แหล่งรวมเกมส์ชั้นนำ สล็อต คาสิโน บาคาร่า พร้อมระบบล้ำทันสมัย รวดเร็วทันใจ

แรงกระแทก จากแถวสอง พลังที่เปลี่ยนสมดุลของนิกส์

แรงกระแทก จากแถวสอง

แรงกระแทก จากแถวสอง ในโลกของ NBA ที่เต็มไปด้วยเสียงปรบมือ ให้กับการชู้ตสามแต้ม จากระยะไกล “จอช ฮาร์ต” คือคนที่ไม่เคยสนใจจะขึ้นเวทีนั้น เขาเลือกใช้วิธีที่ตรงข้าม ไม่วิ่งเข้าแย่งซีนใคร แต่กระแทกเข้าใส่ ในจังหวะที่ไม่มีใครเห็น และก่อนที่ใครจะรู้ตัว เขาก็ทำให้เพลย์นั้นเปลี่ยนไปแล้ว

  • บทบาทของจอช ฮาร์ตในทีมนิวยอร์ก นิกส์
  • สถิติใดของจอช ฮาร์ตในฤดูกาล 2024-25
  • โปรไฟล์ของจอช ฮาร์ตโดยย่อ

ชายที่ไม่ได้ชู้ตเยอะ แต่ทำให้เกมเปลี่ยน

แรงกระแทก จากแถวสอง จอช ฮาร์ต (Josh Hart) ไม่ใช่ผู้เล่น ที่อยู่บนป้ายโฆษณาหน้าสนาม Madison Square Garden และเขาไม่ได้อยู่ในรายชื่อผู้ลุ้น All-Star ด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่เขาทำ ในแต่ละเกม มักเป็นสิ่งที่กล้องถ่ายทอดสด จับไม่ทัน

การแทรกเข้ามารีบาวด์ ตอนที่ไม่มีใครคิด ว่าบอลจะเด้งมา, การแย่งตำแหน่งใต้แป้น จากเซนเตอร์อีกฝั่ง, หรือการอ่านเพลย์ล่วงหน้า แล้วพุ่งเข้าชนผู้เล่นคนสำคัญ แบบไม่มี hesitation สิ่งเหล่านี้แหละ ที่เบี่ยงเกม โดยไม่ต้องใช้ลูกชู้ตเลย แม้แต่ครั้งเดียว

ในระบบของโค้ชทอม ธิโบโดว์ ที่เน้นเกมรับเป็นหลัก ฮาร์ตกลายเป็นฟันเฟือง ที่ขาดไม่ได้ เขาไม่ได้วิ่งเข้าเพลย์ เหมือนคนอื่นๆ เพราะเขาเล่นก่อนเพลย์จะเริ่ม เขาคือแรงกระแทกจากแถวสอง ที่ไม่ใช่ตัวเปิดเกม แต่เป็นตัวที่เปลี่ยนเกมทันที ที่เข้าชน

สถิติที่ไม่ดัง แต่เด่นกว่าคำว่าแต้ม

แรงกระแทก จากแถวสอง

ฤดูกาล 2024-25 คืออีกปีที่ฮาร์ตพิสูจน์ว่าเขา ไม่ได้ต้องการแสงไฟ เพื่อสร้างผลกระทบกับทีม จากสถิติล่าสุด (อัปเดต ณ กลางฤดูกาล) ฮาร์ตมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 13.6 คะแนน, 9.6 รีบาวด์ (สูงกว่าผู้เล่นหลายคน ที่ตัวสูงกว่าเขา), 5.9 แอสซิสต์, 1.5 สตีล ในเวลาเฉลี่ย 37.6 นาทีต่อเกม (23 มิถุนายน 2025) [1]

ค่าการมีส่วนร่วมต่อการชนะ (Win Shares) ยังแสดงให้เห็นว่าเขาอยู่ใน Top 3 ของนิวยอร์ก นิกส์ (New York Knicks) โดยเฉพาะด้าน Defensive Win Shares ที่เขาเบียดกับตัวหลักอย่างโอจี อานูโนบี (OG Anunoby) และมิตเชลล์ โรบินสัน (Mitchell Robinson) ได้อย่างสูสี

แต่สิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเลข คือวิธีที่เขาสร้าง “จังหวะที่สอง” ให้ทีม ไม่ว่าจะเป็น Second-chance Point หรือการควบคุม Transition ให้คู่แข่ง ไม่สามารถเร่งเกมได้ตามใจ

ความสำคัญของแถวสอง ในระบบของทอม ธิโบโดว์

โค้ชทอม ธิโบโดว์เคยกล่าวไว้ว่า “เราต้องมีคนที่ไม่ได้สนใจตัวเลข แต่สนใจผลลัพธ์” และจอช ฮาร์ตคือภาพสะท้อน ของคำพูดนั้นอย่างสมบูรณ์

แม้นิวยอร์ก นิกส์จะมีผู้เล่นสายสร้างแต้มอย่าง จาเลน บรันสัน (Jalen Brunson) ดาบคู่ ในร่างเดียว หรือจูเลียส แรนเดิล (Julius Randle) เป็นตัวหลัก แต่คนที่ธิโบโดว์เลือกให้ลง ในช่วงวินาทีสำคัญ กลับเป็นฮาร์ต เพราะเขาเชื่อใจได้ในทุกจังหวะที่ต้อง ตัดสินใจเร็ว และแม่นยำ

ฮาร์ตสามารถเล่นได้ ทั้งตำแหน่ง Shooting Guard และ Small Forward และในระบบแบบนิกส์ เขาคือ “แกนกลางของการซ้อน” ที่คอยล้อมผู้เล่นคู่แข่ง แบบที่ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ผลลัพธ์คือ คู่แข่งจะถูกบีบจนเสียสมดุล

เส้นทางจากดราฟต์อันดับท้าย สู่หัวใจของนิวยอร์ก

แรงกระแทก จากแถวสอง

ฮาร์ตเกิดเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 1995 ที่เมืองซิลเวอร์สปริง รัฐแมริแลนด์ เขาไม่ใช่ผู้เล่น ที่ถูกปั้นมาตั้งแต่มัธยมว่า “จะเป็นดาว” เขาคือดราฟต์อันดับ 30 โดย Utah Jazz ในปี 2017 ก่อนจะถูกเทรดไป Lakers และวนเวียนอยู่กับหลายทีม ก่อนจะมาสร้างชื่อจริงจังกับนิกส์ (9 กรกฎาคม 2025) [2]

ฮาร์ตไม่เคยติด All-Star ไม่เคยเป็นผู้นำแต้มของทีม แต่เขา “ทำให้ทีมชนะมากขึ้น” ทุกครั้งที่เขาอยู่ในสนาม การที่นิวยอร์ก นิกส์ยอมต่อสัญญา ด้วยมูลค่าที่เกือบแตะ 100 ล้านเหรียญ คือเครื่องยืนยันว่า แม้จอช ฮาร์ตจะไม่ดัง แต่ก็ไม่มีใครกล้าปล่อยเขาไป (28 มีนาคม 2025) [3]

มุมที่ฮาร์ตไม่ค่อยถูกพูดถึง สิ่งที่ตัวเลขบอกไม่หมด

แรงกระแทก จากแถวสอง อย่างจอช ฮาร์ตคือหนึ่งในผู้เล่นไม่กี่คน ที่ใช้ rebound เป็นภาษาหลักของเกม แบบไม่ได้มีบอลเป็นอาวุธ เขาทำ transition defense ได้เร็วที่สุดในทีม มีค่า +/– ที่สูงกว่าผู้เล่นตัวจริงบางคนใน 4th Quarter และเขาไม่เคยลดความเร็ว แม้จะเล่น 35 นาทีบวก

“เขาไม่ใช่คนที่เล่นดีใน highlight เขาเล่นดีในทุกช่องที่ highlight ไม่จับ” คำกล่าวจากผู้บรรยายเกม Knicks-Pacers

ถ้าไม่มีจอช ฮาร์ตเกมของนิวยอร์ก นิกส์จะลดความหนักแน่นไปมาก ความเร็วอาจยังมี แต่แรงกระแทก ที่ทำให้คู่แข่งล้มจังหวะจะหายไป

ถ้าคุณอยากเรียนรู้บาสจากฮาร์ต

หากคุณเป็นผู้เล่น ที่ไม่ถนัดชู้ต หรือไม่ได้สูงใหญ่ ฮาร์ตคือโมเดลที่ควรศึกษา สิ่งที่เขาทำได้คือ การยืนตำแหน่ง ให้ได้เปรียบก่อนคู่แข่งจะถึงบอล การอ่านเกมรับได้ ในขณะที่วิ่งอยู่ และไม่เสียสมาธิไป กับการไม่ได้บอล ต้องเลือกชนคนที่ใช่ ในจังหวะที่จะเปลี่ยนเกมได้

นักบาสสมัครเล่น และกึ่งอาชีพที่เข้าใจสิ่งนี้ จะสามารถมี Impact ได้ในระดับสูง โดยไม่ต้องมีพรสวรรค์ แบบดาวรุ่งดราฟต์ต้นๆ

ผลก็คือ ไม่ต้องชู้ตเยอะ ถ้าทุกก้าวที่วิ่งคือการอ่านเกม

บทสรุป จอช ฮาร์ตคือนิยามของ “พลังเงียบ” ในโลก NBA เขาไม่จำเป็นต้องอยู่ในภาพโปสเตอร์ และอาจไม่ใช่ปีก ที่บินได้สูงที่สุด ไม่ใช่การ์ดที่ชู้ตแม่นที่สุด แต่เขาคือแรงกระแทก ที่ไม่มีใครกันได้ และในยุคที่ทุกทีมวิ่งเร็วขึ้น แต่ไม่มีใครหยุดทันจอช ฮาร์ตคือจังหวะ ที่จะทำให้ทั้งเกมชะงักไปชั่วพริบตา

ทำไมธิโบโดว์ ให้ความสำคัญกับฮาร์ตในช่วงท้ายเกม ?

เพราะฮาร์ตตัดสินใจได้แม่นยำ ในเวลาสำคัญ เล่นเกมรับได้หลายตำแหน่ง และช่วยซ้อนเกม แบบไม่ต้องสั่ง เขาคือคนที่ทำให้ระบบของโค้ชแน่นขึ้น

นักบาสทั่วไปสามารถเรียนรู้อะไรได้จากฮาร์ต ?

การยืนตำแหน่ง การวิ่งแบบเข้าใจเกม การไม่เสียสมาธิแม้ไม่มีบอล และการรู้ว่าจังหวะไหน “ควรชน” เพื่อเปลี่ยนเกม คือสิ่งที่จอช ฮาร์ตทำได้อย่างเฉียบคม

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง