เวย์น บริดจ์ อดีตแบ็กซ้าย แห่งวงการฟุตบอลอังกฤษ

เวย์น บริดจ์ อดีตแบ็กซ้าย

เวย์น บริดจ์ อดีตแบ็กซ้าย นับว่าเป็นอดีตแบ็กซ้ายชาวอังกฤษ ที่โดดเด่นเรื่องการเติมเกมรุกและความแข็งแกร่ง เขาเริ่มต้นอาชีพที่เซาแธมป์ตัน ก่อนจะประสบความสำเร็จสูงสุดกับเชลซี โดยคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก และบอลถ้วยภายในประเทศหลายรายการ แถมยังเขาลงเล่นให้ทีมชาติอังกฤษถึง 36 นัดเลยทีเดียว

  • จุดเริ่มต้นของชีวิต และการเป็นนักเตะอาชีพ
  • บทพิสูจน์ความยิ่งใหญ่ในสนามของแข้งรายนี้
  • ตัวเลขที่เล่าความทุ่มเทของเวย์นบริดจ์

เจาะลึกโปรไฟล์ของ เวย์น บริดจ์

โดยเรื่องราวชีวิตของเวย์น บริดจ์ (Wayne Bridge) เกิดเมื่อวันที่ 5 เดือนสิงหาคม 1980 สถานที่เกิดในเมือง Southampton ของประเทศอังกฤษ เขาเริ่มต้นอาชีพกับเซาแธมป์ตัน

ก่อนจะย้ายไปเชลซีในปี 2003 และคว้าแชมป์สำคัญได้แก่ พรีเมียร์ลีก, เอฟเอคัพ และลีกคัพ รวมถึงเขารับใช้ทีมชาติรวมกันมากถึงสามสิบหกนัด และลงเล่นในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายสองครั้ง (27 ตุลาคม 2025) [1]

นอกจากนี้ ยังเป็นที่จดจำจากประตูชัยสุดสำคัญ ที่ยิงใส่คู่ปรับร่วมลีกอย่างอาร์เซนอล ในศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศในฤดูกาล 2003–2004

จุดเริ่มต้นในฝรั่งเศสกับโอลิมปิก มาร์กเซย เป็นแบบใด

สำหรับการเริ่มต้นอาชีพกับโอลิมปิก มาร์กเซย เปรียบเสมือนการเข้าสู่เวที ที่เต็มไปด้วยแรงกดดัน และความคาดหวังจากแฟนบอลที่คลั่งไคล้ที่สุด กลุ่มหนึ่งในยุโรป นักเตะเยาวชนที่เติบโตมาจากระบบของสโมสร หรือผู้เล่นอายุน้อยที่ย้ายเข้ามา จะถูกปลูกฝังให้มีความมุ่งมั่น และสไตล์การเล่นที่ดุดัน อันเป็นเอกลักษณ์ของทีมจากเมืองมาร์กเซย

ซึ่งทางสโมสรแห่งนี้นั้น มักใช้การแข่งขันในลีกเอิง และรายการยุโรปเป็นพื้นที่ในการขัดเกลา และทดสอบความสามารถของผู้เล่นอายุน้อยอย่างเข้มข้น มาร์กเซยจึงเป็นด่านแรกที่สำคัญ สำหรับผู้เล่นฝรั่งเศสหลายคนที่ต้องการพิสูจน์ตัวเอง เพื่อก้าวขึ้นไปสู่ทีมชาติ หรือย้ายไปเล่นในสโมสรระดับท็อปของโลกต่อไป

ช่วงเวลาแห่งความสำเร็จของเวย์น บริดจ์ เป็นยังไง

  • ผลงานที่โลกจดจำของเขา ช่วยพาสิงห์บลู คว้าแชมป์ลีกสูงสุดอย่าง พรีเมียร์ลีก 1 สมัย ในฤดูกาล 2004-2005
  • ช่วยพาทีมคว้าแชมป์ ลีกคัพ 2 สมัย ในช่วงปี 2005 และ 2007
  • และสุดท้ายช่วยพาทีมคว้าแชมป์ 1 สมัย ในช่วงปี 2007

ที่มา: Wayne Bridge (2025) [2]

บริดจ์กับบทบาท และค่าเหนื่อยที่ได้รับ

เวย์น บริดจ์ อดีตแบ็กซ้าย

โดยบทบาทหลักของเวย์น บริดจ์ คือการเป็นแบ็กซ้ายที่ทันสมัย ซึ่งสามารถผสมผสานหน้าที่เกมรับ และการเติมเกมรุกริมเส้นได้อย่างลงตัว เขาใช้ความทนทานของร่างกายและความเร็ว เพื่อรับมือกับปีกคู่แข่ง และมีวินัยในการกลับไปช่วยเกมรับอย่างสม่ำเสมอ

ซึ่งในช่วงที่ฟอร์มดีที่สุดของเขา ได้เข้าร่วมทีมเชลซีด้วยค่าตัว 7 ล้านปอนด์ ในขณะที่สโมสรกำลังเข้าสู่ยุคของโรมัน อับราโมวิช ซึ่งตอนนั้นเขาอายุเพียง 23 ปี และในฤดูกาลแรกที่สแตมฟอร์ดบริดจ์ เขาก็สามารถแสดงให้เห็นถึงความสำคัญ และกลายเป็นกำลังหลักของทีมได้ทันที (3 พฤษภาคม 2020) [3]

ฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นจนติดทีมชาติ และความขัดแย้งกับเทอร์รี

