จำเป็นต้องปะทะตรงๆ ด้วยสรีระที่ยาวเป็นพิเศษ [2]
โฮล์มเกรนใช้ความยืดหยุ่นของร่างกาย และความนุ่มนวลในจังหวะ ช่วยให้การเลย์อัพดูเหมือนไม่มีแรงปะทะ แต่กลับมีประสิทธิภาพสูง เงียบ และแม่น ราวกับภาพลวงตา
โฮล์มเกรนคือผู้เล่นที่ “อ่อนแอ” แต่อยู่รอดได้ในลีก ที่ร่างกายแทบจะฆ่ากันได้ทุกเกม
สิ่งที่คนไม่ค่อยพูดถึงคือ โฮล์มเกรนอาจเป็นหนึ่งในผู้เล่น ที่ไม่มีตัวตนชัดเจนบนสนาม มากที่สุดในลีก ไม่ใช่เพราะเขาไม่เก่ง แต่เพราะเขาเล่น ในแบบที่เงียบเกินไป ไม่มีท่าดังก์หวือหวา ไม่มีการแสดงออกดุดันหลังบล็อก ไม่มี highlight ต่อเนื่องแบบ Zion Williamson หรือ Giannis Antetokounmpo
แต่นี่แหละ คือสิ่งที่ทำให้เขา “อยู่ได้นาน” และเข้าได้กับทุกระบบ ยิ่งทีมเก่งขึ้น โฮล์มเกรนยิ่งมีค่า เพราะเขาไม่แย่งจุดสนใจ แต่ช่วยให้ระบบ ทำงานลื่นไหลอย่างน่าเหลือเชื่อ และคำแนะนำสำหรับสายฝึก การอ่านเกม สำคัญกว่ากล้ามเนื้อ ไม่ต้องตัวใหญ่ แต่ต้องรู้ว่าคู่แข่ง จะไปทางไหนก่อนเขาจะขยับ
สถานการณ์ปัจจุบันของโฮล์มเกรน และอนาคตที่น่าจับตา
ในฤดูกาล 2024-25 OKC Thunder กลายเป็นทีมที่น่ากลัวมากที่สุดทีมหนึ่ง ในฝั่งตะวันตก และไม่มีใครต้องเล่นใหญ่เกินบท ถ้าโฮล์มเกรนยังคงพัฒนาเกมรุก และรักษาร่างกายให้แข็งแรง เขาอาจเป็น “เสาหลัก” แบบที่ไม่เคยมีในประวัติศาสตร์ NBA ยักษ์ที่ไม่สร้างเงา แต่ควบคุมทั้งแป้นด้วยความว่างเปล่า [3]
จึงกล่าวได้ว่า ไททัน สายล่องหน อย่างโฮล์มเกรน ไม่ได้เปลี่ยนเกมด้วยพละกำลัง หรือความเร็ว แต่เปลี่ยนด้วยความเข้าใจ และความแนบเนียน เขาคือคำตอบของยุค ที่ความซับซ้อนต้องการความเงียบ เขาคือไททัน ที่ไม่ต้องคำราม แค่ยืนอยู่ เกมก็จะเปลี่ยน
คือการเปรียบเปรยว่าโฮล์มเกรน เป็นผู้เล่นร่างยักษ์ ที่ไม่ได้ใช้พลังอัดใครตรงๆ แต่ใช้ความเข้าใจเกม การหายตัวไปจากสายตา และจังหวะที่เงียบสงบ ในการควบคุมทั้งเกมรับ และเกมรุกอย่างแนบเนียน
เริ่มจากการอ่านเกมให้ขาด, ไม่ยึดติดกับตำราเดิม, และฝึกการควบคุมจังหวะกับพื้นที่ มากกว่าการเล่นด้วยพละกำลัง หรือความเร็วเพียงอย่างเดียว