
เซนเตอร์ รูดี้ โกแบร์ กำแพงฝรั่งเศสที่ไม่มีใครเดินผ่านได้
- Harry P
- 55 views
เซนเตอร์ รูดี้ โกแบร์ (Rudy Gobert) ไม่ใช่นักบาส ที่เล่นเพื่อแย่งซีน หรือไฮไลต์เท่ๆ เขาคือผู้เล่นที่สร้างผลกระทบ โดยไม่ต้องถือบอล ด้วยการ “ปิดพื้นที่” จนฝ่ายตรงข้ามหมดทางเลือก ด้วยความสูง 7 ฟุต 1 นิ้ว และปีกกว้าง ระดับสัตว์ประหลาด โกแบร์คือตัวอย่างของ “กำแพงที่ขยับได้”
โกแบร์เกิด และโต ในประเทศฝรั่งเศส เขาเติบโตมากับคุณแม่ และมีพ่อที่เป็นอดีตนักกีฬาบาสเกตบอล ทำให้เขาคุ้นเคยกับบาส ตั้งแต่ยังเด็ก แต่ด้วยรูปร่างที่สูงเกินวัย และดูบอบบางในช่วงแรก โค้ชหลายคนพยายามจะปั้นเขา ให้เป็นผู้เล่นเกมรุก
แต่โกแบร์กลับหลงใหล ในการสกัดลูก บล็อก และการยืนตำแหน่งมากกว่า เขาเริ่มฝึกฝนด้านการป้องกัน อย่างจริงจัง ตั้งแต่อายุยังน้อย โดยให้ความสำคัญ กับการเคลื่อนไหว ในมุมที่ถูกต้อง เน้นการพัฒนาทักษะ ที่คนส่วนใหญ่ละเลย นั่นคือการ “รู้ตำแหน่งของตัวเองในสนาม”
เมื่อเขาเข้าสู่ NBA กับยูทาห์ แจ๊ซ (Utah Jazz) ในปี 2013 ทุกคนเห็นศักยภาพ ในด้านร่างกายของเขา แต่สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด คือเขาจะกลายเป็น รากฐานของระบบป้องกัน ที่ดีที่สุดในลีก [1]
โกแบร์ไม่ได้เป็นแค่ตัวบล็อก ระดับท็อป (เฉลี่ยเกือบ 2.5 บล็อกต่อเกม ในช่วงพีค) แต่สิ่งที่ทำให้เขา เหนือกว่าคนอื่นคือ “การปิดทางเลือก” อย่างมีวินัย และแม่นยำในทุกจังหวะ
เขาทำให้คู่แข่ง ไม่กล้าแม้แต่จะเลี้ยงบอลเข้ามา เขาเปลี่ยนช็อตง่ายๆ ให้กลายเป็นช็อตเสี่ยง และเขาคือเหตุผล ที่ทำให้สถิติ field goal ของคู่แข่งใกล้แป้น ตกฮวบเมื่ออยู่ในสนาม เรียกง่ายๆว่า โกแบร์เน้นควบคุมพื้นที่ มากกว่าที่จะเน้นโชว์
ในฤดูกาล 2024–25 โกแบร์เป็นเสาหลัก ของเกมรับทีมมินนิโซตา ทิมเบอร์วูล์ฟส์ (Minnesota Timberwolves) ที่ทะยานขึ้นมา เป็นทีมระดับหัวตาราง
เขาเล่นคู่กับ คาร์ล-แอนโทนี ทาวน์ส (Karl-Anthony Towns) และ แอนโทนี เอ็ดเวิร์ดส์ (Anthony Edwards) ซึ่งช่วยให้ทีม มีทั้งพลังเกมรุก และป้องกันที่สมดุล
ในรอบเพลย์ออฟปีล่าสุด การที่โกแบร์ทำให้โยคิช (Jokic) ต้องเปลี่ยนสไตล์การเล่น คือหนึ่งในปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้ทิมเบอร์วูล์ฟส์ เอาชนะเดนเวอร์ นักเก็ตส์ (Denver Nuggets) ได้ในซีรีส์ที่ดุเดือด [2]
ถ้าเทียบกับเซนเตอร์ยุคใหม่ อย่างแบม อเดบาโย (Bam Adebayo) หรือนิโคลา โยคิช (Nikola Jokic) โกแบร์อาจดู “ไม่หลากหลาย” เท่าในเกมรุก
สถิติพวกบล็อก รีบาวด์ หรือ DRTG อาจบอกส่วนหนึ่ง แต่สิ่งที่โกแบร์ทำ ไม่ได้ถูกจดไว้เสมอ เขาอ่านเกม ก่อนที่บอลจะมาถึง เขาขยับตำแหน่งในเสี้ยววินาที และเขาทำให้คู่แข่ง เปลี่ยนแผนโจมตีแบบกลางอากาศ
บางครั้งแค่การยืนเฉยๆของเขา ก็เพียงพอ ที่จะทำให้ผู้เล่นฝั่งตรงข้าม เลือกส่งบอลกลับ ไม่กล้าเข้าไปชน หรือแม้แต่เปลี่ยนรูปแบบ การเข้าทำแต้มโดยสมบูรณ์ เขาคือผู้เล่นที่ป้องกันได้ โดยไม่ต้องสัมผัสบอล และนั่น คือระดับที่เหนือกว่าการวัดผล ด้วยตัวเลขใดๆ
ถ้าคุณอยากเรียนรู้จากเขา ลองดูเกมแบบ full-possession ที่ไม่ตัดต่อ แล้วโฟกัสแค่เบอร์ 27 คุณจะเห็นว่า “เกมรับ” คือศิลปะที่ต้องใช้สมาธิ แบบห้ามกะพริบตา และการขยับที่แม่นยำ ในจังหวะที่คนอื่น อาจไม่ทันสังเกต
สิ่งที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงโกแบร์คือ เมื่อมีเขาในสนาม เพื่อนร่วมทีมจะสามารถ “บุกได้เต็มที่” เพราะรู้ว่าถ้าหลุด ก็มีกำแพงที่ไว้ใจได้ คอยซ้อนอยู่ข้างหลัง
การที่เพื่อนกล้าดันหน้าเต็มสปีด กล้าดับเบิ้ลทีม หรือหมุนตัวเร็วๆ เพราะพวกเขา มั่นใจอย่างแน่นอนว่า โกแบร์จะไม่ปล่อยให้ด้านหลัง ต้องว่างเปล่า และนั่นไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิค แต่มันคือความมั่นใจ ที่ส่งต่อเป็นลูกโซ่ [3]
ท้ายที่สุด โกแบร์อาจไม่ใช่ชื่อที่ถูกพูดถึง ในโพสต์ไฮไลต์ หรือป้าย MVP แต่เขาคือหนึ่งในผู้เล่นไม่กี่คน ที่เปลี่ยนเกมได้ โดยไม่แตะบอล เขาคือกำแพงจากฝรั่งเศส ที่ทำให้แม้แต่ซูเปอร์สตาร์ยังต้องเปลี่ยนใจ และในโลกของ NBA ที่เต็มไปด้วยการรุก โกแบร์คือบทเรียนว่า “เกมรับที่แน่นหนา” ก็ยังชนะได้เสมอ
โกแบร์ไม่ได้มีเกมรุก ที่หลากหลายแบบโยคิช หรือการเล่นหลายตำแหน่ง แบบอเดบาโย แต่เขาเป็นเซนเตอร์ สายป้องกันแบบบริสุทธิ์ ที่ทีมวางใจ ให้เป็นกำแพงแนวหลัง ด้วยความแม่นยำในการยืนตำแหน่ง และการอ่านเกม ที่ทำให้เขาเปลี่ยนเกมได้ โดยไม่จำเป็นต้องสัมผัสบอลเลยด้วยซ้ำ
เพราะการมีโกแบร์เท่ากับมี “ประกันภัยชั้นหนึ่ง” เขาคือคนที่ทำให้เพื่อนสามารถ switch ได้อย่างดุดัน เพราะรู้ว่าด้านหลัง มีคนที่สามารถแก้จังหวะหลุดได้เสมอ ความมั่นใจนี้ ส่งผลให้ทั้งทีม กล้าเล่นมากขึ้น ทั้งในแง่แท็กติก และจิตวิทยา