แหล่งรวมเกมส์ชั้นนำ สล็อต คาสิโน บาคาร่า พร้อมระบบล้ำทันสมัย รวดเร็วทันใจ

พาวเวอร์ฟอร์เวิร์ด ปาสกาล เซียแคม เสือที่หลุดมาจากป่า

พาวเวอร์ฟอร์เวิร์ด ปาสกาล เซียแคม

พาวเวอร์ฟอร์เวิร์ด ปาสกาล เซียแคม (Pascal Siakam) จากเด็กโนเนมสู่เสาหลัก NBA เขาไม่ได้ถือกำเนิด ในแวดวงบาสระดับเอลิทตั้งแต่แรก เป็นเด็กจากประเทศแคเมอรูน ที่เคยไม่รู้แม้กระทั่ง กติกาของบาสเกตบอล ก่อนจะกลายมาเป็น หนึ่งในพาวเวอร์ฟอร์เวิร์ด ที่มีอิทธิพลต่อเกมมากที่สุดในยุคนี้

  • เส้นทางชีวิตนักบาสของปาสกาล เซียแคมตั้งแต่แรกเริ่ม
  • ผลลัพธ์ของความพยายามในการพัฒนาตัวเองของเซียแคม
  • การย้ายทีมในช่วงกลางฤดูกาลของเซียแคม

เซียแคมไม่ใช่ปาฏิหาริย์ แต่คือผลลัพธ์ของการทุ่มเท

เซียแคมถูกดราฟต์ในอันดับที่ 27 ในปี 2016 โดยโตรอนโต แรปเตอร์ส (Toronto Raptors) ตอนนั้นเขาไม่ได้ถูกคาดหวัง ว่าจะเป็นตัวหลักด้วยซ้ำ หลายสื่อในเวลานั้นมองว่าเขาเป็นเพียง “โปรเจกต์ระยะยาว” มากกว่าผู้เล่น NBA พร้อมใช้

แต่ภายในเวลาไม่ถึง 3 ปี เซียแคมพลิกสถานะ จากตัวประกอบโนเนม สู่หนึ่งในแกนหลัก ของทีมชุดแชมป์ปี 2019 พร้อมคว้ารางวัล Most Improved Player มาไว้ในมือ นี่ไม่ใช่เพราะโชคช่วย แต่ด้วยความมุ่งมั่นแบบนักรบ [1]

เขาหมกมุ่นทุ่มเทเวลา ศึกษาทุกการเคลื่อนไหว ของยอดฝีมืออย่าง คาวาย ลีโอนาร์ด (Kawhi Leonard) และ เลอบรอน เจมส์ (LeBron James) แล้วฝึกซ้ำๆ จนกลายเป็นธรรมชาติของตัวเอง

หลักฐานจากโค้ชผู้ใกล้ชิดเซียแคม

พาวเวอร์ฟอร์เวิร์ด ปาสกาล เซียแคม

“เขาคือนักบาสที่พัฒนาเร็วที่สุด เท่าที่ผมเคยร่วมงานด้วย” – คำพูดยืนยันจากนิค นูร์ส (Nick Nurse) อดีตโค้ชแรปเตอร์ส

คำพูดของนูร์สคือหลักฐานชั้นดี ในช่วงปีแรก เซียแคมเป็นเพียงผู้เล่น ที่อยู่ในแผนหมุนเวียนของทีม G-League แต่หลังจากได้รับบทบาทเล็กๆใน NBA เขากลับใช้เวลาในทุกช่วง ซ้อมอย่างเต็มที่ พัฒนาทุกมิติของเกม ตั้งแต่ footwork, midrange, ไปจนถึงการจ่ายบอล และการอ่านเกม

เขาไม่เคยหยุดเรียนรู้ แม้จะหลังคว้าแชมป์แล้วก็ตาม นูร์สเคยเล่าว่า เซียแคมเป็นคนที่มาถึงสนามเร็วที่สุด และออกจากสนามช้าที่สุด แทบทุกวัน ความเร็วในการพัฒนาเกิดจากนิสัย ที่ไม่ยอมให้ตัวเองหยุดนิ่ง และแรงผลักดัน ที่เกิดจากความหิวกระหาย ในการพิสูจน์ตัวเอง แบบที่โค้ชแทบไม่ต้องกระตุ้น [2]

ตัวเลขไม่โกหก เซียแคมคือเครื่องจักรอเนกประสงค์ในสนาม

เมื่อเจาะลึกในเชิงสถิติ เซียแคมคือผู้เล่น ที่สามารถสร้างผลกระทบต่อเกม ได้แทบทุกมิติ

  • เฉลี่ย 21.7 แต้ม / 7.1 รีบาวด์ / 4.3 แอสซิสต์ ต่อเกม (ฤดูกาล 2024-25 รวมกับแรปเตอร์ส และเพเซอร์ส) ถือว่าอยู่ในระดับ ของพาวเวอร์ฟอร์เวิร์ดตัวหลักในลีก ที่สามารถแบกภาระ ทั้งการทำแต้ม และการเชื่อมเกม
  • Usage Rate สูงถึง 26.4% แสดงให้เห็นว่าทีม พึ่งพาเขามากแค่ไหน ไม่ใช่แค่ตัวประกอบ แต่เป็นจุดเริ่ม ของการรุกหลายครั้ง
  • Efficient Field Goal % อยู่ในระดับ 53.2% ซึ่งสูงมาก สำหรับผู้เล่นที่ไม่ได้ใช้จังหวะ จากเพลย์เมกเกอร์ เขาต้องสร้างช็อตเองเป็นหลัก ทั้งในโพสต์ ระยะกลาง และการไดรฟ์เข้าหาห่วง

 

เขาไม่ได้เป็นเพียง คนที่ทำแต้มได้ แต่สามารถพาบอล ขึ้นมาตั้งแต่แดนหลัง ควบคุมจังหวะในเกมครึ่งสนาม และยังป้องกันได้หลายตำแหน่ง ไม่ว่าจะสลับไปสู้กับสมอลฟอร์เวิร์ด หรือเซนเตอร์ นี่คือสิ่งที่ทำให้เขา เป็นฟันเฟืองอเนกประสงค์ตัวจริงในสนาม

บทบาทที่มากขึ้น เมื่อเซียแคมย้ายมาเพเซอร์ส

พาวเวอร์ฟอร์เวิร์ด ปาสกาล เซียแคม

ดีลเทรดกลางฤดูกาล ที่ส่งเซียแคมจากแรปเตอร์ส มายังอินเดียนา เพเซอร์ส (Indiana Pacers) ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ของทั้งแฟรนไชส์ และตัวเขาเอง ภายใต้ระบบของริก คาร์ไลล์ (Rick Carlisle) เซียแคมถูกใช้ในบทบาท ที่เปิดกว้างกว่าเดิม เขาไม่ได้แค่ทำแต้มจากไฮโพสต์ หรือโลว์โพสต์อีกต่อไป [3]

แต่ถูกใช้เป็น ball handler ที่ร่วมสร้างเกมกับไทรีส ฮาลิเบอร์ตัน (Tyrese Haliburton) อย่างอิสระมากขึ้น และผลลัพธ์ที่ตามมาคือ เพเซอร์สกลายเป็นทีมที่มีค่า offensive rating สูงที่สุดในลีก ในช่วง 30 เกมสุดท้ายของฤดูกาล

ซึ่งหมายความว่า เกมบุกของพวกเขา มีประสิทธิภาพสูงสุด ทำแต้มได้มากที่สุด ต่อการครองบอลแต่ละครั้ง และปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้เกิดสิ่งนี้คือ การมีเซียแคมเป็นตัวเชื่อมเกม ที่ลงล็อกกับระบบของทีม แบบไร้รอยต่อ

เปรียบเทียบเซียแคม กับพาวเวอร์ฟอร์เวิร์ดยุคใหม่

  • Pascal Siakam คือคนที่เปรียบได้กับ “ฟันเฟืองหลักของเครื่องจักร” เขาสร้างเกมเองได้ คุมจังหวะ และเชื่อมการเล่น ระหว่างเพื่อนร่วมทีมได้อย่างลื่นไหล มีค่าเฉลี่ย 21.7 แต้ม / 4.3 แอสซิสต์ / Usage Rate 26.4%
  • Julius Randle เป็นเหมือน “เสาหลักในป้อมปราการ” ที่ใช้พละกำลัง และสกิลในโพสต์ เป็นอาวุธหลัก ทำแต้มได้สูงที่ 22.6 แต้ม / 5.0 แอสซิสต์ / Usage Rate สูงถึง 28.0%
  • Aaron Gordon คือตัวเสริมจังหวะเกม ที่ทำหน้าที่เหมือนจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญ ข้างนิโคลา โยคิช (Nikola Jokic) ไม่ได้เน้นการครองบอล แต่มีประโยชน์ ในการปิดเกม ทำแต้มเฉลี่ย 13.9 / แอสซิสต์ 3.1 / Usage Rate ต่ำเพียง 18.3%

 

เซียแคมอยู่ในกลุ่มพาวเวอร์ฟอร์เวิร์ด ที่มีความสามารถรอบด้าน (versatile forward) ไม่ใช่แค่สายยิง ไม่ใช่แค่สายเกมรับ แต่คือคนที่ “เชื่อมทุกจังหวะ” ให้ทั้งทีมขยับไปด้วยกัน สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดา และไม่ได้มีในทุกทีม

เซียแคมกับบทเรียนการอยู่ใต้เงา เพื่อเรียนรู้ที่จะคำราม

สิ่งที่ทำให้เสือจากเงาอย่างเซียแคม แตกต่างจากผู้เล่นทั่วไป คือความสามารถ ในการอยู่ใต้เงาคนอื่น โดยไม่หลงลืมเป้าหมายของตัวเอง

ตอนอยู่กับคาวาย ลีโอนาร์ดเขาเป็นเบอร์สอง อย่างเต็มตัว ตอนคาวายไป เขาถูกผลักดันให้เป็นเบอร์หนึ่ง โดยไม่มีตัวเลือก เขาทำได้ไม่ดีนักในช่วงแรก แต่เขาไม่เคยโทษสถานการณ์ แต่กลับใช้มันเป็นห้องเรียนชีวิต

เสือแบบเซียแคม ไม่ได้คำรามตั้งแต่แรก แต่เรียนรู้จากการอยู่เงียบๆ จนเขารู้ว่าตอนไหนควรคำราม และตอนไหน ควรปล่อยให้สนามตอบแทนเขา

บทสรุป “เซียแคม” พาวเวอร์ฟอร์เวิร์ดที่ไม่ต้องการเวที

ท้ายที่สุดแล้ว เซียแคมอาจไม่ใช่ซูเปอร์สตาร์ ที่ถูกออกแบบมาให้เฉิดฉายตั้งแต่ต้น แต่เมื่อคุณมองย้อนกลับไป คุณจะรู้ว่าเขา คือเหตุผลที่ทีมรอด ในวันที่เกมมันไม่ง่าย เขาแบกพื้นสนามไว้ด้วยหัวใจที่ไม่เคยยอมแพ้ เซียแคมไม่เคยต้องประกาศ ว่าเขายิ่งใหญ่ เพราะสิ่งที่เขาทำในทุกเกม ได้พูดแทนเขาเสมอ

เซียแคมเก่งที่สุดเรื่องอะไร ?

เขาไม่ใช่คนที่ทำอะไรโดดเด่นที่สุด เพียงด้านเดียว แต่เก่งในทุกอย่าง พอที่จะเชื่อมทุกจังหวะของทีมให้ลื่นไหล เซียแคมคือคำจำกัดความของคำว่า ฟันเฟืองอเนกประสงค์ ที่ทีมไหนก็อยากมี

เพราะอะไรเซียแคมถึงถูกเรียกว่า เสือจากเงา ?

เพราะเขาไม่เคยเริ่มต้นด้วยแสงไฟ ไม่ได้ถูกผลักดันจากชื่อเสียง แต่ค่อยๆพัฒนาในความเงียบ ผ่านการทำงานหนัก จนวันที่เขาคำราม เสียงนั้นกลับดังกว่าใครทั้งหมด

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง