
เปลวเพลิง ใต้ระยะสามแต้ม ที่กำลังรอวันลุกโชน
- Harry P
- 68 views

เปลวเพลิง ใต้ระยะสามแต้ม จาบารี สมิธ จูเนียร์ (Jabari Smith Jr.) ไม่ใช่แค่ดาวรุ่งธรรมดา แต่คือฟอร์เวิร์ด ที่พร้อมเปลี่ยนการยืนข้างนอกวง ให้กลายเป็นเปลวเพลิงของเกม และในยุคที่ตำแหน่งไม่ตายตัว เขากำลังนิยามใหม่ว่า “จุดเริ่มต้นของภัยคุกคาม” บนคอร์ท อาจไม่ได้มาจากใต้แป้นเสมอไป
จาบารี สมิธถูกดราฟต์อันดับ 3 ในปี 2022 โดยทีม Houston Rockets ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงรีบิวด์ทีมใหม่อย่างจริงจัง ฤดูกาล 2024-25 เขาลงเล่น 57 เกม เป็นตัวจริง 39 เกม มีสถิติเฉลี่ย 12.2 คะแนน 7.0 รีบาวนด์ และ 1.1 แอสซิสต์ต่อเกม โดยมีเปอร์เซ็นต์การชู้ตสามแต้มอยู่ที่ 35.4%
ในช่วงท้ายฤดูกาล สมิธมีอาการบาดเจ็บที่มือ ส่งผลให้ตัวเลขของเขาดรอปลง เหลือเพียง 9.2 คะแนนใน 10 เกมสุดท้าย และจังหวะความมั่นใจ ก็พลอยลดลงไปด้วย เป็นช่วงเวลาที่แสดงให้เห็นว่า ความคงเส้นคงวา ยังเป็นหนึ่งในโจทย์ใหญ่ของเขา
แม้จะยังไม่ถึงจุดระเบิดเต็มตัว แต่การที่ทีม Houston Rockets ตัดสินใจขยายสัญญามูลค่า 122 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นระยะเวลา 5 ปี รายงานเมื่อ 30 มิถุนายน 2025 เป็นเครื่องยืนยันอย่างชัดเจนว่า องค์กรยังคงเชื่อมั่น ในศักยภาพระยะยาวของเขา พร้อมให้เวลา และเวทีในการพัฒนา (22 ตุลาคม 2025) [1]

สมิธคือฟอร์เวิร์ด ที่มีจังหวะการปล่อยบอลเร็ว พื้นฐานการชู้ตมั่นคง และสามารถยืนชู้ตได้จากหลายระยะ โดยไม่ต้องใช้บอลนาน เขาไม่ใช่แค่ “ชู้ตเตอร์ตัวสูง” แต่คือผู้เล่นที่สามารถเคลื่อนที่เข้า-ออก จากระยะสามแต้ม เพื่อหาพื้นที่ว่างได้อย่างมีชั้นเชิง
ด้วยความสูงระดับเซนเตอร์ แต่มีความเร็วของฟอร์เวิร์ด สมิธสามารถเป็นตัวสร้างความไม่สมดุล ให้กับแนวรับฝ่ายตรงข้ามได้ดี โดยเฉพาะเมื่อถูกจับคู่กับบิ๊กแมน ที่เชื่องช้ากว่า หรือปีกที่เตี้ยกว่า
จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือ ความสามารถในการเล่นหลายตำแหน่ง พูดง่ายๆก็คือ เขาสามารถยืนได้ ทั้งในบทบาทฟอร์เวิร์ดตัวใหญ่ และเซนเตอร์ในระบบ small-ball ซึ่งทำให้โค้ชสามารถดัดแปลงเขา ไปสู่หลายรูปแบบได้ ขึ้นอยู่กับว่าทีม ต้องการยืดฟลอร์ หรือคุมวงใน (23 มีนาคม 2025) [2]
แม้จะมีรูปร่าง และศักยภาพ แต่การชู้ตของสมิธ ยังไม่คงที่พอ ที่จะถูกยกเป็นระดับ sniper อย่างแท้จริง โดยเฉพาะในเกมที่เขาเริ่มพลาด 2-3 ครั้งแรก มักจะตามมาด้วยความลังเล ในการชู้ตครั้งต่อๆไป
อีกประเด็นคือ สมิธยังไม่สามารถสร้างโอกาส ให้ตัวเองได้มากนัก ในสถานการณ์ isolation หรือ pick-and-roll แบบที่ผู้เล่นระดับท็อป ในตำแหน่งเดียวกันทำได้ การอ่านเกมเพื่อจ่ายบอล ยังถือว่าอยู่ในระดับพื้นฐาน แอสซิสต์เฉลี่ยแค่ 1.1 คือเครื่องชี้วัดสำคัญ ที่บอกว่าเขา ยังไม่ได้เป็น playmaker
นอกจากนี้ บทบาทที่ไม่แน่นอนในทีมฮิวสตัน ร็อกเก็ตส์ ที่ยังปรับระบบอยู่เรื่อยๆ ก็ทำให้การพัฒนาของจาบารี สมิธขาดความต่อเนื่อง และไม่สามารถรักษาฟอร์ม ให้นิ่งได้ในระยะยาว

ถ้าเปรียบเทียบสมิธ กับผู้เล่นที่อยู่ในคลาสเดียวกัน เช่น เปาโล แบนเชโร หรือ เดอะ ริธึม เกจ อย่างคีแกน เมอร์เรย์ จะเห็นได้ว่าสมิธ ยังขาดความหลากหลายของเกมรุก และยังไม่สามารถสร้างอิมแพ็ค ในช่วงเวลาสำคัญของเกมได้ มากเท่ากับเพื่อนร่วมรุ่นเหล่านั้น
เมอร์เรย์ชู้ตสามแต้มได้เฉียบคมกว่า ทั้งในด้านเปอร์เซ็นต์ความแม่นยำ และจำนวนการชู้ตต่อเกม ส่วนแบนเชโร แม้จะชู้ตไกลน้อยกว่า แต่โดดเด่นในเรื่องการสร้างสรรค์เกมด้วยตัวเอง และรับบทบาทเป็นตัวหลักของทีม ได้อย่างชัดเจนตั้งแต่ปีแรก
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้สมิธน่าสนใจ คือโครงสร้างร่างกายที่สูง และยาว ประกอบกับศักยภาพ ในการเป็นผู้เล่นแบบ two-way ที่มีประโยชน์ทั้งรุก และรับ หากเขาสามารถพัฒนาเกมรับ และรีบาวนด์ได้อย่างต่อเนื่อง ก็จะกลายเป็นผู้เล่น ประเภทที่ทีมไม่อาจถอดออกจากสนามได้ ในสถานการณ์สำคัญ
ฮิวสตัน ร็อกเก็ตส์วางตัวสมิธ ให้เป็นหนึ่งในแกนหลักระยะยาว ร่วมกับ Alperen Sengun, Jalen Green และ Amen Thompson ซึ่งเป็นกลุ่มผู้เล่นดาวรุ่ง ที่ทีมตั้งใจสร้างอนาคตร่วมกันอย่างจริงจัง
การเซ็นขยายสัญญาระยะยาวกับสมิธ จึงไม่ใช่แค่เรื่องของสัญญาทางการเงิน แต่สะท้อนถึงความเชื่อมั่น ในตัวเขาอย่างเต็มเปี่ยม และในฤดูกาล 2025-26 บทบาทของเขา น่าจะเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะในฐานะ stretch four ที่มีหน้าที่เปิดพื้นที่ฟลอร์เกมรุก และช่วยรีบาวนด์ในจังหวะสำคัญ
หากสมิธสามารถพัฒนา ให้ชู้ตสามแต้มได้อย่างสม่ำเสมอ และเพิ่มทักษะการพาบอลขึ้น และจ่ายบอลในจังหวะกดดันได้ดีขึ้น ก็มีแนวโน้มสูง ที่จะก้าวขึ้นมาเป็น “อาวุธเบอร์สอง” ของทีมได้ในไม่ช้า (5 ตุลาคม 2025) [3]
แรงกดดันจากลำดับดราฟต์
การเป็นอันดับ 3 ของคลาส 2022 มาพร้อมความคาดหวังสูงลิ่ว และเมื่อเพื่อนร่วมคลาสบางคน แจ้งเกิดได้เร็วกว่า ก็อาจสร้างแรงกดดันลึกๆ ให้กับสมิธ
ความเป็น “ชิ้นส่วนที่ยังต่อไม่ครบ”
หลายคนมองสมิธว่ามีทุกอย่างครบ แต่ยังไม่มีตัวตนชัดเจนในสนาม การไม่มีบทบาทหลักชัดๆ อาจทำให้การพัฒนา ช้ากว่าความสามารถที่แท้จริง
สภาพจิตใจหลังอาการบาดเจ็บ
แม้จะเป็นอาการบาดเจ็บเพียงมือ แต่สำหรับนักชู้ต นั่นอาจหมายถึงจังหวะ ความมั่นใจ และรูปแบบการเล่น ที่ต้องปรับใหม่หมด
เราจึงสรุปได้ว่า เปลวเพลิง ใต้ระยะสามแต้ม “จาบารี สมิธ จูเนียร์” ยังไม่ลุกไหม้อย่างเต็มที่ แต่ศักยภาพในตัวเขา กำลังก่อตัวชัดขึ้น หากเขาเสริมจุดอ่อน และยืนระยะในเกมรับอย่างมั่นคงได้ เขาจะไม่ใช่แค่ฟอร์เวิร์ดสมัยใหม่ แต่คือผู้นำในการรีเซตบทบาท stretch-four ให้ทรงพลังยิ่งกว่าเดิม
การพิสูจน์ตัวเองในฤดูกาล 2025-26 ว่าจาบารี สมิธสามารถรักษาฟอร์ม ได้ตลอดทั้งฤดูกาล และเติบโตจากฟอร์เวิร์ดพรสวรรค์สูง ให้กลายเป็นแกนหลัก ที่ทีมเชื่อใจในจังหวะชี้ขาด
ความไม่สม่ำเสมอในการชู้ต และการสร้างเกม จากการพาบอลขึ้นเอง หรือการจ่ายบอลที่ยังไม่เด็ดขาดพอ ทำให้จาบารี สมิธยังขาดความมั่นใจ เมื่อต้องเป็นผู้เล่นหลักในจังหวะสำคัญ

