เปิดข้อมูลเกี่ยวกับ รัฐบาลเกาหลีใต้ ส่งตำรวจไปกัมพูชา

รัฐบาลเกาหลีใต้ ส่งตำรวจไปกัมพูชา

รัฐบาลเกาหลีใต้ ส่งตำรวจไปกัมพูชา เพื่อจัดการกับปัญหา อาชญากรรมไซเบอร์ ที่พุ่งเป้าไปที่พลเมืองเกาหลีใต้ โดยเฉพาะกรณีที่พลเมืองถูกหลอก ไปทำงานในขบวนการแก๊งสแกมเมอร์ และถูกกักขังทรมานภารกิจหลักคือ การช่วยเหลือและนำตัวพลเมือง ที่ตกเป็นเหยื่อกลับประเทศ รวมถึงการสืบสวนคดีฆาตกรรม นักศึกษาเกาหลีใต้ที่ถูกลักพาตัว และทรมานจนเสียชีวิต

  • เหตุผลเบื้องหลังการส่งตำรวจเกาหลีใต้ไปกัมพูชา
  • จุดประสงค์สำคัญของภารกิจครั้งนี้
  • ที่มาของความร่วมมือด้านความมั่นคง

ข้อตกลงระหว่างรัฐบาลทั้งสองประเทศ

โดยข้อตกลงและท่าทีที่แข็งขันในการร่วมมือกัน ในการปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ ระหว่างรัฐบาลเกาหลีใต้และกัมพูชา เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมในช่วง 2025 หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ ที่พลเมืองเกาหลีใต้ถูกล่อลวง คนเกาหลีหาย ที่กัมพูชา และตกเป็นเหยื่ออย่างต่อเนื่อง รวมถึงกรณีการเสียชีวิต ของนักศึกษาเกาหลีใต้ในกัมพูชา

เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2568 นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตของกัมพูชาได้ให้คำมั่นกับ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีใต้ ในการเสริมสร้างความร่วมมือ เพื่อต่อสู้กับการหลอกลวงออนไลน์ โดยเบื้องต้น ได้มีการเห็นชอบในแนวทางปฏิบัติหลัก 3 ข้อ เพื่อยกระดับการปราบปราม

อีกทั้ง ยังมีรายงานว่าชาวเกาหลีใต้ 330 คน ถูกควบคุมตัวหรือกักขัง โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายในกัมพูชา ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากจากปี 2567 ที่มีรายงาน 220 คดี รวมถึงการประเมินโดยเกาหลีใต้ ประเมินว่ามีชาวเกาหลีใต้ประมาณ 1,000 คน ที่ทำงานในศูนย์หลอกลวงออนไลน์ในกัมพูชา โดยอยู่ในจำนวนคนทั้งหมด อยู่ประมาณ 200,000 คน ที่ทำงานในศูนย์เหล่านี้ (14 ตุลาคม 2025) [1]

วัตถุประสงค์ของการส่งเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ เพราะว่าสาเหตุใด

วัตถุประสงค์หลักของการส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจและคณะทำงานพิเศษของเกาหลีใต้ไปยังกัมพูชา คือการเข้าจัดการและแก้ไขปัญหา อาชญากรรมข้ามชาติที่พุ่งเป้ามาที่พลเมืองเกาหลีใต้ ซึ่งทวีความรุนแรงขึ้นจนเป็นวิกฤตความปลอดภัยของชาติ โดยมีสาเหตุหลักดังนี้

  • การช่วยเหลือพลเมืองที่ถูกกักขังและค้ามนุษย์: เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือ และนำตัวพลเมืองเกาหลีใต้ที่ถูกล่อลวงเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา เพื่อให้ไปทำงานในขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และการค้ามนุษย์ โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ในศูนย์ปฏิบัติการอาชญากรรมของกัมพูชา ให้เดินทางกลับประเทศอย่างปลอดภัย
  • การสืบสวนคดีฆาตกรรมนักศึกษา: เพื่อร่วมกับทางการกัมพูชา ในการสืบสวนอย่างละเอียด และรวดเร็วในคดี นักศึกษาเกาหลีใต้ถูกลักพาตัว ทรมาน และเสียชีวิต ในพื้นที่จังหวัดกำปอต เมื่อเดือนสิงหาคม เพื่อให้แน่ใจว่าผู้กระทำผิด จะถูกนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด
  • การปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์อย่างจริงจัง: เพื่อส่งสัญญาณความไม่ยอมรับ ต่อขบวนการอาชญากรรมออนไลน์ ที่ใช้กัมพูชาเป็นฐานปฏิบัติการ และผลักดันให้รัฐบาลกัมพูชา ดำเนินการปราบปราม และยุติเครือข่ายเหล่านี้อย่างถอนรากถอนโคน เพื่อปกป้องความปลอดภัย ของพลเมืองเกาหลีใต้ในระยะยาว

