
เงา ที่ไม่มีใครจับได้ ดาราที่เปล่งแสงในมุมที่ไม่มีใครมอง
- Harry P
- 37 views
เงา ที่ไม่มีใครจับได้ คำจำกัดความนี้ของเดวิน บุ๊คเกอร์ (Devin Booker) ไม่ได้แปลว่าจางหาย แต่เขาเลือกจะนิ่งในยุคที่ใครๆ ต่างก็เร่งเสียงให้ดัง เขาไม่เรียกร้องความสนใจ แต่แสดงตัวตน ผ่านความแม่นยำ ในทุกจังหวะของเกม บุ๊คเกอร์คือบทพิสูจน์ว่า ความเงียบ ก็สามารถเป็นพลังที่เปล่งแสงได้
ตั้งแต่วันที่เดวิน บุ๊คเกอร์ก้าวเข้าสู่ NBA ในฐานะดราฟต์อันดับ 13 ในปี 2015 บุ๊คเกอร์ถูกมองว่าเป็น “มือปืนดาวรุ่ง” จากมหาวิทยาลัย Kentucky ที่ดูเรียบง่าย เกินกว่าจะกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ [1]
แต่เบื้องหลังแววตาที่นิ่งสงบ บุ๊คเกอร์ได้แสดงให้เห็น อย่างเงียบๆว่า เขาคือหนึ่งในผู้เล่น ที่เข้าใจศิลปะแห่งเกมบาสเกตบอล อย่างลึกซึ้งที่สุดคนหนึ่ง ในยุคนี้
ในวันที่โลก กำลังตะโกนชื่อของ Steph Curry, LeBron James, หรือ Luka Doncic ชื่อของบุ๊คเกอร์ กลับค่อยๆไต่ระดับขึ้นมา อย่างช้าๆ แต่มั่นคง เงาของเขาไม่ใช่เงาธรรมดา แต่มันคือเงา ที่เคลื่อนไหวอย่างแม่นยำ เงาที่คุมอุณหภูมิของเกม และเปล่งแสงจากมุมที่ไม่มีใครมอง
โลกปัจจุบันของ NBA คือเวทีที่ไฟสปอตไลต์ สาดส่องตลอดเวลา ยิ่งคุณดัง ยิ่งต้องถูกจับตามอง ในทุกฝีก้าว แต่บุ๊คเกอร์เลือกทางที่ตรงกันข้าม เขาไม่ทำให้ตัวเองเป็น “แบรนด์” ที่ส่งเสียงดัง เขาไม่สร้างเนื้อหาไวรัล ไม่เร่งรีบ ที่จะเข้าร่วมสงคราม ทางโซเชียลมีเดีย
เขาแค่ “เล่นบาสเกตบอล” และเล่นในแบบที่ลึกซึ้ง จนใครหลายคนมองข้าม แม้ในยุคที่ “ซูเปอร์ทีม” กลายเป็นสูตรสำเร็จ บุ๊คเกอร์กลับเป็นหนึ่งในไม่กี่คน ที่แบกทีมซันส์ จากวันที่แทบไม่มีคนดู ให้กลายเป็นทีม ที่เข้าสู่รอบชิง NBA ปี 2021 และยังคงเป็นคู่แข่งระดับสูง มาจนถึงปัจจุบัน
แม้ฤดูกาลล่าสุด ทีมจะไม่สามารถ ผ่านเข้ารอบเพลย์ออฟลึกๆ อย่างรอบรองชนะเลิศของสาย แต่ผลงานเฉพาะตัวของเขา ยังคงเสมอต้นเสมอปลาย เฉลี่ยกว่า 27.1 คะแนนต่อเกม พร้อมเปอร์เซ็นต์การยิง ที่เฉียบคมระดับ 49.2% จากฟิลด์โกล [2]
เมื่อพูดถึงตำแหน่ง ชู้ตติ้งการ์ด ในยุคปัจจุบัน มีผู้เล่นหลายคน ที่ได้รับการพูดถึงมากกว่า ตัวอย่างเช่น โดโนแวน มิตเชลล์ (Donovan Mitchell) หรือ แอนโทนี เอ็ดเวิร์ดส์ (Anthony Edwards) แต่หากเราตัดเสียงออก แล้วดูเฉพาะเกมบนสนามเท่านั้น บุ๊คเกอร์มักเก่งกว่า แบบที่ไม่ต้องอธิบายให้ดัง
ตัวเลขสะท้อนความจริง เขาไม่ได้แค่ยิงได้ แต่ยังเป็นเพลย์เมกเกอร์ ที่เชื่อมเกมได้ดี พอๆกับพอยต์การ์ดหลายคน และทำทั้งหมดนี้ โดยไม่ต้องยกมือขอเครดิต [3]
สิ่งหนึ่งที่แยกบุ๊คเกอร์ ออกจากผู้เล่นคนอื่น คือความสามารถในการ “ไม่บังคับเกม” เขาไม่ใช่คนที่ฝืนไดรฟ์เข้าวงใน ถ้าจังหวะไม่เอื้อ ไม่ใช่คนที่ฝืนชู้ตสามแต้ม เพียงเพื่อเรียกเสียงเชียร์ เขารู้ว่าเมื่อไหร่ ควรอยู่กับเกม เมื่อไหร่ควรถอย และเมื่อไหร่ควรสังหาร
สไตล์นี้อาจไม่ได้ดึงดูดสายตา ในช่วงไฮไลต์ 10 วินาที แต่มันคือรูปแบบที่ทำให้ทีม มีโอกาสชนะจริงๆ เพราะเกมที่ดี ไม่ได้วัดจากการทำแต้ม เพียงคนเดียว แต่วัดจากจังหวะที่ถูกต้อง
แม้ทีมซันส์ในปัจจุบัน จะมีซูเปอร์สตาร์อย่าง เควิน ดูแรนท์ (Kevin Durant) หรือ แบรดลีย์ บีล (Bradley Beal) เข้ามาร่วมทีม แต่แสงของบุ๊คเกอร์ ก็ไม่เคยลดลง เพราะมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับ spotlight มันอยู่ในคุณภาพของจังหวะทุกครั้ง ที่เขาแตะบอล
ขณะที่เพื่อนร่วมรุ่นหลายคน มุ่งเน้นเรื่องมรดก และแหวนแชมป์ บุ๊คเกอร์กลับมีแนวทางของตัวเอง เขาไม่ได้เร่งรีบ เขาแค่เดินบนเส้นทางที่ตนเลือก และเดินต่อไปอย่างไม่หยุด
เงา ที่ไม่มีใครจับได้ บางทีมันอาจเป็นพื้นที่ ที่เหมาะสำหรับการเติบโตที่สุด สำหรับผู้อ่าน ที่กำลังเผชิญกับความรู้สึกว่า “ยังไม่ถูกมองเห็น” หรือยังไม่ถึงเป้าหมาย
ชีวิตของเดวิน บุ๊คเกอร์อาจเป็นเครื่องเตือนใจที่ดีว่า คุณไม่จำเป็น ต้องอยู่ในแสงสว่างตลอดเวลา แค่คุณยังคงพัฒนาตัวเอง อย่างต่อเนื่อง เล่นเกมในชีวิตของคุณให้ดีที่สุด และเข้าใจว่าทุกคน มีจังหวะของตัวเอง
สรุปแล้ว เงา ที่ไม่มีใครจับได้ คือบุ๊คเกอร์ ดาราที่ไม่ต้องการเป็นศูนย์กลาง ของจักรวาล เขาแค่ต้องการเล่นบาส ให้ดีที่สุด ในทุกคืนที่ลงสนาม เขาไม่ได้อยู่ในเงา เพราะเขาอ่อนแอ แต่เขาเลือกจะอยู่ตรงนั้น เพราะนั่นคือพื้นที่ ที่เขาควบคุมได้ทั้งหมด และนั่นแหละ คือพลังที่แท้จริง
บุ๊คเกอร์เลือกจะไม่สร้างภาพลักษณ์ ให้ดึงความสนใจ จากสื่อ หรือโซเชียล เขาให้เกมบนสนาม เป็นคำตอบทุกอย่าง และในยุคที่ใครๆ ก็แข่งกันทำเสียงดัง เขาเป็นคนที่เลือกจะเงียบ อย่างตั้งใจ
ถ้าเรารู้ว่าจุดแข็งของเรา คืออะไร และเลือกทำสิ่งนั้น ให้ดีอย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องเร่งรีบ ไม่ต้องทำเพื่อให้ใครมองเห็น ความสม่ำเสมอที่มั่นคง แม้จะอยู่ในเงา ก็สามารถเปล่งแสงได้ ในแบบที่ไม่มีใครเลียนแบบได้