
หมาจร แต่มีจ๊อบ สุนัขจรจัดที่กลายเป็นพนักงานบริษัท
- Harry P
- 79 views
หมาจร แต่มีจ๊อบ กรณีจริงที่น่าสนใจ จากประเทศบราซิล เป็นเรื่องของสุนัขจรจัด ที่กลายเป็นพนักงานบริษัทรถยนต์ โดยมีบัตรพนักงาน แบบเป็นทางการ และได้รับความรักจากทั้งพนักงาน และลูกค้าเป็นอย่างมาก เรื่องราวนี้มีจุดเริ่มต้นที่ธรรมดา แต่เปี่ยมไปด้วยความอบอุ่น ที่สื่อถึงคุณค่าของความเมตตา
ในเมื่อ เป็นแมว ก็ต้องทำงาน การเป็นหมาก็คงไม่ต่าง เมื่อกลางปี 2020 ที่เมืองเซรา ประเทศบราซิล มีสุนัขจรจัดตัวหนึ่ง เริ่มปรากฏตัวที่หน้าโชว์รูมรถยนต์ Hyundai Prime อย่างสม่ำเสมอ ด้วยท่าทีที่เป็นมิตร และสุภาพ มันไม่เคยสร้างปัญหา ไม่เคยเห่าใส่ใคร
แค่คอยนั่งเงียบๆ อยู่หน้าประตู เหมือนกำลังเฝ้ารอ อะไรบางอย่าง พนักงานเริ่มคุ้นเคยกับมัน จนวันหนึ่ง มีพายุฝนกระหน่ำหนัก ทำให้ผู้จัดการสาขา ตัดสินใจเปิดประตู ให้สุนัขตัวนั้นเข้ามาหลบฝน และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้น ของความผูกพัน ที่แสนเรียบง่าย
หลังจากวันนั้น สุนัขตัวนี้ก็ไม่จากไปไหนอีกเลย มันได้กลายเป็น “สมาชิกประจำ” ของโชว์รูม โดยที่พนักงานทุกคน เริ่มช่วยกันดูแล ทั้งให้อาหาร พาไปหาหมอ และตั้งชื่อให้ว่า “ทูซอน” (Tucson) ตามชื่อรถรุ่นยอดนิยมของฮุนได (Hyundai) [1]
เมื่อเห็นว่าทูซอน เป็นที่รักของทั้งพนักงาน และลูกค้า ทางผู้บริหารโชว์รูม จึงตัดสินใจ “รับเข้าทำงาน” อย่างเป็นทางการ ทูซอนได้รับตำแหน่ง “Ambassador Dog” หรือทูตแห่งโชว์รูม คอยทำหน้าที่ต้อนรับลูกค้า ที่เดินเข้ามา สร้างบรรยากาศผ่อนคลาย และอบอุ่น จนกลายเป็นเสน่ห์เฉพาะตัว ที่ลูกค้าจดจำ
บริษัทมีการจัดทำ “บัตรพนักงาน” ให้กับทูซอน โดยใช้ชื่อเต็มว่า “ทูซอนไพรม์” (Tucson Prime) มีภาพถ่ายจริง พร้อมตำแหน่งงาน และพนักงาน ยังจัดตารางเวลา ให้ทูซอนมีเวลาเดินเล่น กินข้าว พักผ่อน และได้มีเวลา เล่นกับพนักงานในช่วงเบรก ซึ่งเหมือนกับพนักงานทั่วไปทุกประการ
ภาพของทูซอน ในเสื้อกั๊กพนักงาน กลายเป็นไวรัล ในโซเชียลมีเดียทั่วโลก สร้างกระแสชื่นชมในแง่ของความเมตตา และการให้โอกาสสัตว์ที่ไร้บ้าน จนแม้แต่ทางสำนักงานใหญ่ ของฮุนไดในเกาหลี ก็ร่วมแชร์ภาพของทูซอน ผ่านช่องทางอย่างเป็นทางการ [2]
เรื่องราวของทูซอน ไม่ได้จบแค่การได้บ้านใหม่ แต่ยังกลายเป็นแรงบันดาลใจ ให้โชว์รูมฮุนได หลายสาขาทั่วบราซิล หันมารับสุนัขจรจัด เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของโชว์รูม ในลักษณะเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการตั้งมุมให้อาหาร การเปิดพื้นที่พักผ่อน หรือแม้แต่การเปิดโครงการ หาบ้านให้สุนัขจร
ที่สำคัญ ทูซอนยังได้กลายเป็น “พรีเซนเตอร์” โดยไม่ตั้งใจ ให้กับแนวคิดการรับเลี้ยงสัตว์จรจัด แทนที่จะไปหาซื้อ จากฟาร์มสัตว์เลี้ยง โดยทางโชว์รูม ใช้พื้นที่ในโชว์รูมช่วยหาบ้านให้สุนัขจรตัวอื่นๆ มีการจัดบอร์ดแสดงรูปสุนัขจร ที่กำลังรอบ้าน พร้อมข้อมูลการติดต่อ ของทางศูนย์พักพิง
ทุกวันนี้ ทูซอนไม่ได้เป็นแค่ “สุนัขของโชว์รูม” แต่เป็นสัญลักษณ์ ของการเปลี่ยนแปลงที่จับต้องได้ ในสถานที่ ซึ่งเต็มไปด้วยโลหะเย็นเฉียบ และกลิ่นน้ำมันเครื่อง แต่ทูซอนได้กลายเป็นสิ่งมีชีวิต ที่คอยเติมความอบอุ่น ให้แก่ผู้คน
สำหรับใครที่อยากเห็นทูซอน เขามีบัญชีอินสตาแกรม อย่างเป็นทางการ ชื่อว่า tucson_prime ที่มีผู้ติดตามหลักแสน เพื่อแบ่งปันชีวิตประจำวัน การทำงานในโชว์รูม การไปหาหมอ และภาพถ่ายคู่กับลูกค้า ซึ่งมีหลายคน ที่เดินทางมาเยือนโชว์รูม เพียงเพื่อมาทักทายเขาโดยเฉพาะ [3]
ข่าวของทูซอน ไม่ได้หยุดอยู่แค่ในบราซิล มีสื่อใหญ่ๆ อย่าง CNN, BBC, Reuters และเว็บไซต์ยานยนต์ชื่อดังหลายแห่ง ต่างพากันรายงาน เรื่องราวของ “พนักงานสี่ขา” ตัวนี้ ด้วยความประทับใจ
ไม่ใช่เพียงเพราะความน่ารัก หรือภาพไวรัล แต่เพราะเรื่องนี้ ได้แตะไปยังหัวใจของผู้คน ในมิติที่ลึกซึ้ง ความเมตตา การมองเห็นคุณค่าของชีวิต ที่ไม่มีเสียง และการกล้าจะทำสิ่งเล็กๆ ที่เปลี่ยนแปลงได้จริง
ทูซอนกลายเป็นมากกว่าแค่เรื่องราวดีๆ ประจำวัน เพราะมันตอกย้ำว่า โลกธุรกิจเอง ก็สามารถเป็นพื้นที่แห่งการเยียวยา และเปิดรับได้ ไม่จำเป็นต้องขัดแย้งกับกำไร หรือเป้าหมายทางการค้าเสมอไป กลับกัน การเลือก “เป็นมนุษย์” มากขึ้น กลายเป็นสิ่ง ที่ทำให้ผู้คนจดจำ ได้มากกว่าสินค้าหรูเสียอีก
โชว์รูมฮุนได ที่รับสุนัขจรจัดเข้ามาเลี้ยง อาจดูเป็นเรื่องเล็กๆ ที่ไม่น่าจะมีผลอะไรนัก หากมองจากมุม ของตัวเลขยอดขาย หรือดัชนีเศรษฐกิจ แต่ในอีกแง่หนึ่ง มันคือสัญญาณ ว่ามีองค์กรหนึ่ง ที่เลือกใช้ “ใจ” มากกว่าแค่ “ยอด” ในการขับเคลื่อน
ทูซอนอาจไม่เคยเข้าใจความหมาย ของคำว่า CSR หรือ “ความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร” แต่การมีตัวตนของเขาในพื้นที่ธุรกิจ กลับเป็นการสะท้อนแนวคิดนั้น ได้ชัดเจนที่สุด ไม่มีคำพูดใดจำเป็น เมื่อการกระทำ สามารถทำหน้าที่ได้อย่างบริสุทธิ์
บางที โลกที่เราหวังว่าจะดีขึ้น อาจไม่ได้ต้องการแผนการ ที่ซับซ้อน หรือการปฏิรูปครั้งใหญ่เสมอไป แค่มุมเล็กๆ ให้หลบฝน หรือแค่ใครบางคน ที่ยอมเปิดประตูออกไป และมองดูหมาจรตัวหนึ่ง ด้วยสายตาที่ไม่ตัดสิน แค่นั้น ก็อาจเพียงพอแล้ว ที่จะเปลี่ยนทั้งโลกของใครบางตัว และโลกของเราเองด้วย
ท้ายที่สุดแล้ว เรื่องราวของทูซอนไพรม์ สะท้อนถึงแนวคิดสำคัญ ในการมองเห็นคุณค่าของสิ่งมีชีวิต ที่ไม่มีใครเหลียวแล และบัตรพนักงานสำหรับทูซอน อาจเป็นแค่พลาสติกชิ้นหนึ่ง แต่สำหรับโลก ที่ครั้งหนึ่งเคยปฏิเสธเขา มันคือการยอมรับ คือการได้มีชื่อ คือการมีสถานะ ที่ไม่ใช่แค่ “หมาจรจัด” อีกต่อไป
ทูซอนทำหน้าที่เป็น “Ambassador Dog” คอยต้อนรับลูกค้า สร้างบรรยากาศที่เป็นกันเองในโชว์รูม มีตารางเวลาพักผ่อน เหมือนพนักงานทั่วไป และยังกลายเป็นจุดสนใจของลูกค้า ที่ตั้งใจมาเยี่ยมเขาโดยเฉพาะ
เรื่องของทูซอน ไม่เพียงเปลี่ยนชีวิตเขาเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้โชว์รูม Hyundai หลายแห่งในบราซิล หันมาให้ความสำคัญ กับการช่วยเหลือสัตว์จรจัดมากขึ้น เช่น เปิดพื้นที่ให้พักชั่วคราว หรือช่วยหาบ้านใหม่ และยังสร้างแรงบันดาลใจ ให้สังคมเห็นคุณค่าของการมีเมตตา แม้เพียงเล็กน้อย