แหล่งรวมเกมส์ชั้นนำ สล็อต คาสิโน บาคาร่า พร้อมระบบล้ำทันสมัย รวดเร็วทันใจ

เซนเตอร์ โยคิช ผู้ปฏิวัติคำว่าเซนเตอร์ไปตลอดกาล

เซนเตอร์ โยคิช

เซนเตอร์ โยคิช ในโลกของบาสเกตบอล ที่เต็มไปด้วยยักษ์ใหญ่ ชายร่างท้วมที่ดูเชื่องช้าอย่าง นิโคลา โยคิช ไม่ควรจะเป็นผู้เปลี่ยนเกมได้เลย แต่แล้วเขากลับลบทุกสมการเดิมๆทิ้ง ไม่ใช่ด้วยพละกำลัง ไม่ใช่ด้วยความเร็ว แต่ด้วยสมอง ความเข้าใจเกม และวิสัยทัศน์เหนือชั้น ที่ไม่เคยมีใครคาดคิด

  • สิ่งที่ทำให้นิโคลา โยคิชไม่เหมือนเซนเตอร์ทั่วไป
  • ความพิเศษของโยคิช
  • ศิลปะการเล่นบาสของโยคิช

จากยุคของยักษ์ใหญ่ใต้แป้น สู่ศูนย์กลางเกมรุก

หากย้อนกลับไป ในหน้าประวัติศาสตร์ของ NBA คำว่า “เซนเตอร์” มักจะพ่วงมากับภาพจำของผู้เล่นร่างยักษ์ ผู้ยืนปักหลักใต้แป้น คอยบล็อกช็อต เก็บรีบาวด์ และเป็นเป้าหมายหลัก ในการทำแต้มแบบโพสต์อัพ ไม่ว่าจะเป็น บิล รัสเซลล์, วิลท์ แชมเบอร์เลน, คารีม อับดุล-จับบาร์, ชาคีล โอนีล

ทุกคนล้วนเติบโต จากบทบาทของเซนเตอร์ ในความหมายดั้งเดิม ผู้คุมป้อมปราการใต้แป้น และกำหนดชะตาเกมด้วยพละกำลัง และความสูงใหญ่ แต่แล้วก็เกิดปรากฏการณ์หนึ่ง ที่เขย่าวงการบาสเกตบอลทั้งระบบ ชายร่างใหญ่จากเซอร์เบีย ชื่อนิโคลา โยคิช (Nikola Jokic) ก้าวเข้ามาในลีก

ด้วยร่างกายที่ดูจะไม่เข้ากับค่านิยมของ NBA ยุคใหม่ รูปร่างของเขาดูจะเชื่องช้า แต่สิ่งที่เขาพกติดตัวมาด้วย กลับเป็นสิ่งที่หาได้ยาก จากตำแหน่งเซนเตอร์ วิสัยทัศน์การอ่านเกม, ทักษะการจ่ายบอลระดับเทพ, และความเข้าใจเกมรุกที่ลึกซึ้ง ยิ่งกว่าผู้เล่นตำแหน่งพอยต์การ์ดบางคนเสียอีก [1]

เซนเตอร์ โยคิช ที่ไม่เหมือนเซนเตอร์ทั่วไป

เซนเตอร์ โยคิช

หากจะพูดถึงความพิเศษของโยคิช เราต้องเริ่มจาก “การมองเกม” (court vision) ที่โดดเด่นเกินกว่ามาตรฐาน ของเซนเตอร์ทั่วไป เซนเตอร์ส่วนใหญ่ เมื่อได้รับบอลใต้แป้น จะมองหาการทำแต้มก่อนเป็นลำดับแรก

แต่โยคิชกลับมองเห็นทั้งสนาม เขารู้ว่าผู้เล่นคนไหน กำลังตัดเข้าไปในเลน รู้ว่าคู่ต่อสู้กำลังจะหมุนตัวไปทางไหน และรู้ว่าจังหวะไหน ควรจ่ายบอล หรือจบเอง

โยคิชไม่ได้แค่เปลี่ยนวิธีการเล่นของตัวเอง แต่เขาได้ปฏิวัติความหมาย ของตำแหน่งเซนเตอร์ ไปโดยสิ้นเชิง

ศิลปะการเล่น ที่เกิดจากความเข้าใจเกมอย่างลึกซึ้ง

หนึ่งในซิกเนเจอร์ของโยคิชคือ การจ่ายบอลแบบ “No-look” หรือ “Touch Pass” ที่แม่นยำ ราวกับจับวาง เขาสามารถส่งบอลผ่านช่องแคบ ที่ดูแทบจะเป็นไปไม่ได้ จนบางครั้ง แฟนบาสยังต้องอ้าปากค้าง ความสามารถนี้ ไม่ได้เกิดจากพรสวรรค์ เพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากความเข้าใจเกม อย่างลึกซึ้ง

ราวกับว่าโยคิช มีเรดาร์ในหัว ที่สแกนได้ว่าทุกคนในสนาม กำลังเคลื่อนไหวไปที่ใด และสิ่งที่น่าทึ่งคือ โยคิชไม่เร่งเกม เขาเล่นด้วยจังหวะของตัวเองเสมอ ไม่ว่าฝ่ายตรงข้าม จะพยายามกดดันอย่างไร โยคิชยังคงนิ่ง สงบ และหาช่องทาง ที่จะสร้างโอกาสให้ทีมได้เสมอ

นี่คือลักษณะของผู้เล่น ที่ควบคุมเวลาในเกมได้ คุณลักษณะที่หาได้ยากยิ่ง ในบรรดาผู้เล่นทุกตำแหน่ง โดยเฉพาะในเซนเตอร์

ความอเนกประสงค์ที่ไม่เคยมีมาก่อน

เซนเตอร์ โยคิช

เมื่อพูดถึงเซนเตอร์ในอดีต บทบาทหลักของพวกเขา มักจะจำกัดอยู่ที่ รีบาวด์, การบล็อกช็อต, และการทำแต้มในโพสต์ แต่โยคิช กลับแตกขอบเขตเหล่านั้น ออกเป็นเสี่ยงๆ เขากลายเป็นผู้เล่น ที่ทำได้ทุกอย่างในสนาม

  • จ่ายบอล : โยคิชคือ “Point Center” ตัวจริง เสมือนเป็นพอยต์การ์ด ในร่างของเซนเตอร์ เขาสามารถเซตเพลย์ เปิดเกมรุก และสร้างสรรค์โอกาส ให้เพื่อนร่วมทีมได้อย่างน่าทึ่ง
  • ยิงสามแต้ม : ไม่ใช่เรื่องแปลก ที่จะเห็นโยคิชลากบอลขึ้นมาเอง แล้วยิงสามแต้ม แบบไม่มี hesitation เขาเป็นภัยคุกคามจากระยะไกล ที่ทำให้คู่ต่อสู้ ต้องระวังตัวตลอดเวลา
  • เกมโพสต์ : แม้จะไม่ได้มีพลังระเบิด เหมือนชาคีล โอนีล แต่โยคิชกลับใช้เทคนิค และการอ่าน เกมรับ ทำลายแนวป้องกันในโพสต์ ได้อย่างแยบยล ทั้งฟุตเวิร์กที่แม่นยำ การใช้เฟค และการจบสกอร์ด้วย soft touch ที่นุ่มนวล
  • การรีบาวด์ : ด้วยส่วนสูง และน้ำหนักที่เหมาะสม บวกกับความเข้าใจ ในตำแหน่งรีบาวด์ โยคิชจึงเป็นหนึ่งในตัวเก็บบอล ที่มีประสิทธิภาพที่สุดในลีก

ทุกครั้งที่โยคิชก้าวลงสนาม เขาไม่ใช่แค่เซนเตอร์ธรรมดา แต่เป็นศูนย์กลาง ของจักรวาล เกมรุกของเดนเวอร์ นักเก็ตส์ ทั้งหมดไหลไปตามจังหวะของเขา

ความสำเร็จที่เป็นเครื่องยืนยัน MVP และการนำทีมสู่จุดสูงสุด

ความยิ่งใหญ่ของโยคิช ไม่ได้อยู่แค่ในตัวเลขสถิติ หรือไฮไลต์ ในจังหวะจ่ายบอลสวยๆ แต่เขาพิสูจน์คุณค่าของตัวเอง ผ่านผลงานจริง ในฤดูกาล 2020–2021 และ 2021–2022 โยคิชคว้ารางวัล NBA MVP สองปีติดต่อกัน

ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีเซนเตอร์คนไหนทำได้ หลังจาก ชาคีล โอนีล ในปี 2000 และในฤดูกาล 2022–2023 เขายกระดับตัวเองขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการพาทีม เดนเวอร์ นักเก็ตส์ คว้าแชมป์ NBA ครั้งแรกในประวัติศาสตร์แฟรนไชส์ พร้อมคว้ารางวัล Finals MVP มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ [2]

เขาไม่ได้พาเดนเวอร์ชนะ เพราะความสามารถส่วนบุคคลเท่านั้น แต่เพราะเขาสร้างสรรค์เกมให้ทั้งทีม เล่นได้ง่ายขึ้น ทุกคนรอบตัวโยคิช ไม่ว่าจะเป็น จามาล เมอร์รีย์, อารอน กอร์ดอน หรือไมเคิล พอร์เตอร์ จูเนียร์ ล้วนดูดีขึ้นเพราะการเคลื่อนเกม และจังหวะจ่ายบอลของโยคิช

ปรากฏการณ์ที่เปลี่ยนคำจำกัดความของ “เซนเตอร์”

สิ่งที่โยคิชทำ ไม่ใช่แค่การเป็นผู้เล่นที่เก่ง ในตำแหน่งเซนเตอร์ แต่เขาได้ฉีกตำรา การเล่นของเซนเตอร์แบบเดิมทิ้งไป เขาสอนให้โลกบาสเกตบอลรู้ว่า เซนเตอร์ไม่จำเป็นต้องเป็นแค่ตัวรีบาวด์ ตัวป้องกัน หรือผู้เล่น ที่ทำคะแนนในโพสต์เท่านั้น

แต่สามารถเป็นมันสมองของทีม, ผู้กำหนดทิศทางเกม, และเพลย์เมกเกอร์ได้ในเวลาเดียวกัน ในยุคของโยคิช เราเห็นเซนเตอร์หน้าใหม่ พยายามพัฒนาทักษะการจ่ายบอล และการยิงสามแต้มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น โดมานตาส ซาโบนิส, คาร์ล-แอนโธนี ทาวน์ส

หรือแม้แต่รุ่นน้องอย่าง วิคเตอร์ เวมบันยามา ที่ต่างเติบโตมาในโลกที่โยคิช ได้ปูทางไว้แล้ว เซนเตอร์ไม่ได้ถูกจำกัดด้วย “ตำแหน่ง” อีกต่อไป แต่กลายเป็น “ตัวเชื่อมเกมรุกทั้งสนาม” ในแบบที่โยคิชแสดงให้เห็น [3]

ผลก็คือ โยคิชเป็นชายผู้เปลี่ยนเกมบาสไปตลอดกาล

ท้ายที่สุด เซนเตอร์ โยคิช ไม่ใช่แค่ผู้เล่นที่เก่งที่สุดในช่วงหนึ่ง แต่เขาคือ ผู้ปฏิวัติความหมายของตำแหน่งเซนเตอร์ ในบาสเกตบอลยุคใหม่ เขาทำให้แฟนบาส ต้องกลับมาทบทวน ว่าเซนเตอร์หมายถึงอะไร และทำให้เด็กๆ มองไปที่สนามแล้วฝันว่า “ฉันก็เป็นเพลย์เมกเกอร์ได้ แม้จะตัวใหญ่เหมือนโยคิช”

โยคิชแตกต่างจากเซนเตอร์ยุคเก่าอย่างไร ?

โยคิชไม่ได้เล่นด้วยพละกำลัง หรือแค่ยืนปักหลักใต้แป้น เขาเป็นเหมือนมันสมองของทีม ควบคุมจังหวะเกมรุก ด้วยวิสัยทัศน์การจ่ายบอล และการอ่านเกมที่ลึกซึ้ง เขาสามารถเป็นเพลย์เมกเกอร์หลัก ทั้งที่ร่างกายไม่ใช่แบบฉบับ ของผู้เล่นตำแหน่งพอยต์การ์ด นี่คือสิ่งที่ทำให้โยคิชแตกต่าง

ทำไมการจ่ายบอลของโยคิชถึงพิเศษกว่าผู้เล่นตำแหน่งอื่น ?

เพราะโยคิชสามารถมองเห็นทั้งสนาม ได้แบบ 360 องศา รู้ว่าคู่ต่อสู้จะเคลื่อนไปทางไหน ก่อนที่พวกเขาจะขยับจริงๆ เขาจ่ายบอลได้แม่นยำทั้งระยะสั้น และระยะไกล โดยไม่ต้องมอง หรือบางครั้งก็ใช้ “Touch Pass” ที่เร็ว และแม่นยำมากๆ นี่เป็นพรสวรรค์ ผสานกับความเข้าใจเกมอย่างแท้จริง

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง