มือปืน แห่งแดนสามแต้ม ผู้เปลี่ยนระยะไกลให้เป็นจุดแข็ง

มือปืน แห่งแดนสามแต้ม

มือปืน แห่งแดนสามแต้ม เดสมอนด์ เบน (Desmond Bane) คือหนึ่งในไม่กี่คน ที่ทำให้คำว่า “ระยะสามแต้ม” กลายเป็นพื้นที่ ที่คู่แข่งไม่สามารถปล่อยให้ว่างได้ แม้เสี้ยววินาที เบนไม่ได้มีรูปร่างสูงโดดเด่น แบบสตาร์ทั่วไป แต่เขาเปลี่ยนจุดธรรมดา ให้กลายเป็นอาวุธได้ ด้วยวินัย และการอ่านเกม

  • สถิติเด่นๆของเบน
  • บทบาทของเดสมอนด์ เบนในทีม Memphis Grizzlies
  • เคล็ดลับความแม่นของเบน

ระยะไกลที่คนกลัว แต่เดสมอนด์ เบนมองว่า “ใกล้”

มือปืน แห่งแดนสามแต้ม “เดสมอนด์ เบน” มักจะชู้ตลูกสามแต้ม ด้วยความมั่นใจ แบบที่ไม่ต้องแต่งจังหวะ หรือขอพื้นที่เยอะ ในฤดูกาล 2023–24 เขามีเปอร์เซ็นต์การชู้ตสามแต้ม เฉลี่ยกว่า 40% จากการชู้ตเฉลี่ย 7.2 ครั้งต่อเกม ซึ่งไม่ใช่แค่ความแม่นยำ แต่คือ “ปริมาณ” ที่สะท้อนว่าเขา แบกเกมบุกจริง [1]

เบนชู้ตได้จากทุกมุมของสนาม มุมข้าง, หัวกะโหลก, หรือระยะที่ลึกกว่ามาตรฐาน แบบไม่ลังเล และสิ่งที่สำคัญคือ เขาไม่ใช่มือชู้ตแบบรอบอลเท่านั้น แต่สามารถสร้างจังหวะชู้ตเองได้อีกด้วย

อธิบายเพิ่มเติมคำว่า “หัวกะโหลก”
ในบริบทของบาสเกตบอล หมายถึงบริเวณ top of the key หรือจุดด้านบนสุด ของโค้งสามแต้ม ซึ่งอยู่กึ่งกลางระหว่างฝั่งซ้าย และขวา ตรงเหนือเส้นวงกลมวงในของแป้น เป็นคำที่ใช้กัน ในหมู่คนเล่นบาสบ้านเรา โดยเปรียบจุดนี้เหมือน “หน้าผาก” ของวงโค้งสามแต้ม ที่เป็นเหมือนหัว

จุดเด่นของเดสมอนด์ เบนที่ไม่ได้อยู่แค่ในเปอร์เซ็นต์

มือปืน แห่งแดนสามแต้ม

สิ่งที่ทำให้เบน พิเศษกว่ามือชู้ตทั่วไปคือ เขาสามารถรักษาความแม่นยำได้ แม้จะไม่ได้อยู่ในจังหวะ ที่สะดวกที่สุด เขาไม่ได้รอจังหวะว่างเพื่อชู้ต แต่สามารถทำคะแนนได้ แม้กำลังวิ่งเร็ว หรืออยู่ระหว่างการเคลื่อนไหว อย่างต่อเนื่อง

  • Catch & Shoot – รับบอลแล้วปล่อยทันที ทำได้ลื่นไหล ไม่ทำให้ทีมเสียจังหวะ
  • Off-the-Dribble – ชู้ตระหว่างเลี้ยงลูก แม้เพลย์จะรวน หรือมีแรงกดดัน ก็ยังกล้าทำ
  • Pump fake & relocate – หลอกให้คู่แข่ง กระโดดก่อน แล้วขยับไปหาพื้นที่ใหม่ เพื่อชู้ตอย่างแม่นยำ (เป็นเทคนิคที่เขาใช้ประจำ จนกลายเป็นลายเซ็น)

ศึกความแม่นนอกวงโค้ง เบนกับเหล่ามือชู้ตร่วมยุค

  • Desmond Bane : ชู้ตแม่นถึง 40.8% จากการชู้ตเฉลี่ย 7.2 ครั้งต่อเกม เบนชู้ตได้ทั้งจากการรับบอลทันที (catch & shoot) และเลี้ยงเองก่อนชู้ต (off-the-dribble) ถือเป็นมือชู้ตที่หลากหลาย และพึ่งพาได้
  • Klay Thompson : ความแม่น 38.7% จาก 9.1 ครั้งต่อเกม เคลย์ ธอมป์สัน เป็นต้นแบบของการชู้ต แบบรับแล้วยิงทันที (catch & shoot) ที่มีประสิทธิภาพสูง
  • Buddy Hield : ชู้ตเฉลี่ย 8.4 ครั้งต่อเกม แม่น 38.1% เป็นผู้เล่นที่ชู้ตเร็ว ตัดสินใจไว เหมาะกับเกมรุก แบบไม่หยุดเคลื่อนไหว
  • Malik Beasley : แม่นที่สุดในกลุ่มที่ 41.3% แม้จะชู้ตน้อยกว่าคนอื่น (เฉลี่ย 5.1 ครั้งต่อเกม) จุดเด่นคือความแม่นยำ แต่ไม่ได้มีบทบาท ในการสร้างจังหวะด้วยตัวเองมากนัก

 

จากการเปรียบเทียบ เราจะเห็นว่าเบน อยู่ในกลุ่มมือชู้ตระดับท็อป แต่แตกต่างคือ เขาเล่นบทบาทใหญ่ในการเป็น ball-handler และ decision maker ด้วย ไม่ใช่แค่มือชู้ตที่รับบอลแล้วจบ

สถานะปัจจุบันของเบนใน Memphis Grizzlies

มือปืน แห่งแดนสามแต้ม

แม้จา โมแรนท์จะต้องพักแข่ง ไปหลายช่วงตลอดฤดูกาล จากอาการบาดเจ็บ ซึ่งส่งผลให้ทีมเ สียจังหวะหลักในการเล่น แต่เดสมอนด์ เบนยังคงยืนหยัด เป็นแกนกลางในเกมรุกของเมมฟิส กริซลีส์ (Memphis Grizzlies) ได้อย่างมั่นคง

เขาไม่ได้เป็นแค่มือชู้ตสามแต้ม แต่ยังพัฒนาเกมของตัวเอง ให้รอบด้านมากขึ้น ทั้งการส่งบอลที่แม่นยำ และการขับทะลุเข้าไปทำแต้มในเลย์อัพ หรือฟาสต์เบรก ในฤดูกาลปัจจุบัน (2024–25) เบนมียอดเฉลี่ยถึง 19.2 แต้ม, 5.3 แอสซิสต์ และ 6.1 รีบาวด์ ต่อเกม จาก 69 เกมที่ลงสนาม [2]

ซึ่งสะท้อนว่าเขา ไม่ได้เป็นเพียงมือสังหารนอกวง แต่เป็นผู้นำเกมบุก ที่ขับเคลื่อนทีมทั้งในจังหวะเซตเพลย์ และการเปลี่ยนเกมเร็ว เขากลายเป็นหนึ่งในเสาหลัก ที่ช่วยให้กริซลีส์ ยังต่อสู้ได้ แม้จะขาดผู้เล่นสำคัญ ไปเกือบครึ่งฤดูกาล

ความถึกคือกุญแจ เบื้องหลังความแม่นของเบน

เบนสูงเพียง 6 ฟุต 5 นิ้ว แต่มีน้ำหนักถึง 215 ปอนด์ และกล้ามเนื้อหนาแน่น สิ่งนี้ช่วยให้เขา สามารถตั้งหลักชู้ตได้ แม้มีแรงกระแทก และไม่โดนเบียดง่ายๆ แบบมือชู้ตตัวบางหลายคน

การที่เขา สร้างช่องชู้ตในพื้นที่แคบๆได้ ไม่ได้มาจากทักษะล้วนๆ แต่มาจากความแข็งแรงของร่างกาย ที่ถูกฝึกมาอย่างเฉพาะทาง และนี่จึงเป็นจุด ที่หลายคนมองข้าม เบนไม่ได้แค่แม่น แต่เขาแม่นในสภาพที่คนทั่วไป ไม่สามารถชู้ตได้ [3]

คำแนะนำ สำหรับคนที่อยากเป็นมือชู้ตแบบเบน

  • ฝึกชู้ตในสถานการณ์จริง – ไม่ใช่แค่ยืนว่างๆ แล้วชู้ต แต่ชู้ตหลังจากวิ่ง กระโดด หรือเคลื่อนไหว
  • สร้างความแข็งแรงช่วงบน – ให้สามารถปล่อยลูก จากท่าที่ไม่สมบูรณ์ได้
  • เข้าใจจังหวะเกม – ว่าควรชู้ตเมื่อไหร่ ไม่ใช่แค่ชู้ตได้
  • กล้าเสี่ยง ในจังหวะที่เพลย์ไม่สมบูรณ์ – แบบที่เบนทำได้บ่อยๆใน transition

บทส่งท้าย ผู้เปลี่ยนระยะสามแต้ม ให้เป็นระยะปลอดภัย

สรุปแล้ว มือปืน แห่งแดนสามแต้ม พื้นที่ระยะไกลที่เป็นเดิมพัน สำหรับคนอื่น แต่สำหรับเดสมอนด์ เบนมันคือเขตปลอดภัย และเขตควบคุม เขาไม่ได้ชู้ตเพื่อเสี่ยง แต่ชู้ตเพราะมันคือพื้นที่ ที่เขามั่นใจที่สุด และในโลกจริงของเกมบาส เขาคือหนึ่งในมือปืน ที่อันตรายที่สุดในลีกปัจจุบัน

เบนมีจุดเด่นเรื่องการชู้ตสามแต้มอย่างไร ?

เขาชู้ตแม่นถึง 40.8% จาก 7.2 ครั้งต่อเกม และสามารถชู้ตได้ ทั้งแบบรับบอล (catch & shoot) และแบบเลี้ยงเองก่อนชู้ต (off-the-dribble) ซึ่งทำให้เขาอันตรายในทุกจังหวะ

เบนสะท้อนแนวคิดใด เกี่ยวกับระยะสามแต้มในยุคใหม่ ?

เบนทำให้ระยะที่เคยถูกมองว่า “ไกล และเสี่ยง” กลายเป็นพื้นที่ ที่สามารถควบคุมได้ ไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิค แต่คือความมั่นใจ และการเตรียมพร้อมร่างกาย มารองรับจังหวะเหล่านั้น

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง