
ทำความรู้จัก เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ซาร์ อดีตโกลจอมเก๋า
- sun-31
- 36 views

เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ซาร์ อดีตโกลจอมเก๋า คือผู้รักษาประตูชาวดัตช์ที่ได้รับการยกย่อง ให้เป็นหนึ่งในนายทวารที่ยอดเยี่ยมที่สุด ในประวัติศาสตร์ฟุตบอล ด้วยความสามารถที่โดดเด่น ทั้งการเซฟที่เยือกเย็น และการใช้เท้าเล่นบอลที่เหนือกว่าผู้เล่นในยุคเดียวกัน เขาประสบความสำเร็จอย่างสูงกับสองสโมสรยักษ์ใหญ่ คือ อาแจ็กซ์ และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
โดยประวัติของเอ็ดวิน ฟานเดอร์ซาร์ (Edwin van der Sar) ลืมตาดูโลกครั้งแรก เมื่อวันที่ 29 เดือนตุลาคม 1970 สถานที่เกิดในเมือง Voorhout ของประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเขาเริ่มเส้นทางลูกหนังตั้งแต่ยังเป็นเยาวชนกับสโมสรในบ้านเกิดอย่าง Foreholte ก่อนจะย้ายไปพัฒนาฝีมือกับ VV Noordwijk
แม้จะมีรูปร่างสูงใหญ่ถึง 1.97 เมตร แต่การค้นพบพรสวรรค์ของเขา ถือว่าค่อนข้างช้ากว่าผู้เล่นร่วมรุ่น จนกระทั่งถูกแมวมองของ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม สโมสรยักษ์ใหญ่ของเนเธอร์แลนด์ สังเกตเห็นและดึงตัวเข้าร่วมทีมในปี 1990 ขณะที่มีอายุประมาณ 20 ปี (25 พฤศจิกายน 2025) [1]
เส้นทางอาชีพของเอ็ดวิน ฟาน เดอร์ซาร์ เป็นการเดินทางของความสำเร็จที่ยาวนานจากฮอลแลนด์สู่ลีกชั้นนำของยุโรป เขาเริ่มต้นโด่งดังสุดขีดกับ อาแจ็กซ์ ในช่วงฤดูกาล 1990-1999 ก่อนจะย้ายไปลองความท้าทายใหม่ๆ กับทีมยูเวนตุส ในอิตาลี ซึ่งเป็นก้าวที่สำคัญแต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
ต่อมา เขาได้ย้ายมาสร้างชื่อในพรีเมียร์ลีกกับทีมฟูแล่ม ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาสำคัญ ที่ทำให้เขากลับมาอยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยมอีกครั้ง และได้ย้ายไปร่วมทีมในฝันอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 2005 ขณะที่มีอายุ 34 ปี
ในช่วงพีคกับแมนยู ฟาน เดอร์ซาร์ได้รับค่าเหนื่อย อยู่ในกลุ่มนักเตะระดับสูงของทีม โดยมีรายงานว่าเขาได้รับค่าเหนื่อยประมาณ 50,000 ถึง 70,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ซึ่งสะท้อนถึงมูลค่าและประสบการณ์ของเขา ในฐานะผู้รักษาประตูระดับโลก ที่ช่วยเติมเต็มจุดอ่อนของทีมในยุคนั้น และปัจจุบันเขามีทรัพย์สินอยู่ราวประมาณ 21 ล้านเหรียญสหรัฐ (28 พฤศจิกายน 2025) [2]
ภาพรวมการค้าแข้งในระดับสโมสร
สถิติการลงสนามกับทีมชาติ เนเธอร์แลนด์
และสุดท้ายในปี 1995-2008 ลงสนามรวมทุกรายการ อยู่ทั้งหมด 130 เกม

โดยนายทวารคนนี้ มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง ในฐานะผู้รักษาประตูมือหนึ่ง ของทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ตลอดระยะเวลาเกือบ 13 ปี เขาถือเป็นผู้เล่นที่ลงสนามให้ทีมชาติดัตช์มากที่สุด ในยุคนั้น โดยมีสถิติการลงเล่นถึง 130 นัด
เขานำทีมอัศวินสีส้ม ผ่านเข้าสู่รอบลึกของ การแข่งขันใหญ่หลายครั้ง ทั้งฟุตบอลโลกและฟุตบอลยูโร โดยฟอร์มที่โดดเด่นของเขา ในทัวร์นาเมนต์ต่างๆ มักจะรวมถึงการเซฟจุดโทษที่สำคัญ และความเยือกเย็นที่สร้างความมั่นใจ ให้กับเพื่อนร่วมทีม เช่นเดียวกันกับ นีล ซัลลิแวน
หนึ่งในสถิติที่น่าจดจำของเขาคือ การรักษาสถิติคลีนชีตได้นานที่สุด ในการแข่งขันฟุตบอลยูโร อยู่ราวประมาณ 589 นาที ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ และความเป็นผู้นำของเขาในทีมชุดสีส้ม
ฟอร์มระดับโลกของเอ็ดวิน ฟาน เดอร์ซาร์ ถูกนิยามด้วยความ เยือกเย็นและความนิ่ง ที่หาตัวจับยาก ซึ่งทำให้เขาได้รับฉายาว่า The Ice Rabbit โดยเขามักตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาด และแทบไม่แสดงอาการตื่นตระหนก ภายใต้ความกดดันใดๆ
เอกลักษณ์ที่ทำให้เขาแตกต่างจากนายทวารคนอื่น ในยุคนั้นคือ ความสามารถในการใช้เท้าเล่นบอลที่ยอดเยี่ยม ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นคนแรก ที่เริ่มการทำเกมบุกจากแนวรับตามสไตล์ Total Football ของฮอลแลนด์
ฟอร์มสุดพีคที่ถูกจารึกไว้คือ การเป็นฮีโร่ในนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก เมื่อในปี 2008 กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยเขาเซฟจุดโทษลูกสุดท้ายจาก นิโกล่าส์ อเนลก้า พาปีศาจแดง คว้าแชมป์ได้อย่างยิ่งใหญ่ และสถิติคลีนชีตยาวนานที่สุดในลีก (1,311 นาที) ในฤดูกาล 2008-2009 ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความคงเส้นคงวาของเขา ในฐานะนายทวารระดับตำนาน
ที่มา: Edwin van der Sar (2025) [3]
เรื่องราวในตอนจบของ เอ็ดวิน ฟานเดอร์ซาร์ อดีตโกลจอมเก๋า คือสุดยอดผู้รักษาประตูชาวดัตช์ ที่โดดเด่นด้วยความเยือกเย็น การใช้เท้าเล่นบอลที่ล้ำหน้า และรูปร่างที่สูงใหญ่ ทำให้เขาเป็นที่พึ่งพาได้อย่างแท้จริง เขาประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ในการคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกถึงสองครั้ง
โดยเรื่องราวของฟาน เดอร์ซาร์สร้างแรงบันดาลใจให้กับแฟนบอลด้วยการแสดงให้เห็นถึง คุณค่าของความอดทนและความคงเส้นคงวา เพราะเขาพิสูจน์ตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าในทุกสโมสรที่เขาเล่น แม้จะมีช่วงเวลาที่ยากลำบากหลังการย้ายออกจากอาแจ็กซ์ แต่เขาก็สามารถฟื้นฟูฟอร์มของตัวเองได้สำเร็จ ก่อนจะย้ายไปประสบความสำเร็จสูงสุดกับแมนยู
การพัฒนาของเขากับแมนยู คือการที่เขาก้าวขึ้นมาเป็น จิ๊กซอว์ตัวสุดท้าย ที่เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันตามหา เพื่อมาแทนที่ ปีเตอร์ ชไมเคิล ได้อย่างสมบูรณ์แบบ แม้จะย้ายมาร่วมทีมด้วยวัย 34 ปี แต่เขากลับแสดงให้เห็นถึง ความคงเส้นคงวาและความเป็นผู้นำอย่างสูง ทำให้แนวรับของทีมมีความมั่นคง และช่วยให้ทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก

