
รวมดราม่า บาสไทย อุปสรรคในวงการบาสเกตบอล
- Harry P
- 90 views
รวมดราม่า บาสไทย ในสายตาของคนทั่วไป วงการบาสเกตบอลไทย อาจไม่ใช่กีฬาหลัก แต่กลับเต็มไปด้วยเสียงสะท้อน จากปัญหาหลากหลาย ที่สะสมมา จนเกิดเป็น “ดราม่า” หลายๆมุม ที่สั่นสะเทือนตั้งแต่ระดับเยาวชน ไปจนถึงทีมชาติ และไม่ใช่แค่เรื่องในสนาม ศึกนอกสนาม ก็เผ็ดไม่แพ้กัน
รวมดราม่า บาสไทย ประเทศที่ผู้คน เฝ้ารอดูฟุตบอลระดับโลก ผ่านหน้าจอ หรือเชียร์วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติ ด้วยหัวใจที่เต้นแรง บาสเกตบอลกลับถูกวางไว้ ในมุมเงียบๆของกีฬาไทย มุมที่มีแสงสว่างน้อย แต่มีเสียงสะท้อน ที่ดังอยู่ตลอดเวลา
เสียงที่เปล่งออกมา จากนักกีฬา โค้ช เยาวชน และผู้ที่พยายามผลักดันกีฬานี้ อย่างจริงจัง แต่ต้องสะดุดซ้ำแล้วซ้ำเล่า กับคำว่า “ระบบ”
คำว่า “รวมดราม่าบาสไทย” จึงไม่ได้เป็นแค่ชื่อเรียกสวยๆ ของปัญหา แต่มันคือประวัติศาสตร์ ที่สะสมมาเป็นชั้นๆ ซ้อนกัน และบ่งบอก ว่าเกมลูกกลมนี้ ไม่ได้ติดขัดแค่ในสนาม แต่มันติดขัดในระบบการคิดของสังคม ที่ยังไม่ยอมรับมันอย่างแท้จริง [1]
ลองจินตนาการว่าคุณ เป็นเด็กคนหนึ่ง ที่หลงรักบาสเกตบอล คุณฝึกซ้อมทุกวัน ดูวิดีโอการเล่นของโคบี้ ไบรอันท์ ย้อนหลังทุกคืน และฝันว่า อยากเป็นนักบาสอาชีพ แล้ววันหนึ่ง คุณก็ทำได้ คุณได้เล่นในลีกอาชีพของไทย มีเสื้อเบอร์ของตัวเอง มีแฟนคลับบางกลุ่ม ที่รู้จักชื่อคุณ
แล้วจู่ๆ ความจริงก็กระแทกใส่คุณว่า คุณไม่สามารถหาเลี้ยงชีพ จากมันได้จริง นี่คือความจริงที่ นักบาสอาชีพ ในไทย หลายคนต้องเผชิญ ถึงแม้จะมีชื่อเสียง ในวงการบาส แต่รายได้กลับไม่มั่นคง ไม่เพียงพอต่อค่าครองชีพ ในเมืองใหญ่
หลายคนต้องสอนพิเศษ ขายของออนไลน์ หรือลงสนามรับงานทัวร์นาเมนต์นอกลีก เพื่อให้พอใช้จ่าย ทั้งที่ร่างกายของเขา ควรถูกใช้ไปกับการซ้อม พักฟื้น และแข่งขัน ความฝันที่เคยสว่างไสว จึงเริ่มริบหรี่ลง ในเงาของคำถามที่ว่า “เราเล่นบาสเพราะรัก หรือเล่นเพราะเรายังไม่มีทางเลือกอื่น” [2]
บาสโรงเรียนเอกชน vs รัฐ ถ้าความเหลื่อมล้ำ ในบาสอาชีพคือปลายทาง ความเหลื่อมล้ำในระดับโรงเรียน ก็คือจุดเริ่มต้น ของความไม่เท่าเทียม บาสไทยไม่ได้ขาดคนเก่ง แต่ขาด “ระบบที่เปิดโอกาสอย่างเท่าเทียม” อย่างเด็กๆ ในโรงเรียนเอกชน ที่มีชื่อเสียง ก็มักจะได้เปรียบ ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐาน
มีสนามบาสในร่ม มีโค้ชประจำทีม ที่จบการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา ทั้งหมดนี้ คือสิ่งที่เด็กบางคน ไม่เคยได้รับแม้แต่วันเดียว เด็กโรงเรียนรัฐจำนวนมาก ซ้อมในสนามที่พื้นลื่น พอฝนตกต้องหยุด ไม่มีงบประมาณ ที่จะซื้ออุปกรณ์ใหม่ และต้องอาศัยครูพละ ที่มีเวลาเพียง 2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ มาดูแล
พวกเขาถูกสอนให้ “สู้สุดใจ” โดยไม่มีเครื่องมือใดๆ ให้พวกเขาสู้เลย และเมื่อการแข่งขันระดับประเทศมาถึง เด็กจากโรงเรียนรัฐเหล่านี้ ต้องแบกรับความคาดหวัง เหมือนกันกับอีกฝ่าย ทั้งที่พวกเขา ไม่เคยได้เริ่มต้น ในเส้นเดียวกันตั้งแต่ต้นด้วยซ้ำ
สาวไทยจำนวนมาก หลงรักการเล่นบาส พอๆกับผู้ชาย แต่ความต่างคือ พวกเธอจะเติบโตในระบบ ที่ไม่ได้เชื่อว่าพวกเธอ “ควรจะมีตัวตน” ในสนามแข่งขัน
นี่คืออีกหนึ่งประเด็น ที่ถูกพูดถึงอย่างเงียบๆ แต่จริงจัง คือบทบาทของ หญิงไทย ในสนามบาส ไม่ใช่แค่จำนวนการแข่งขัน ที่น้อยกว่า หรือการได้รับการสนับสนุน ที่จำกัดกว่า แต่มันสะท้อนถึงทัศนคติ และระบบ ที่ยังมองว่ากีฬานี้ “ไม่ใช่ของผู้หญิง”
การแข่งขันที่ผู้หญิง มักถูกมองว่าเป็นรอง การพัฒนาระดับทีมชาติ ก็ยังต้องฝ่าฟันมากกว่าฝ่ายชาย ความไม่เท่าเทียมนี้ ไม่ได้เกิดจากความสามารถ แต่มาจากระบบ ที่ไม่ได้เอื้อให้เติบโตได้เท่ากันตั้งแต่ต้น [3]
ศึกนอกสนาม บาสไทย ในบางครั้ง บาสเกตบอลไทย ไม่ได้พ่ายแพ้เพราะเกมในสนาม แต่แพ้เพราะเกมนอกสนาม เบื้องหลังของความล่าช้า ในการจัดการแข่งขันเยาวชน การเปลี่ยนแปลงโค้ชระดับทีมชาติบ่อยๆ หรือการพัฒนาโปรแกรมฝึก ที่ไม่มีความต่อเนื่อง มักเกี่ยวข้อง กับปัญหาภายในสมาคมฯ
ความขัดแย้ง ในหมู่ผู้บริหาร ทำให้นักกีฬาหลายคน เติบโตมาในระบบที่ไม่มีคำว่า “แผนระยะยาว” ถูกเลือกเข้าทีมหนึ่งปี พอปีถัดมา ไม่มีโปรแกรมให้แข่ง ถูกถอดออกจากทีม โดยไม่มีคำอธิบาย ถูกส่งไปแข่ง โดยไม่มีการเตรียมตัว เพราะฝ่ายจัดไม่สามารถตกลงกันได้
เด็กคนหนึ่งอาจมีพรสวรรค์ มีแรงใจ มีครอบครัวที่สนับสนุน แต่เมื่อชนเข้ากับกำแพงของระบบ ที่สั่นไหวทุกครั้ง เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงฝ่ายบริหาร ความฝันของเขาก็เริ่มร้าว และบางครั้งก็ต้องพังลง
บาสเกตบอลไทย ไม่เคยขาดคนที่รักมันจริงๆ แต่การที่ระบบ ยังทำให้หลายคนต้องถอนตัว ทั้งที่ยังไม่ถึงจุดสูงสุดของตัวเอง เป็นสิ่งที่สะท้อนว่าปัญหานั้น ไม่ได้อยู่ที่ตัวนักกีฬา แต่อยู่ที่ “ระบบ” ที่ยังไม่พร้อม จะพาใครไปไหนได้ไกล
ในเกมบาสเกตบอล ถ้าคุณพลาดหนึ่งจังหวะ คุณจะยังมีโอกาสกลับมาแก้เกม แต่ในโลกความจริงของวงการบาสไทย ถ้าระบบยังไม่เปลี่ยน คนที่พลาดจังหวะไปครั้งหนึ่ง ก็อาจไม่มีโอกาส ที่จะได้กลับมาเลยตลอดชีวิต
การพูดถึงสิ่งเหล่านี้ ไม่ใช่การซ้ำเติม แต่มันคือการตั้งคำถาม ว่าถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่เราจะเริ่มทำให้เกมนี้ ได้ดำเนินไปอย่างยุติธรรม เอื้อสำหรับทุกคน ที่อยากเล่นมันอย่างจริงจัง บาสเกตบอลไทยมีศักยภาพ มีคนเก่ง แต่ทั้งหมดนั้นจะไร้ความหมาย ถ้าระบบยังไม่พร้อม ที่จะสนับสนุนพวกเขา อย่างที่ควรจะเป็น
บทสรุป รวมดราม่า บาสไทย จึงไม่ใช่แค่เรื่องของประเด็นใด ประเด็นเดียว แต่มันคือภาพรวมของระบบ ที่ยังต้องปรับปรุง ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐาน ไปจนถึงการบริหารจัดการ ในระดับชาติ เส้นทางของวงการบาสไทย ยังอีกยาวไกล และจะไม่มีวันพัฒนาได้ ถ้ายังมีปัญหาเรื้อรัง ที่ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง
เพราะโรงเรียนเอกชนหลายแห่ง มีทรัพยากรที่เอื้อต่อการพัฒนานักกีฬา มีสนามดีๆ มีโค้ชประจำ และมีอุปกรณ์พร้อม ต่างจากโรงเรียนรัฐที่มักขาดงบ เด็กจึงฝึกได้น้อยกว่า พัฒนาได้ช้ากว่า ทั้งที่อาจมีความสามารถไม่แพ้กัน
เพราะปัญหาในสมาคม ทำให้โครงการเยาวชน ขาดความต่อเนื่อง บางคนได้คัดตัวแล้ว ก็ถูกถอดกลางทาง หรือไม่มีแข่งตามแผน สุดท้ายเด็กหลายคนหมดแรงใจ และเลิกเล่นไปทั้งที่ยังมีแวว