สุดฮือฮา เอ็นโกโล ก็องเต้ มิดฟิลด์จอมขยัน ผู้ไม่เคยหยุดวิ่ง

sun-31
11 ต.ค. 25
17:12
104 views

สุดฮือฮา เอ็นโกโล ก็องเต้ ถือว่าเป็นมิดฟิลด์ที่ได้รับการยกย่อง ในเรื่องของพละกำลัง และอัตราการวิ่งที่ไม่มีวันหมด จนมีคำกล่าวว่า 70 ของโลกปกคลุมด้วยน้ำ ที่เหลือปกคลุมด้วยก็องเต้ สไตล์การเล่นของเขาเน้นการแย่งบอล การตัดเกม และการทำลายจังหวะคู่แข่งในทุกพื้นที่ของสนาม ด้วยการเคลื่อนที่อย่างชาญฉลาดและรวดเร็ว

ประวัติของนักเตะชาวฝรั่งเศส
สถิติที่น่าสนใจของนักเตะคนนี้
เกียรติยศและผลงานที่เคยได้รับ

เรื่องราวและความเป็นมาของ เอ็นโกโล ก็องเต้

สำหรับต้นกำเนิดของเอ็นโกโล ก็องเต้ (N’Golo Kanté) เกิดเมื่อในวันที่ 29 เดือนมีนาคม 1991 ในเมือง Paris ของประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเส้นทางฟุตบอลอาชีพของเขา ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ โดยเคยถูกทีมใหญ่หลายแห่งมองข้าม เพราะมีรูปร่างเล็ก แต่เขาก็ไม่ย่อท้อ และเริ่มไต่เต้าจากสโมสรเล็กๆ ในฝรั่งเศสอย่าง Boulogne

ความพยายามไม่ย่อท้อนี้ ทำให้เขากลายเป็นปรากฏการณ์ ในวงการฟุตบอลอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเขาเป็นกำลังสำคัญ ในการพาทีมเลสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างเหลือเชื่อในปี 2016 (8 ตุลาคม 2025) [1]

เส้นทางสู่การเป็นนักเตะอาชีพ และค่าเหนื่อยเป็นอย่างไร

สำหรับเริ่มต้นอาชีพในลีกระดับล่าง ของฝรั่งเศสกับสโมสร Boulogne ก่อนจะก้าวสู่ทีม Caen และถูก Leicester City คว้าตัวไปในราคาเพียง 5.6 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่ทำให้เขาแจ้งเกิด หลังจากสร้างประวัติศาสตร์ ในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกกับเลสเตอร์ ในเวลาต่อมาเขาย้ายไปเชลซี และรับค่าเหนื่อยสูงถึงราว 290,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ในช่วงท้ายสัญญากับสโมสร

ปัจจุบัน ก็องเต้ย้ายไปเล่นให้กับ อัล อิตติฮัด ในซาอุดีอาระเบีย โดยรายงานระบุว่า เขาได้รับค่าเหนื่อยที่สูงขึ้นอย่างมหาศาล ประมาณ 25 ล้านยูโรต่อปี ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในผู้เล่น ที่ได้รับค่าตอบแทนสูงที่สุด ในโลกฟุตบอลเลยก็ว่าได้ (21 มิถุนายน 2023) [2]

ผลงานในการเล่นฟุตบอลอาชีพของเอ็นโกโล ก็องเต้ มีอะไรบ้าง

สถิติการเล่นให้กับสโมสรอาชีพ

เมื่อปี 2012-2013 เล่นให้กับทีม บูโลญจน์ ลงเล่นไป 38 นัด ประตูที่ทำได้ 3 ลูก
เมื่อปี 2013-2015 เล่นให้กับทีม Caen ลงเล่นไป 75 นัด ประตูที่ทำได้ 4 ลูก
เมื่อปี 2015-2016 เล่นให้กับทีม เลสเตอร์ ซิตี้ ลงเล่นไป 37 นัด ประตูที่ทำได้ 1 ลูก
เมื่อปี 2016-2023 เล่นให้กับทีม เชลซี ลงเล่นไป 190 นัด ประตูที่ทำได้ 11 ลูก
และสุดท้ายเมื่อปี 2023 เล่นให้กับทีม อัล อิติตฮัด ลงสนามไป 65 เกม ซับไป 7 ประตู

เส้นทางอาชีพในการค้าแข้งให้กับทีมชาติ ฝรั่งเศส

เมื่อในปี 2016 ลงสนามรวมทุกรายการ อยู่ทั้งหมด 64 เกม ซับไป 2 ประตู

เปิดเรื่องราวสุดฮือฮาของเอ็นโกโล ก็องเต้

เรื่องราวสุดฮือฮา ที่ทำให้ผู้คนหลงรักเอ็นโกโลก็องเต้ คือความถ่อมตนที่สวนทางกับ ความสำเร็จระดับโลกของเขา ครั้งหนึ่งเขาเคยตกรถไฟ และได้ไปเยี่ยมบ้านแฟนบอลอาร์เซนอล ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เพื่อร่วมรับประทานอาหาร และเล่นวิดีโอเกมด้วยกันอย่างเรียบง่าย

นอกจากนี้ ก็องเต้ยังเคยถูกเล่าขานว่ายังคงขับรถ Mini Cooper คันเก่าไปฝึกซ้อม ทั้งที่สามารถซื้อรถหรูได้มากมาย แสดงให้เห็นถึงชีวิตส่วนตัว ที่ติดดินอย่างไม่น่าเชื่อ สำหรับซูเปอร์สตาร์วงการลูกหนัง

จุดเริ่มต้นที่ไม่ใหญ่ในปารีส กับความฝันอันยิ่งใหญ่

แม้จะเกิดและเติบโต ในย่านชานเมืองปารีส ท่ามกลางครอบครัว ผู้อพยพจากมาลีที่ต้องดิ้นรน แต่ความฝันในการเป็นนักฟุตบอลอาชีพของเขา ก็เบ่งบานอย่างเงียบ เขาเริ่มต้นเส้นทางที่สโมสรท้องถิ่นอย่าง JS Suresnes ในวัย 8 ขวบ และต้องพยายามอย่างหนัก เพื่อเอาชนะข้อจำกัดทางสรีระ ที่ทำให้เขาถูกทีมใหญ่เมินเฉย

โดยความทุ่มเท และนิสัยที่ถ่อมตนอย่างต่อเนื่องนี้เอง ที่เป็นรากฐานสำคัญ ที่ส่งให้เด็กชายร่างเล็กในปารีสคนนี้ ก้าวไปสู่การเป็นกองกลางระดับโลกในที่สุด

ความสำเร็จในเส้นทางลูกหนังของเอ็นโกโล ก็องเต้เป็นยังไง

ผลงานหรือความสำเร็จของเขา ช่วยพาทีมสิงห์บลู คว้าแชมป์ลีกสูงสุดอย่าง พรีเมียร์ลีก 1 สมัย ตั้งแต่ฤดูกาล 2016-2017
ช่วยพาทีมคว้าแชมป์ เอฟเอคัพ 1 สมัย ในปี 2018
ช่วยพาทีมคว้าแชมป์ ยูโรปาลีก 1 สมัย ในฤดูกาล 2018-2019
ช่วยพาทีมคว้าแชมป์ ยูฟ่าซูเปอร์คัพ 1 สมัย ในฤดูกาล 2021-2022
ช่วยพาทีมคว้าแชมป์ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก หนึ่งสมัย ในฤดูกาล 2020-2021
และสุดท้ายช่วยพาทีมคว้าแชมป์ สโมสรโลก หนึ่งสมัย ในปี 2022

ที่มา: #7 N’Golo Kanté (2025) [3]

สรุปโดยย่อของ สุดฮือฮา เอ็นโกโลก็องเต้

เรื่องราวในตอนจบของ สุดฮือฮา เอ็นโกโลก็องเต้ คือการเป็นซูเปอร์สตาร์ที่มีชีวิตเรียบง่าย และถ่อมตัวอย่างไม่น่าเชื่อ เขาโด่งดังจากความสามารถอันเป็นเลิศในสนาม ทั้งการพาเลสเตอร์คว้าแชมป์ลีก และคว้าแชมป์โลกกับฝรั่งเศส แต่ในชีวิตส่วนตัวกลับไม่เคยโอ้อวดแม้แต่น้อย

นักเตะที่พิสูจน์ว่า มีความขยันมากกว่าคนอื่น เป็นยังไง

โดยเจ้าตัวพิสูจน์ด้วยความขยันคือ การวิ่งครอบคลุมพื้นที่เกือบทั้งสนาม ซึ่งสถิติการตัดบอล และแย่งบอลที่สูงลิ่วของก็องเต้ ในทุกสโมสรคือเครื่องยืนยัน เขาแสดงให้เห็นว่าพรสวรรค์เพียงอย่างเดียวไม่พอ แต่ต้องมีวินัยในการทำงานหนัก และการฝึกซ้อมที่สม่ำเสมอ เหมือนกันกับ มิคาเอล เอสเซียง จนสามารถรักษามาตรฐาน ของการเล่นระดับสูงได้อย่างยาวนาน

ความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของก็องเต้

โดยความโดดเด่นเฉพาะตัวของก็องเต้คือ การเป็นกองกลางตัวรับที่มีความสามารถ ในการครอบคลุมพื้นที่อย่างน่าเหลือเชื่อ จนได้ฉายาว่ามี สองปอด และเป็นผู้เล่นที่มีอิทธิพลต่อเกมรับ และเกมรุกอย่างเท่าเทียมกัน แม้จะมีรูปร่างเล็ก แต่เขามีจังหวะการเข้าสกัด และอ่านเกมที่แม่นยำอย่างหาตัวจับยาก ทำให้เขาสามารถขัดขวางคู่ต่อสู้แล้ว เปลี่ยนบอลเป็นโอกาสได้อย่างรวดเร็ว