พอยต์การ์ด ไทอัส โจนส์ ความเสถียรที่โค้ชหลงรัก
- Harry P
- 31 views
พอยต์การ์ด ไทอัส โจนส์ (Tyus Jones) อาจไม่ใช่ชื่อแรก ที่แฟนบาสจะคิดถึง เมื่อพูดถึงตำแหน่งพอยต์การ์ด แต่เขาคือหนึ่งในไม่กี่คน ที่โค้ชหลายคนไว้วางใจให้เริ่มเกม และจบเกมอย่างมั่นคง บทบาทของเขา ไม่ได้มาเพราะความหวือหวา แต่เพราะความเข้าใจเกม และการตัดสินใจที่แทบไม่พลาด
ในโลกของบาสเกตบอล ที่หมุนเร็วขึ้นทุกปี โดยเฉพาะในช่วงทศวรรษหลัง ที่เน้นเกมเร็ว และการชู้ตสามแต้มกลายเป็นหัวใจสำคัญ พอยต์การ์ดที่สามารถเร่งจังหวะ ทะลวงแนวรับ และชู้ตสามแต้มอย่างรวดเร็ว กลายเป็นภาพจำของบทบาทนี้ ตั้งแต่ยุคของสตีเฟน เคอร์รี และเดเมียน ลิลลาร์ด
แต่ในมุมกลับกัน ก็มีผู้เล่นบางคน ที่ไม่ได้โดดเด่นด้วยสปีด หรือพลังระเบิด หากแต่ควบคุมเกม ด้วยสิ่งที่หาได้ยากขึ้นทุกวัน ความเสถียร, ความแม่นยำ และการตัดสินใจที่แทบไม่พลาดเลย ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่โดดเด่น มาตั้งแต่สมัยที่โจนส์ เล่นให้กับ Duke ในปี 2014-2015
และพาโรงเรียนคว้าแชมป์ NCAA ก่อนเข้าสู่ NBA ในปีถัดมา เขาอาจไม่ใช่ชื่อที่อยู่บนป้าย All-Star แต่เขาคือชื่อที่อยู่ในสมองของโค้ชทุกคน ที่ต้องการเกมที่ไม่ผิดพลาด การควบคุมเพลย์ที่ปลอดภัย และจังหวะที่คุมได้ แม้ในช่วงเวลาตึงเครียดที่สุด
ไทอัส โจนส์ไม่ใช่ผู้เล่น ที่จะสร้างไฮไลต์บน SportsCenter แต่เขาคือผู้เล่น ที่ทำให้เกมไหลลื่น อย่างที่โค้ชทุกคนชอบ ด้วยการจัดการบอลที่แม่นยำ และการลดข้อผิดพลาด ให้เหลือน้อยที่สุด
ในฤดูกาล 2024-25 กับทีม Orlando Magic เขามีคะแนนเฉลี่ย 5.3 แอสซิสต์ต่อเกม ซึ่งจัดว่าอยู่ในระดับดี แม้สถิติการเสียบอลต่อเกมของเขา ไม่ต่ำเท่าที่หลายคนเข้าใจ แต่ก็ยังอยู่ในระดับ ที่ทำให้เขาเป็นหนึ่งในพอยต์การ์ด ที่ปลอดภัยที่สุดในลีก (14 กันยายน 2025) [1]
เมื่อทีมเล่นเกมแบบ half-court โจนส์แสดงให้เห็น ถึงความเข้าใจเกมที่ลึก เขารู้ว่าควรส่งบอลให้ใครในเวลาไหน และช่วยสร้างช่องว่าง ให้เพื่อนร่วมทีมทำแต้มได้สะดวกขึ้น แม้เขาจะไม่ใช่คนที่ชู้ตบ่อย แต่บทบาทของเขา กลับสำคัญต่อการไหลลื่นของเกมโดยรวม
แน่นอนว่าไทอัส โจนส์ไม่ใช่ผู้เล่น ที่ครบเครื่องทุกด้าน จุดที่หลายคนพูดถึงบ่อยคือ รูปร่างที่เล็ก สูงเพียง 6 ฟุต 1 นิ้ว และศักยภาพทางร่างกาย ที่ไม่โดดเด่นเท่าคู่แข่งบางคน เขาไม่มีความแข็งแรง ที่จะยืนชนกับการ์ด หรือฟอร์เวิร์ดตัวใหญ่ๆ ได้แบบไม่เสียเปรียบ
เขามักตกเป็นเป้าของฝ่ายตรงข้าม ในการเจาะเกมรับ หรือถูกบังคับให้สลับตัว กับผู้เล่นที่ athletic กว่า จนทำให้ทีมเสียเปรียบ ในแผนการป้องกันโดยรวม จุดนี้ทำให้โค้ชบางคน ต้องออกแบบการป้องกัน ให้มีผู้เล่นช่วยซ้อนอยู่เสมอ เมื่อเขาอยู่ในสนาม ซึ่งอาจจำกัดอิสระของทีมในแง่แท็กติก
อีกหนึ่งเสียงวิจารณ์ ที่ดังขึ้นในช่วงหลังคือ เรื่องความต่อเนื่องของบทบาทในทีมระดับลุ้นแชมป์ แม้เขาจะออกสตาร์ทได้ดีใน Phoenix Suns แต่เมื่อทีมเริ่มปรับแผนให้เน้นเกมเร็ว และการเปลี่ยนตัวบ่อยขึ้น บทบาทของเขาก็ลดลง และมักไม่ได้อยู่ในสนาม ในช่วงเวลาสำคัญของเกม (1 พฤษภาคม 2025) [2]
โจนส์เริ่มต้นฤดูกาล 2024-25 กับฟีนิกซ์ ซันส์ (Phoenix Suns) และเซ็นสัญญากับออร์แลนโด แมจิก (Orlando Magic) หลังจบฤดูกาล ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2025 ซึ่งเปิดโอกาสให้เขา ได้มีบทบาทมากขึ้น ในทีมที่กำลังสร้างใหม่ เขาเข้ามาเติมเต็มจุดที่แมจิกขาดมาโดยตลอด (6 กรกฎาคม 2025) [3]
หลังจากย้ายมาไทอัส โจนส์ได้รับบทบาท ที่ใหญ่ขึ้นทันที ได้เป็นตัวจริงบ่อยครั้ง และมีอิสระในการออกแบบเกมรุก รวมถึงตัดสินใจเองในหลายเพลย์ ซึ่งแตกต่างจากช่วงที่เล่นกับซันส์ ที่เขาต้องเล่นร่วมกับผู้เล่นดาวดังหลายคน และมีบทบาทรองลงมาอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม แม้ได้บทบาทเพิ่มขึ้น แต่สไตล์ของเขายังเหมือนเดิม คือเน้นควบคุมจังหวะ ลดความผิดพลาด และไม่เร่งเกม จุดนี้กลายเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง สำหรับทีมแมจิก ที่เต็มไปด้วยผู้เล่นอายุน้อย ที่ยังอยู่ในช่วงพัฒนา และเป็นเวทีที่ปลอดภัย ให้นักบาสรุ่นใหม่ได้เรียนรู้ ผ่านสถานการณ์จริงในเกม
เมื่อเทียบกับพอยต์การ์ดยุคใหม่อย่าง ไทรีส ฮาลิเบอร์ตัน, ดีอารอน ฟ็อกซ์ หรือแม้แต่ ดาบคู่ ในร่างเดียว อย่างจาเลน บรันสัน สิ่งที่ไทอัส โจนส์ขาดคือ ความสามารถในการเปลี่ยนเกมอย่างฉับพลัน ไม่ว่าจะเป็นการดริฟต์เข้าไปใต้แป้น หรือการเร่งสปีด ในฟาสต์เบรก
แต่ในขณะเดียวกัน เขาเป็นหนึ่งในไม่กี่คน ที่สามารถควบคุมเกม ในช่วงครึ่งสนามได้อย่างมั่นคง และทำให้เพื่อนร่วมทีมเล่นง่ายขึ้น ซึ่งเหมาะกับทีม ที่มีผู้เล่นดาวเด่นอยู่แล้ว และต้องการแค่คนที่ไม่ทำพลาด และรู้บทบาทของตัวเอง
หนึ่งในสิ่งที่ไม่ค่อยถูกพูดถึง เกี่ยวกับโจนส์ คือการจัดการกับ “บทบาทที่ไม่แน่นอน” ในบางทีม เขาได้เป็นตัวจริง ในบางทีมเป็นแค่ตัวสำรอง บางเกมเล่น 30 นาที บางเกมไม่ถึง 10 นาที แต่นั่นไม่เคยสะท้อนออกมา ผ่านพฤติกรรม หรือฟอร์มในสนามของเขา ซึ่งแสดงถึงจิตใจของมืออาชีพ ที่รู้หน้าที่ของตัวเอง
คำแนะนำสำหรับโค้ช และแฟนบาส
ท้ายที่สุดแล้ว “ไทอัส โจนส์” อาจไม่ใช่ชื่อที่แฟนบาสทั่วโลกร้องเรียก แต่เขาคือชื่อที่โค้ชทุกคนอยากมีในทีม เขาคือจุดนิ่งในเกมที่หมุนเร็ว คือมือวางแผนในสนาม ที่เต็มไปด้วยความสับสน และคือคำเตือนว่า “บางครั้ง ความเงียบ ก็ทรงพลังยิ่งกว่าคำพูด” และนั่นคือสิ่งที่ยากจะหาใน NBA ยุคปัจจุบัน
เขาเล่นด้วยความนิ่ง มีการตัดสินใจที่แม่นยำ และมีค่าเทิร์นโอเวอร์ต่ำมาก จนกลายเป็นหนึ่งในพอยต์การ์ด ที่จัดการเกมได้ดีที่สุดคนหนึ่งของลีก การควบคุมจังหวะเกมของเขา ช่วยลดโอกาสที่ทีม จะเสียบอลในจังหวะสำคัญ
เหมาะกับทีม ที่มีดาวทำแต้มอยู่แล้ว และต้องการพอยต์การ์ด ที่ช่วยควบคุมเกม ลดความผิดพลาด และไม่แย่งบอลจากสตาร์หลักของทีม เขาเป็นตัวเชื่อมที่ทำให้ทีม สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น