โดยฟอร์มที่โดดเด่นของเวย์นบริดจ์ สมัยอยู่กับเซาแธมป์ตัน ทำให้เขาถูกเลือกติด ทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของ PFA ในฤดูกาล 2001–2002 ก่อนจะถูกเรียกติดทีมชาติอังกฤษในปี 2002 และเป็นตัวเลือกสำคัญในตำแหน่งแบ็กซ้าย

ซึ่งเขาและ จอห์น เทอร์รี เคยเป็นทั้งเพื่อนร่วมทีมที่ใกล้ชิด ทั้งในสโมสรเชลซีและทีมชาติอังกฤษ โดยเป็นส่วนหนึ่งของแนวรับ ที่ช่วยให้เชลซีคว้าแชมป์ยุคแรกอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ได้พังทลายลง จากกรณีที่เทอร์รีมีความสัมพันธ์กับอดีตแฟนสาวของบริดจ์

จนนำไปสู่เหตุการณ์ ปฏิเสธการจับมือ ก่อนเกมระหว่างเชลซีกับแมนเชสเตอร์ ซิตี ในปี 2010 เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้บริดจ์ตัดสินใจ ประกาศถอนตัวจากทีมชาติอังกฤษ ก่อนถึงฟุตบอลโลก 2010 เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับเทอร์รี และยุติบทบาทในทีมชาติอย่างถาวร

ตัวเลขที่สะท้อนผลงานของ เวย์นบริดจ์ เป็นอย่างไร

สถิติการเล่น ให้กับทีมฟุตบอลอาชีพ

  • เมื่อปี 1998-2003 ค้าแข้งให้กับทีม Southampton ลงเล่นไป 151 นัด ประตูที่ทำได้ 2 ลูก
  • เมื่อปี 2003-2009 ค้าแข้งให้กับทีม Chelsea ลงเล่นไป 87 นัด ประตูที่ทำได้ 1 ลูก
  • เมื่อปี 2006 ค้าแข้งให้กับทีม Fulham (ยืมตัว) ลงเล่นไป 12 นัด
  • เมื่อปี 2009-2015 ค้าแข้งให้กับทีม Manchester City ลงเล่นไป 42 นัด
  • เมื่อในปี 2011 ค้าแข้งให้กับทีม West Ham United (ยืมตัว) ลงเล่นไป 15 เกม
  • เมื่อในปี 2012 เล่นให้กับทีม Sunderland (ยืมตัว) ลงสนามไป 8 เกม
  • เมื่อในปี 2012-2013 เล่นให้กับทีม Brighton & Hove Albion (ยืมตัว) ลงสนามไป 37 เกม ซับไป 3 ประตู
  • เมื่อในปี 2013-2014 เล่นให้กับทีม Reading ลงสนามไป 12 เกม
  • และสุดท้ายลงเล่นรวมทุกรายการ อยู่ทั้งหมด 364 เกม ซับไป 6 ประตู

 

ภาพรวมผลงานในการรับใช้ทีมชาติ อังกฤษ

  • ในช่วงปี 1998-1999 รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ลงสนามไป 3 เกม
  • ในช่วงปี 1999-2001 รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี ลงสนามไป 8 เกม
  • และในปี 2002-2009 ลงสนามรวมทุกรายการ อยู่ทั้งหมด 36 เกม ซับไป 1 ประตู



จึงกล่าวได้ว่า เวย์นบริดจ์ อดีตแบ็กซ้าย เป็นแบบใด

ท้ายที่สุดของ เวย์นบริดจ์ อดีตแบ็กซ้าย คืออดีตแบ็กซ้ายชาวอังกฤษที่ถูกจดจำในฐานะ ผู้เล่นที่มีความทุ่มเทและมีวินัย ทั้งในด้านเกมรับและการเติมเกมรุกริมเส้น แม้จะเป็นที่รู้จักในฐานะ ตัวหลักสลับสำรอง ในทีมระดับแชมป์ของเชลซี แต่เขาก็เป็นนักเตะคุณภาพสูงที่เคยติดทีมยอดเยี่ยมของ PFA

การรับมือกับความท้าทาย และอาการบาดเจ็บ เป็นอย่างไร

ซึ่งในด้านอาชีพของบริดจ์นั้น เป็นผู้เล่นที่มีความทุ่มเทสูง ในการกลับมาจากการบาดเจ็บ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยทำให้เขาพลาดการลงสนามติดต่อกัน 113 นัดในพรีเมียร์ลีก ส่วนความท้าทายส่วนตัวและทางอารมณ์ เขาต้องเผชิญกับแรงกดดันมหาศาล จากสื่อและสาธารณชน จากกรณีความขัดแย้งกับจอห์น เทอร์รี จนนำไปสู่การยุติอาชีพทีมชาติเพื่อ ปกป้องสุขภาพจิต

เวย์นบริดจ์ผู้เป็นแรงบันดาลใจ ให้กับนักเตะดาวรุ่ง

โดยเขามีการสร้างแรงบันดาลใจ ในฐานะผลผลิตจากศูนย์ฝึกเยาวชน ที่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นระดับโลก และติดทีมชาติอังกฤษ ในตำแหน่งแบ็กซ้ายสมัยใหม่ได้อย่างเต็มตัว นอกจากนี้ เขายังแสดงให้เห็นถึง ความสำคัญของความสม่ำเสมอ และความแข็งแกร่ง โดยเฉพาะสมัยอยู่กับเซาแธมป์ตัน ที่มีสถิติลงเล่นติดต่อกันในลีกยาวนานในขณะนั้น

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง