สุนัข สายรีวิว เมื่อเจ้าตูบกลายเป็นอินฟลูเอนเซอร์
- Harry P
- 94 views
สุนัข สายรีวิว ในยุคดิจิทัล ที่โซเชียลมีเดีย กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ไม่เพียงแต่มนุษย์เท่านั้น ที่จะสามารถ เป็นอินฟลูเอนเซอร์ได้ สัตว์เลี้ยงอย่างสุนัข และแมว ก็มีบทบาทสำคัญ ในการสร้างคอนเทนต์ ที่น่าสนใจ และดึงดูดผู้ชมจำนวนมาก ได้เช่นกัน
ในประเทศไทย มีสุนัขหลายตัว ที่กลายเป็นดาวเด่น บนแพลตฟอร์มต่างๆ อย่างเช่น TikTok และ YouTube โดยเจ้าของของพวกเขา ได้สร้างช่องทาง ในการแบ่งปันประสบการณ์การเลี้ยงดู การพาไปเที่ยวคาเฟ่สัตว์เลี้ยง และการรีวิวอาหารสัตว์ ที่หลากหลาย และน่าสนใจ
หนึ่งในสถานที่ยอดนิยม ที่สุนัขนักรีวิว และเจ้าของของพวกเขา มักจะไปเยือนคือ คาเฟ่สัตว์เลี้ยง ที่เป็นมิตรกับสัตว์ ในประเทศไทยมีคาเฟ่หลายแห่ง ที่เปิดโอกาสให้สัตว์เลี้ยง เข้ามาใช้บริการได้ พร้อมกับมีเมนูอาหาร ที่เหมาะสำหรับพวกเขา
ตัวอย่างเช่น
นอกจากการพาไปเที่ยวคาเฟ่แล้ว เจ้าของสุนัขนักรีวิว ยังให้ความสำคัญ กับการเลือกอาหารที่เหมาะสม และมีคุณค่า ทางโภชนาการ สำหรับสัตว์เลี้ยงของตน พวกเขามักจะทดลองอาหารต่างๆ และแบ่งปันประสบการณ์ ผ่านวิดีโอ หรือโพสต์บนโซเชียลมีเดีย
การรีวิวอาหารสัตว์ ไม่ได้เป็นเพียง การแสดงความน่ารักของสุนัข ขณะกินอาหารเท่านั้น แต่ยังเป็นการให้ข้อมูล เกี่ยวกับส่วนผสม คุณประโยชน์ และความเหมาะสม ของอาหารแต่ละชนิด เพื่อช่วยให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงคนอื่นๆ สามารถตัดสินใจ เลือกอาหารที่ดีที่สุด สำหรับเพื่อนสี่ขาของพวกเขา
การที่สุนัข กลายเป็นอินฟลูเอนเซอร์ มีผลกระทบ ต่อวงการธุรกิจสัตว์เลี้ยงอย่างมาก ร้านค้า และแบรนด์ต่างๆ เริ่มหันมาให้ความสนใจ กับการตลาดผ่านสัตว์เลี้ยง โดยการเชิญสุนัขนักรีวิว มาโปรโมตสินค้า และบริการของตน
นอกจากนี้ การที่สุนัขมีบทบาทในการรีวิวอาหาร และคาเฟ่สัตว์เลี้ยง ยังช่วยกระตุ้น ให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงคนอื่นๆ ใส่ใจในสุขภาพ และความเป็นอยู่ ของสัตว์เลี้ยงมากขึ้น ซึ่งเป็นผลดี ต่อวงการสัตว์เลี้ยงโดยรวม
เมื่อพิจารณาในเชิงวัฒนธรรม สุนัขสายรีวิว หรือแม้แต่ แมว ในยุคดิจิทัล ที่โด่งดังบนโซเชียล ล้วนเป็นเครื่องสะท้อนการเปลี่ยนแปลง ในวิถีชีวิตคนเมืองยุคใหม่
เจ้าของสัตว์เลี้ยงจำนวนมากในปัจจุบัน ไม่ได้มองสัตว์เป็นเพียง “สัตว์เลี้ยง” แต่มองเป็นสมาชิกในครอบครัว เป็นคู่สนทนา เป็นเพื่อน ในโลกที่หลายคนรู้สึกเหงา หรือโดดเดี่ยว จากสังคมดิจิทัล การผลิตคอนเทนต์เกี่ยวกับสัตว์ จึงไม่ใช่เพียง “การขายความน่ารัก”
