มือเย็น ระดับศูนย์องศา จุดที่สงบที่สุดในทีมที่กำลังเดือด
- Harry P
- 51 views
มือเย็น ระดับศูนย์องศา เทรย์ เมอร์ฟีที่ 3 (Trey Murphy III) แม้จะอยู่ท่ามกลางความปั่นป่วนของ New Orleans Pelicans แต่เขากลับยืนหยัด เป็นผู้เล่นที่เยือกเย็นที่สุด มือชู้ตสามแต้ม ที่แม่นราวกับจักรกล ผู้ขยับเกมโดยไม่สร้างคลื่น และกำลังกลายเป็นปัจจัยเงียบ ที่ขับเคลื่อนทีมในยุคที่ไม่แน่นอน
ในเกมบาสเกตบอล ที่ทุกอย่างเคลื่อนไหวอย่างร้อนแรง ทั้งความเร็ว อารมณ์ และการแข่งขัน มีผู้เล่นไม่กี่คน ที่ยืนอยู่ตรงกลางความวุ่นวายนั้นได้ โดยไม่สั่นคลอน และเมอร์ฟีคือหนึ่งในนั้น เขาไม่ใช่คนที่ใครพูดถึง ในข่าวหน้าหนึ่งของ NBA
แต่เขาคือผู้เปลี่ยนสมดุลของเกมได้ ด้วยการ “ไม่เปลี่ยนแปลง” เขาไม่เร่ง ไม่เดือด ไม่โวยวาย และไม่ทำลายระบบ เขาคือมือชู้ตสามแต้ม ที่เยือกเย็นที่สุดในทีม ที่กำลังอยู่ในจุดเดือด
นิวออร์ลีนส์ พีลิแกนส์ (New Orleans Pelicans) คือทีมที่กำลังแสวงหาอัตลักษณ์ ภายใต้แรงดันของความคาดหวัง ไซออน วิลเลียมสัน (Zion Williamson) คือเครื่องยนต์หลัก ที่พร้อมจะระเบิดพลัง เมื่อสุขภาพเอื้ออำนวย แบรนดอน อินแกรม (Brandon Ingram) คือปีกสายสร้างเพลย์
ที่บางครั้งต้องเลือก ว่าจะเป็นผู้กำหนดเกม หรือผู้เล่นร่วม และซีเจ แม็คคอลลัม (CJ McCollum) คือผู้คุมจังหวะ ในวันที่เสียงในห้องล็อกเกอร์ดังเกินไป แต่ในขณะที่พีลิแกนส์ เต็มไปด้วยอารมณ์ และพลังดิบ เมอร์ฟีกลับเดินในเส้นทางที่เงียบ และแม่นยำ
มือเย็น ระดับศูนย์องศา “เทรย์ เมอร์ฟีที่ 3” เกิดเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ปี 2000 ที่เมือง Durham รัฐนอร์ทแคโรไลนา เมอร์ฟีเติบโตมาในครอบครัวที่รักกีฬา เขาไม่ใช่ผู้เล่น ที่ถูกคาดหวัง ให้มาไกลขนาดนี้ตั้งแต่แรก เมอร์ฟีเริ่มต้นอาชีพบาสระดับวิทยาลัยที่ Rice University
เป็นมหาวิทยาลัยเอกชน ในรัฐเทกซัส ซึ่งไม่ได้ขึ้นชื่อด้านบาสเกตบอล แต่เขากลับฉายแววโดดเด่น อย่างชัดเจน จากนั้นย้ายไป University of Virginia ซึ่งมีโปรแกรมบาส ระดับแนวหน้าของประเทศ เพื่อพิสูจน์ว่าตัวเอง มีดีพอจะเล่นในเวทีใหญ่ และเขาก็ทำได้
ในปี 2021 เขาเข้าสู่ NBA ด้วยการถูก Memphis Grizzlies ดราฟต์ในอันดับที่ 17 และเทรดให้ New Orleans Pelicans ทันที ในคืนเดียวกัน เส้นทางของเมอร์ฟี ไม่ใช่เส้นตรง ไม่รวดเร็ว หรือเปรี้ยงปร้าง แต่เต็มไปด้วยความมั่นคง และวินัย (5 พฤษภาคม 2025) [1]
ในฤดูกาล 2024-25 นี้ เมอร์ฟีอยู่ในช่วงพีคของอาชีพ เขาลงเล่นไปแล้ว 53 เกม (เป็นตัวจริง 51 เกม) ให้กับพีลิแกนส์ พร้อมสร้างตัวเลขเฉลี่ย 21.2 คะแนน 5.1 รีบาวด์ 3.5 แอสซิสต์ ชู้ตจากสนาม 45.4% และชู้ตสามแต้มได้แม่นถึง 36.1% (27 กรกฎาคม 2025) [2]
ตัวเลขเหล่านี้ ไม่ได้มาจากการเร่งจังหวะ แต่เกิดจากการเคลื่อนไหวที่มั่นคง และจังหวะการเล่นที่นิ่งดุจเครื่องจักร ซึ่งทำให้เขาเป็นหนึ่งในผู้เล่น ที่สร้างผลกระทบต่อเกม โดยไม่ต้องใช้เสียง แต่สิ่งที่ทำให้เขาโดดเด่น ไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่คือจังหวะ และพลังเงียบที่ส่งผลต่อเกม ในแบบที่ไม่มีเสียงใดเตือน
เมอร์ฟีคือมือชู้ตแบบ Catch-and-Shoot เขามีการยืนในตำแหน่งที่ถูกต้อง ออกบอลไว และการเคลื่อนไหว แบบอ่านเกมล่วงหน้า ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ “ยากจะปิด” สำหรับเกมรับของฝ่ายตรงข้าม ไม่ใช่เพราะเขาเล่นเหนือมนุษย์ แต่เพราะเขาเล่นง่ายเกินกว่ามนุษย์ทั่วไป จะตามได้ทัน
จุดแข็งของเมอร์ฟี คือความเสถียรในการเคลื่อนไหว และความแม่นยำที่ไม่แกว่ง แม้จะชู้ตสามแต้มต่อเกมเฉลี่ยสูง เขายังคงรักษา effective field goal percentage ไว้ที่ประมาณ 54.8% ซึ่งถือว่าสูง สำหรับผู้เล่นแนวปีก ที่ไม่ใช่ซูเปอร์สตาร์
นี่ไม่ใช่เพราะเขาร้อนแรงเหมือน สตีเฟน เคอร์รี (Stephen Curry) แต่เพราะเขาเย็นเกินกว่าที่คู่แข่ง จะสร้างแรงกดดันได้ ตัวเขาเหมือนเส้น ที่ถูกลากผ่านใจกลางความวุ่นวาย โดยไม่มีแรงเบี่ยงเบน เส้นตรงที่นิ่ง และเฉียบ
เมื่อเปรียบเทียบกับผู้เล่นตำแหน่งเดียวกัน เมอร์ฟีมีประสิทธิภาพ ในระดับเดียวกับผู้เชี่ยวชาญอย่าง ชู้ตเตอร์ สายอึด ดันแคน โรบินสัน (Duncan Robinson) หรือเคลย์ ธอมป์สัน (Klay Thompson)
แต่สิ่งที่เขาแตกต่างคือความ “ไม่พยายาม” ในการเป็นตัวหลัก เขาไม่ได้เข้ามายึดพื้นที่ของใคร แต่เติมเต็มช่องว่างของทีม อย่างแม่นยำราวกับปริศนาชิ้นสุดท้าย ที่ถูกออกแบบมาเฉพาะทีมพีลิแกนส์
เสียงลือเรื่องการเทรด Trey Murphy III เริ่มหนาหูขึ้นในฤดูกาลนี้ โดยเฉพาะจากบทวิเคราะห์ของ Bleacher Report ที่มองว่าเขา เหมาะกับทีมลุ้นแชมป์ ที่ต้องการมือชู้ตสามแต้มเงียบๆ แต่แม่น เช่น Cleveland Cavaliers หรือ Sacramento Kings
จุดเด่นของเขาคือ สามารถเล่นเข้ากับระบบโดยไม่แย่งซีน และพร้อมชู้ตเมื่อจำเป็น การย้ายทีมอาจกลายเป็นหมากเด็ด แบบเดียวกับที่ Bruce Bowen ที่เคยเปลี่ยนแนวรับของ Spurs หรือ Otto Porter Jr. เติมความนิ่งให้ Warriors คว้าแชมป์ได้สำเร็จ (6 มิถุนายน 2025) [3]
ถ้ามองในมุมกลับกัน หากพีลิแกนส์ ต้องการรีเซตทีมใหม่ โดยไม่มี Ingram หรือ CJ แล้วให้ Zion เป็นแกนหลัก เมอร์ฟีอาจคือผู้เล่นคนเดียว ที่สามารถปรับจังหวะของทั้งทีม ให้กลับมาเย็นลงได้ ในระบบใหม่ที่ไม่เร่ง ไม่ตะโกน และไม่พังเร็ว
ท้ายที่สุดแล้ว ในโลกของบาสเกตบอล ที่ใครๆต่างต้องเร่งวิ่ง เพื่อให้มีตัวตนในเกม แต่เมอร์ฟีคือข้อยกเว้น เขาไม่แสดง ไม่ร้อนรน เขาแค่ทำหน้าที่เหมือนเครื่องจักรเยือกเย็น ที่แม่นยำราวกับไม่มีอารมณ์ร่วม แต่ผลลัพธ์กลับส่งผลต่อเกม มากกว่าใครหลายคน ที่ตะโกนเพื่อให้โลกรู้ว่า “ฉันอยู่ตรงนี้”
ความนิ่ง และความแม่นยำของเขา ในการชู้ตสามแต้ม แบบไม่ต้องสร้างจังหวะเอง ทำให้เมอร์ฟีกลายเป็นจุดเชื่อมเกมรุก ที่ไม่เบียดซีนใคร แต่ส่งผลต่อจังหวะทีมอย่างมีเสถียรภาพ
เพราะเมอร์ฟี คือจุดที่นิ่งที่สุดในสนาม ไม่สะเทือน ไม่แกว่ง และทำหน้าที่อย่างแม่นยำ จนทำให้ระบบรอบตัวไหลได้ โดยไม่ต้องตะโกนเรียกใคร
