
เซนเตอร์ มาร์ก วิลเลียมส์ กับบททดสอบใหม่ในทีมซันส์
- Harry P
- 37 views
เซนเตอร์ มาร์ก วิลเลียมส์ (Mark Williams) บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกเส้นทางที่พลิกผัน และอนาคตของเซนเตอร์ดาวรุ่ง จากชาล็อต ฮอร์เน็ตส์ สู่ฟีนิกซ์ ซันส์ พร้อมวิเคราะห์เทรดที่ล้มเหลว กับลอสแอนเจลิส เลเกอส์ และสิ่งที่แฟนบาสต้องติดตาม
ชื่อของมาร์ก วิลเลียมส์กลายเป็นหนึ่งในประเด็นร้อนของ NBA ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เพราะเขาไม่ได้เป็นเพียงเซนเตอร์ดาวรุ่ง ที่ตัวเลขสถิติก้าวขึ้นมาแตะระดับ double-double เท่านั้น แต่เส้นทางชีวิตของเขา ยังเต็มไปด้วยจุดพลิกผันสำคัญ
วิลเลียมส์จากทีมชาล็อต ฮอร์เน็ตส์ (Charlotte Hornets) เกือบได้ย้ายไปลอสแอนเจลิส เลเกอส์ (Los Angeles Lakers) ในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ก่อนดีลจะล้ม เพราะไม่ผ่านการตรวจร่างกาย
สุดท้ายเขาก็จบลงที่ฟีนิกซ์ ซันส์ (Phoenix Suns) ในช่วงเดือนมิถุนายน 2025 ที่ผ่านมา เรื่องราวนี้สะท้อนทั้ง “ความหวัง” และ “ความเสี่ยง” ของผู้เล่น ที่ยังต้องพิสูจน์คุณค่าในเวทีเอ็นบีเอ (25 กรกฎาคม 2025) [1]
วิลเลียมส์ถูกดราฟต์เข้ามาในปี 2022 โดยชาล็อต ฮอร์เน็ตส์ หลังจากสร้างชื่อกับมหาวิทยาลัย Duke ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมบาส ระดับท็อปของ NCAA ที่ขึ้นชื่อเรื่องการปั้นผู้เล่น NBA เขาแสดงให้เห็น ถึงพลังการป้องกันวงใน ที่แน่นหนา การบล็อกที่มีจังหวะ และสัญชาตญาณรีบาวด์ที่แข็งแกร่ง
เขาสร้าง spacing ในการบุกที่ฮอร์เน็ตส์ขาดมาตลอดก่อนหน้านั้น และแม้จะได้โอกาสไม่มากในปีรุกกี้ แต่วิลเลียมส์ก็แสดงให้เห็นถึง rim protection ที่ชัดเจน เขากลายเป็นผู้เล่น ที่แฟนๆฮอร์เน็ตส์ เริ่มฝากความหวังไว้
วิลเลียมส์มีค่าเฉลี่ยที่ 15.3 แต้ม 10.2 รีบาวด์ และ FG% เกิน 60% ในฤดูกาล 2024-25 แสดงถึงการพัฒนาที่ต่อเนื่อง แต่ในขณะเดียวกัน ก็เริ่มมีสัญญาณของความไม่คงเส้นคงวา ทั้งจากปัญหาอาการบาดเจ็บเรื้อรัง รวมถึงบางครั้ง ก็หายไปจากสมการของทีม อย่างไร้เหตุผล (24 กันยายน 2025) [2]
สุขภาพ และอาการบาดเจ็บ – วิลเลียมส์มีประวัติบาดเจ็บเรื้อรังที่เท้า และหลัง ซึ่งเป็นจุดอ่อนสำคัญ เพราะทำให้ต้องพลาดเกมหลายครั้ง ในสองฤดูกาลที่ผ่านมา และยังเป็นคำถามใหญ่ของทีมใหม่ ว่าจะสามารถจัดการภาระ การเล่นยาวทั้งฤดูกาลได้หรือไม่ (25 มิถุนายน 2025) [3]
ความสม่ำเสมอ – แม้บางเกมจะโชว์ศักยภาพสูง ทั้งรีบาวด์ และการบล็อก แต่หลายครั้งเขาหายไปจากระบบเกมรุก และรับ ทำให้ทีมต้องพึ่งผู้เล่นคนอื่นมากเกินไป ซึ่งสะท้อนถึงปัญหา ในการคงฟอร์มต่อเนื่อง
การเคลื่อนไหวป้องกันวงนอก – แม้จะป้องกันใต้แป้นได้แข็งแกร่ง แต่เมื่อถูกดึงออกมาป้องกัน perimeter เขายังช้ากว่าเซนเตอร์สาย athletic รุ่นใหม่อย่าง บล็อกเกอร์ ไร้เสียง (จาเรน แจ๊คสัน จูเนียร์) ซึ่งเป็นข้อเสียที่คู่แข่ง สามารถใช้เป็นช่องโจมตีได้
การมาของมาร์ก วิลเลียมส์ถือเป็นการเสี่ยง ที่มีทั้งด้านบวก และลบ สำหรับทีมซันส์ ที่ต้องการสร้างสมดุล ระหว่างพลังเกมรุกของเดวิน บุ๊คเกอร์ และเควิน ดูแรนท์ กับความแข็งแกร่งในแดนใน
บทบาทของวิลเลียมส์ คือการเป็นเสาหลักใต้แป้น ไม่เพียงแค่ช่วยรีบาวด์ และบล็อก แต่ยังต้องสามารถยืนระยะได้ ตลอดทั้งฤดูกาลยาว การหมุนเวียนกับ ยูซุฟ นูร์คิช และบิ๊กแมนคนอื่นๆ จึงเป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะช่วยให้เขาลดภาระลง และทำให้ซันส์ใช้งานเขา ได้อย่างคุ้มค่า
อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคือ ผลกระทบทางจิตใจ จากการถูกเทรด ดีลที่ล่มกับเลเกอส์ และความกดดัน จากคำถามเรื่องสุขภาพ อาจเป็นแรงผลักดัน หรือภาระทางจิตใจได้ทั้งคู่ นี่คือพื้นที่ ที่แฟนๆ และสื่อ มักไม่ทันมองเห็น หากวิลเลียมส์จัดการได้ เขาอาจแสดงให้เห็น ทั้งความแข็งแกร่งทางร่างกาย และจิตใจ
สำหรับแฟน Suns: สิ่งที่ควรโฟกัสคือ วิลเลียมส์จะสามารถ ลงเล่นต่อเนื่องได้ยาวแค่ไหน และจะช่วยทีมในเกมใหญ่ ที่กดดันจริงๆได้หรือไม่ เพราะนี่คือสิ่งที่จะบอกว่า การเสี่ยงครั้งนี้คุ้มค่าหรือไม่
สำหรับนักวิเคราะห์ Fantasy: วิลเลียมส์อาจเป็น asset ที่มี upside สูงจากการทำรีบาวด์ และบล็อก แต่ความเสี่ยงจากอาการบาดเจ็บ ทำให้ต้องคิดให้รอบคอบ ก่อนตัดสินใจเลือก
สำหรับผู้ติดตามทั่วไป: กรณีของวิลเลียมส์ เป็นตัวอย่างชัดเจนว่า แม้ผู้เล่นจะมีพรสวรรค์ แต่หากขาดสุขภาพ และความสม่ำเสมอ ก็อาจจะไม่สามารถ ก้าวขึ้นเป็นตัวหลักได้ในเอ็นบีเอ
เราจึงสรุปได้ว่า เรื่องราวของมาร์ก วิลเลียมส์สะท้อนถึงความไม่แน่นอน ในโลกของเอ็นบีเอ จากดาวรุ่งที่ถูกคาดหวัง กลายเป็นผู้เล่น ที่ต้องพิสูจน์ตัวเองซ้ำแล้วซ้ำอีก และการย้ายไปสู่ทีมซันส์ คือบททดสอบครั้งใหม่ ที่อาจปลุกเขา ให้กลับมาเป็นเซนเตอร์ตัวหลัก หรืออาจเป็นเพียง การเสี่ยงเดิมพันที่ไม่คุ้มค่า
เขาถูกคาดหวังให้เป็นเสาหลักใต้แป้น ไม่เพียงช่วยเสริมเกมรับ และรีบาวด์ แต่ยังต้องพิสูจน์ว่ามีความทนทานพอ สำหรับฤดูกาลยาวๆ ดังนั้นฟีนิกซ์ ซันส์จึงต้องวางแผนบริหารเวลาลงสนาม และการหมุนเวียนผู้เล่นอย่างรอบคอบ เพื่อป้องกันการบาดเจ็บ
เพราะศักยภาพ และพรสวรรค์ของเขายังสูงอยู่มาก หากสามารถจัดการปัญหาสุขภาพได้ เขาก็มีโอกาสก้าวขึ้นสู่ระดับเซนเตอร์รุ่นใหม่ ที่ทีมกล้าสร้างระบบ และวางบทบาทสำคัญไว้รอบตัวเขา