แต่คือการสร้างพื้นที่ปลอดภัย (safe space) ทางอารมณ์ ให้กับทั้งเจ้าของ และผู้ชม ใครบางคนอาจแค่เข้ามาดูน้องหมากินเค้ก แล้วรู้สึกอิ่มใจ เท่ากับดูภาพยนตร์จบเรื่องหนึ่ง [2]
เจ้าของสุนัขนักรีวิวจำนวนมาก กลายเป็นผู้จัดการส่วนตัวของ “แบรนด์สัตว์” ไปโดยปริยาย พวกเขาต้องคิดธีมของแต่ละคลิป วางคอนเทนต์ ให้สอดคล้องกับบุคลิกของสุนัข สุนัขบางตัวอาจดูซ่า มีความตลกในจังหวะแปลกๆ เจ้าของก็ต้องรู้ ว่าจะใช้ “อารมณ์ไหน” ให้มันกลายเป็นเอกลักษณ์ ที่ผู้ชมจะจดจำได้
บางคนถึงขั้นมีทีมตัดต่อ จัดทำโลโก้ หรือเพลงประกอบเฉพาะตัว และถ้าแบรนด์ของสุนัขนั้น เติบโตขึ้น ก็อาจมีการจัดทัวร์ พาไปเยี่ยมคาเฟ่สัตว์ทั่วประเทศ หรือออกสินค้า ร่วมกับแบรนด์อาหารสัตว์ เป็นพัฒนาการ ที่ไม่ได้ต่างอะไร จากการดูแลดาราเลยทีเดียว [3]
สุนัขเหล่านี้ อาจเป็นผู้บันทึกความเปลี่ยนแปลง ของยุคสมัย ในแบบที่เรียบง่าย และกินใจ หากคุณเคยประทับใจ กับตัวละครใดสักตัว ที่ดูเหมือนจะไม่ได้มีบทพูดมากนัก แต่กลับส่งอารมณ์บางอย่าง ที่ลึกซึ้งผ่านสายตา และการกระทำ คุณอาจจะพบสิ่งเดียวกันนั้น ได้จาก “สุนัขนักรีวิว” ตัวหนึ่งก็เป็นได้
แต่อีกด้านหนึ่งก็มีคำถาม เชิงจริยธรรม ที่น่าสนใจว่า การพาสุนัขไปรีวิวอาหาร หรือสถานที่ต่างๆ บ่อยๆ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อโปรโมตนั้น เป็นสิ่งที่สัตว์ “ยินดี” หรือไม่ แน่นอนว่าสุนัขไม่สามารถพูดได้ แต่เราเห็นได้ จากภาษากาย สีหน้า หรือพฤติกรรม ที่เปลี่ยนไปว่า เขามีความสุข หรือเครียด
เจ้าของที่ดี จึงต้องตระหนัก ถึงความสมดุล ระหว่างการสร้างคอนเทนต์ กับการดูแลใจของสัตว์เลี้ยง การบังคับให้สัตว์ แสดงออก เกินความเป็นธรรมชาติของเขา หรือจัดฉากให้ดู “เกินจริง” ก็อาจส่งผลกระทบ ในระยะยาวต่อพฤติกรรม และสุขภาพของเขา
ท้ายที่สุดแล้ว สุนัข สายรีวิว ไม่ได้เป็นเพียง ปรากฏการณ์ชั่วคราว แต่คือปรากฏการณ์ร่วมยุค ที่บอกเล่าได้หลายมิติ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องของเศรษฐกิจดิจิทัล วัฒนธรรมโซเชียล หรือสภาวะทางอารมณ์ของมนุษย์ ในยุคที่การเชื่อมต่อบางครั้ง ก็แยกคนออกจากกัน มากกว่าจะรวมกันไว้
เพราะผู้ชม บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียจำนวนมาก ให้ความสนใจ กับคอนเทนต์ที่ให้ “ความสุขแบบเบาๆ” และมีอารมณ์เชิงบวก สุนัขมักมีท่าทาง และบุคลิกน่ารัก ตรงไปตรงมา ดูจริงใจ และไม่เสแสร้ง จึงสามารถสร้างความผูกพัน กับผู้ชมได้ง่าย
ต้องมีใจรักสัตว์ รู้จักสร้างคอนเทนต์ ให้เหมาะกับนิสัยสุนัข และใส่ใจสุขภาพเขาเสมอ ที่สำคัญคือ อย่าลืมความรับผิดชอบต่อคนดู และสัตว์เลี้ยง