ที่มา: ตำรวจเกาหลีใต้ (13 ตุลาคม 2025) [2]

ผลกระทบและแนวโน้มในอนาคต ระหว่างสองประเทศ

สำหรับในเรื่องของผลกระทบ และแนวโน้มในอนาคตจากสถานการณ์ อาชญากรรมไซเบอร์ที่เกิดขึ้น และนำไปสู่การส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเกาหลีใต้ไปกัมพูชา แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลง ในความสัมพันธ์ทวิภาคี โดยเน้นไปที่ความมั่นคง และความร่วมมือในการบังคับใช้กฎหมาย มีดังนี้

ผลกระทบหลักต่อความสัมพันธ์

  • ความตึงเครียดทางการทูตระยะสั้น: การที่เกาหลีใต้แสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรง ต่อความปลอดภัยของพลเมือง นำไปสู่การยกระดับคำเตือนการเดินทาง และส่งคณะทำงานเฉพาะกิจ ซึ่งสะท้อนความตึงเครียด แต่ก็เร่งให้เกิดการตอบสนองจากกัมพูชา
  • การยกระดับความร่วมมือด้านความมั่นคง: ทั้งสองประเทศได้เห็นพ้อง ในการจัดตั้งกลไกความร่วมมือถาวร เช่น Korean Desk ซึ่งจะเป็นการผสานงานระหว่างหน่วยงานตำรวจโดยตรง เพื่อรับมืออาชญากรรมข้ามชาติได้รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

แนวโน้มในอนาคต

  • การปราบปรามที่เข้มงวดขึ้น: คาดว่ากัมพูชาจะต้องเร่งปราบปรามฐานปฏิบัติการ ของแก๊งสแกมเมอร์อย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาภาพลักษณ์ และความสัมพันธ์กับเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นผู้ลงทุนสำคัญ
  • การกลับมาของความเชื่อมั่น: หากความร่วมมือในการกวาดล้างประสบความสำเร็จและจำนวนพลเมืองเกาหลีใต้ที่ตกเป็นเหยื่อลดลง จะส่งผลดีต่อการฟื้นฟูความเชื่อมั่นและอาจนำไปสู่การขยายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการลงทุนอีกครั้งในอนาคต

การฝึกอบรม และแลกเปลี่ยนความรู้ของทหาร

รัฐบาลเกาหลีใต้ ส่งตำรวจไปกัมพูชา

โดยการฝึกอบรมและแลกเปลี่ยนความรู้ของทหาร เป็นกระบวนการสำคัญ ที่มุ่งเน้นการยกระดับความสามารถ ในการปฏิบัติการร่วมกันระหว่างสองประเทศ และสร้างความเข้าใจร่วมกันในเชิงยุทธวิธี ระหว่างกองทัพของประเทศพันธมิตรหรือมิตรประเทศ

หัวใจของการฝึกอบรมคือการแบ่งปัน เทคนิคและยุทธวิธีสมัยใหม่ รวมถึงการฝึกรับมือกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ เช่น อาชญากรรมไซเบอร์ หรือสงครามอิเล็กทรอนิกส์ และการเสริมสร้างทักษะเฉพาะทางการค้นหา และกู้ภัย หรือการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม

การแลกเปลี่ยนความรู้นี้ ช่วยให้ทหารสามารถเรียนรู้จากประสบการณ์จริง ของกองทัพอื่น ลดช่องว่างของความรู้, และสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่แน่นแฟ้น ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็น สำหรับการรักษาความมั่นคง ในระดับภูมิภาคและระดับโลก

การรับมือกับอาชญากรรมข้ามชาติ

ซึ่งในการรับมือกับอาชญากรรมข้ามชาติ และคดีทางไซเบอร์ร่วมกันนั้น ต้องอาศัยการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวกรองอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ระหว่างหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ของสองประเทศทั้งเกาหลีและกัมพูชา เพื่อติดตามเครือข่ายอาชญากร และเส้นทางการเงินดิจิทัลอย่างทันท่วงที

นอกจากนี้ ยังรวมถึงการจัดตั้ง คณะทำงานร่วมเฉพาะกิจ เพื่อประสานการปฏิบัติการจับกุมข้ามพรมแดน และการช่วยเหลือเหยื่อ การค้ามนุษย์ ที่ถูกล่อลวงไปทำงานในแก๊งสแกมเมอร์

อีกทั้ง ขยายไปถึงการเสริมสร้างความรู้ทางเทคนิค ด้านนิติวิทยาศาสตร์ดิจิทัล และการสืบสวนคดีไซเบอร์ รวมถึงการถ่ายโอนผู้ต้องหา เพื่อนำมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ของประเทศที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นกลไกสำคัญ ในการตัดวงจรอาชญากรรมข้ามชาติให้หมดไป

หน้าที่ของตำรวจเกาหลีใต้ เป็นแบบไหน

บทบาทของตำรวจเกาหลีใต้ ที่ถูกส่งไปกัมพูชาคือ การปกป้องและช่วยเหลือพลเมือง ที่ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับ แก๊งสแกมเมอร์ และการถูกล่อลวงไปค้ามนุษย์ ซึ่งความร่วมมือนี้เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วนในช่วงปี 2025 หลังเหตุการณ์รุนแรงหลายคดี (17 ตุลาคม 2025) [3]

ความร่วมมือที่สำคัญคือการ จัดตั้งกลไกเฉพาะกิจ เช่น โต๊ะเกาหลี เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถประสานงานโดยตรง กับตำรวจกัมพูชาในการสืบสวน และนำตัวพลเมืองที่ถูกกักขังกลับประเทศ ซึ่งในภารกิจเร่งด่วนมีพลเมือง ที่ต้องได้รับการช่วยเหลือ และส่งกลับประเทศกว่า 60 คน แถมยังมีจำนวนคดีที่ชาวเกาหลีใต้ ตกเป็นเหยื่อในกัมพูชาได้พุ่งสูงขึ้นจาก 220 คดีในปี 2024 และอาจจะเป็น 330 คดี

บทสรุป รัฐบาลเกาหลีใต้ ส่งตำรวจไปกัมพูชา

เราจึงสรุปได้ว่า รัฐบาลเกาหลีใต้ ส่งตำรวจไปกัมพูชา เพื่อยกระดับปฏิบัติการเชิงรุก ปราบปรามเครือข่าย อาชญากรรมไซเบอร์ ที่ใช้กัมพูชาเป็นฐานล่อลวงพลเมืองของตน ภารกิจนี้เน้นการกอบกู้สถานการณ์วิกฤต หลังพลเมืองจำนวนมาก ถูกบังคับใช้แรงงานในแก๊งสแกมเมอร์ และการเสียชีวิตของนักศึกษา โดยมีเป้าหมายในการจัดตั้งกลไกถาวร เพื่อความร่วมมือด้านกฎหมาย

บทบาทของตำรวจเกาหลีใต้ในกัมพูชา เป็นอย่างไร

บทบาทของตำรวจเกาหลีใต้ในกัมพูชาคือ การเป็นชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจ ที่มีอำนาจในการสืบสวน และประสานงานโดยตรง กับหน่วยงานกัมพูชา เพื่อเร่งติดตามและนำตัวพลเมือง ที่ถูกหลอกลวงหรือกักขัง โดยแก๊งอาชญากรรมไซเบอร์กลับประเทศ การนี้ถือเป็นการยกระดับ ความสามารถในการคุ้มครองพลเมือง ข้ามชาติอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

อนาคตของความสัมพันธ์เกาหลีใต้และกัมพูชา ยังจะมีอยู่ไหม

โดยความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ อาจจะยังคงมีอยู่ต่อไป แต่จะมีพลวัตที่ซับซ้อนขึ้น โดยเปลี่ยนจากความสัมพันธ์ที่เน้นเศรษฐกิจ และการลงทุนเป็นหลัก มาสู่การให้ความสำคัญกับความมั่นคง และการต่อสู้กับอาชญากรรมไซเบอร์ ซึ่งอนาคตจะขึ้นอยู่กับว่าทั้งสองฝ่าย ประสานความร่วมมือด้านกฎหมาย ในการปราบปรามแก๊งอาชญากรข้ามชาติ ได้อย่างมีประสิทธิภาพแค่ไหน

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง