
เซนเตอร์ ฮาร์ดทูรีไซเคิล ผู้ถือครองพลังอสูรในร่างมนุษย์
- Harry P
- 19 views
เซนเตอร์ ฮาร์ดทูรีไซเคิล เดอมาร์คัส คัสซินส์ (DeMarcus Cousins) เป็นชื่อที่แฟนบาสเกตบอลคุ้นหู ในฐานะเซนเตอร์ที่ทรงพลัง และมีทักษะครบเครื่อง เมื่อครั้งยังอยู่ในจุดสูงสุดของ NBA เขาคือ “บิ๊กแมน” ที่ทั้งครองพื้นที่ใต้แป้น สร้างเกม และทำแต้มได้อย่างดุดัน
เดอมาร์คัส คัสซินส์เป็นเด็กจากรัฐแอละแบมา สหรัฐอเมริกา เขาฉายแววพรสวรรค์ด้านบาสเกตบอล ตั้งแต่ระดับมัธยมปลาย จนแมวมองทั่วประเทศ ต้องหันมาสนใจ การตัดสินใจเข้าศึกษา และเล่นให้มหาวิทยาลัยเคนตักกี้ในปี 2009 เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่ทำให้เขาได้ร่วมทีม กับดาวรุ่งชื่อดังหลายคน
ภายใต้โค้ชจอห์น คาลิพารี คัสซินส์ค่อยๆพัฒนาตัวเอง จนกลายเป็นหนึ่งในผู้เล่น ที่ทรงพลังที่สุดใน NCAA ทั้งในแง่สถิติการทำแต้ม กับความแข็งแกร่ง ที่เห็นได้อย่างชัดเจน และก้าวแรกใน NBA ของเดอมาร์คัส คัสซินส์เกิดขึ้นในปี 2010 คัสซินส์ถูกดราฟต์เป็นอันดับ 5 โดยซาคราเมนโต คิงส์
เขากลายเป็นเซนเตอร์หลัก ที่ทีมฝากความหวังไว้ ด้วยสไตล์การเล่นที่ทั้งแข็งแรง และมีทักษะเหมือนการ์ด เขาเป็นหนึ่งในเซนเตอร์ไม่กี่คน ที่จ่ายบอลสร้างเกมได้ ตั้งแต่อายุยังน้อย ช่วงนี้เองที่เขาได้รับฉายาว่า “พลังอสูร” เพราะทั้งพละกำลัง และอารมณ์ที่ร้อนแรงในสนาม (20 กันยายน 2025) [1]
คัสซินส์กลายเป็น All-Star ถึง 4 ครั้งติดต่อกัน ในระหว่างปี 2015-2018 ในช่วงที่เล่นให้ทีมซาคราเมนโต คิงส์ และนิวออร์ลีนส์ พีลิแกนส์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เขา ทำผลงานได้โดดเด่น ทั้งการทำแต้มเฉลี่ยสูง และรีบาวด์จำนวนมากต่อเกม พร้อมทั้งมีแอสซิสต์ที่โดดเด่น จนแฟนๆ และนักวิเคราะห์ต่างก็พูดถึง
เพราะในยุคนั้น แทบไม่มีเซนเตอร์คนไหน ที่ทำได้ครบเครื่องแบบเขา ทั้งทำแต้ม รีบาวด์ และจ่ายบอล จุดนี้เองที่ทำให้เดอมาร์คัส คัสซินส์ได้รับการเปรียบเทียบ กับบิ๊กแมนรุ่นใหม่อย่าง นิโคลา โยคิช หรือโจเอล เอ็มบีด ในแง่ของการเป็นบิ๊กแมน ที่มีทักษะรอบด้าน และเป็นต้นแบบของเซนเตอร์ยุคใหม่
แต่แล้วความรุ่งโรจน์ของเดอมาร์คัส คัสซินส์ก็ถูกท้าทายอย่างหนัก ด้วยการบาดเจ็บรุนแรงหลายครั้ง เริ่มจากเอ็นร้อยหวายขาด (Achilles) ในปี 2018 ต่อด้วยเอ็นเข่าฉีก (ACL) และบาดเจ็บกล้ามเนื้อซ้ำซ้อน ทำให้ฟอร์มที่เคยโดดเด่น ค่อยๆลดลงอย่างเห็นได้ชัด (19 สิงหาคม 2019) [2]
ทีมต่างๆ จึงเริ่มลังเล ที่จะมอบสัญญาระยะยาวให้ แม้เขาจะพยายามอย่างเต็มที่ ในการกลับมาเล่นกับ Golden State Warriors, Houston Rockets, Los Angeles Clippers, Milwaukee Bucks และ Denver Nuggets แต่เดอมาร์คัส คัสซินส์ก็ไม่สามารถ กลับไปสู่ฟอร์มเดิมได้อีก
หลังจากเดอมาร์คัส คัสซินส์หมดโอกาสใน NBA เขาไม่ได้ยอมยุติเส้นทางอาชีพ และตัดสินใจเดินเส้นทางใหม่ โดยเริ่มจากการไปเล่นในลีกไต้หวัน (T1 League) ซึ่งเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้เขา ได้แสดงฝีมือ และเรียกความเชื่อมั่นอีกครั้ง
ล่าสุดในปี 2025 คัสซินส์ได้เซ็นสัญญากับ Mets de Guaynabo ในลีกบาสเกตบอลของเปอร์โตริโก (BSN) เป็นการปรากฏตัว ที่กลายเป็นกระแสข่าวใหญ่ ในลาตินอเมริกา เพราะแฟนบาสเกตบอลยังคงจดจำชื่อเสียง และช่วงพีคของเขาใน NBA ได้ดี จึงติดตาม และให้ความสนใจเป็นพิเศษ
ในช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2025 คัสซินส์ตกเป็นข่าวอีกครั้ง เมื่อเกิดเหตุปะทะกับแฟนบาส ระหว่างเกมในลีก BSN การโต้เถียงลุกลาม จนผู้ตัดสินไล่ออกจากสนาม และบรรยากาศยิ่งตึงเครียด เมื่อแฟนบางส่วนขว้างเครื่องดื่มลงมา เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และเพื่อนร่วมทีมต้องรีบพาเขาออกไป
หนึ่งวันถัดมา ลีก BSN มีคำสั่งพักการแข่งของเขา ตลอดฤดูกาล 2025 พร้อมปรับเงิน 4,250 ดอลลาร์ และเปิดเงื่อนไขค่าปรับเพิ่มเติมอีก 5,750 ดอลลาร์ ขณะเดียวกัน Mets de Guaynabo ก็ประกาศยุติสัญญาทันที ส่งผลให้เส้นทางการคืนชื่อของเขา สะดุดลงในชั่วข้ามคืน (11 มิถุนายน 2025) [3]
เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงปัญหาทางอารมณ์ ที่ยังคงตามหลอกหลอนเขา แม้จะอยู่ในลีกต่างประเทศก็ตาม และหลังเหตุการณ์นี้ ทีมได้ตัดสินใจยกเลิกสัญญา ทำให้อนาคตของคัสซินส์ กลายเป็นเครื่องหมายคำถามอีกครั้ง
แม้เดอมาร์คัส คัสซินส์จะเจอปัญหาในสนาม แต่ในโลกนอกสนาม เขายังมีแบรนด์ส่วนตัวที่แข็งแรง เขาปรากฏตัวในพอดแคสต์ สื่อสังคมออนไลน์ และกิจกรรมชุมชน ซึ่งแสดงถึงอีกมิติหนึ่งของเขา ที่แฟนๆอาจไม่ค่อยได้เห็น
การสร้างภาพลักษณ์ใหม่นี้ อาจเป็นก้าวสำคัญ หากเขาต้องการเข้าสู่บทบาทโค้ช ที่ปรึกษา หรือสื่อในอนาคต
เมื่อเทียบกับ เซนเตอร์พลังสูง ยุค 2000s อย่างดไวท์ ฮาวเวิร์ด ที่เลือกไปเล่นในไต้หวัน คัสซินส์ก็เป็นตัวอย่างอีกคนของ “บิ๊กแมน” ที่พยายามสร้างเส้นทางใหม่ ในต่างประเทศ แต่จุดต่างคือ ฮาวเวิร์ดใช้โอกาสนั้น สร้างภาพเชิงบวก ขณะที่คัสซินส์ยังคงต้องต่อสู้ กับภาพลักษณ์เดิมของตัวเอง
จุดแข็งที่ยังเหลือ และจุดอ่อนที่ต้องเผชิญ
คัสซินส์ยังคงมีพละกำลัง ประสบการณ์ และความเข้าใจเกมในระดับสูง เขายังสามารถสร้างความได้เปรียบ ในลีกที่ระดับการแข่งขันไม่สูงเท่า NBA อย่างไรก็ตาม จุดอ่อนคือสภาพร่างกายที่เสื่อมถอย และภาพลักษณ์เรื่องอารมณ์ที่ไม่เสถียร ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญ ต่อการกลับมาในลีกใหญ่
ท้ายที่สุด เซนเตอร์ ฮาร์ดทูรีไซเคิล “เดอมาร์คัส คัสซินส์” คือตัวอย่างของนักกีฬาที่มีทั้งพรสวรรค์ พละกำลัง และอารมณ์ที่ดุดัน เขายังเป็นบุคคลที่น่าศึกษาในฐานะเซนเตอร์ ที่ยังไม่สิ้นสุดเส้นทางชีวิต แม้วันนี้เขาจะไม่ได้อยู่ใน NBA แต่ในอนาคต เขาอาจเป็นบทเรียนสำคัญให้กับคนรุ่นหลังได้
เพราะเดอมาร์คัส คัสซินส์เป็นบิ๊กแมน ที่ผ่านการใช้งานหนัก เจ็บหนัก และมีภาพลักษณ์อารมณ์ร้อน แต่เขายังมีพลัง และประสบการณ์ จนทีมต่างๆยังมองหาอยู่ อาจไม่ง่ายที่จะ “รีไซเคิล” หรือกลับมาในรูปแบบเดิม แต่ก็ยังไม่หมดคุณค่า
การปะทะกับแฟนบาสจนถูกพักแข่ง และยุติสัญญา ทำให้ชื่อเสียง และเส้นทางการคืนฟอร์มในลาตินอเมริกาสะดุดลงทันที เป็นสัญญาณว่าการจัดการอารมณ์ของเดอมาร์คัส คัสซินส์ยังคงเป็นโจทย์ใหญ่