
พอยต์การ์ด สายสร้างสรรค์ ผู้มอบจังหวะใหม่ให้บูลส์
- Harry P
- 35 views
พอยต์การ์ด สายสร้างสรรค์ จอช กิดดีย์ (Josh Giddey) ท่ามกลางเสียงกดดันจากการเทรดคารุโซ ทำให้สายตาทุกคู่ จับจ้องมาที่กิดดีย์ เขาไม่ได้ถูกคาดหวังให้เป็นแค่สกอร์ แต่เป็นตัวขับเคลื่อนเพลย์ที่ทีมขาดไป และทุกการจับบอล คือการทดสอบว่าเขา จะเปลี่ยนภาพลักษณ์ของบูลส์ ได้จริงหรือไม่
จอช เจมส์ กิดดีย์ (Joshua James Giddey) หรือที่แฟนบาส รู้จักกันในชื่อจอช กิดดีย์คือหนึ่งในผู้เล่น ที่สร้างเสียงฮือฮา มาตั้งแต่วันแรกที่เข้าสู่ NBA เขาเกิดเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2002 ที่เมลเบิร์น ออสเตรเลีย และเป็นผลผลิตคนแรกจาก NBA Global Academy ที่ก้าวสู่ดราฟต์รอบแรก
ก่อนจะถูกเลือกโดย โอกลาโฮมา ซิตี้ ธันเดอร์ ในปี 2021 ด้วยดราฟต์อันดับที่ 6 จากนั้นก็ใช้เวลาเพียงไม่กี่ปี ในการสร้างชื่อ ว่าเป็นการ์ดที่มีสายตา และวิธีการจ่ายบอลที่แตกต่างออกไป และการตัดสินใจครั้งสำคัญ เกิดขึ้นเมื่อชิคาโก บูลส์ตัดสินใจส่ง อเล็กซ์ คารุโซ ฟันเฟืองเกมรับตัวเก่ง ไปให้ธันเดอร์
เพื่อแลกกิดดีย์ มาสวมเสื้อบูลส์ ความเคลื่อนไหวนี้ ถูกทั้งสื่อ และแฟนบาสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เพราะคารุโซ เป็นหัวใจเกมรับ มือปิด แดนหลัง ชั้นยอด แต่บูลส์เลือกอนาคตใหม่กับ “พอยต์การ์ดสายสร้างสรรค์” ที่ยังต้องพิสูจน์ตัวเอง (20 สิงหาคม 2025) [1]
ในฤดูกาลล่าสุด 2024-25 ที่อยู่กับบูลส์ กิดดีย์ทำผลงานเฉลี่ย 14.1 แต้ม 7.5 รีบาวด์ และ 6.1 แอสซิสต์ต่อเกม ตัวเลขเหล่านี้ สะท้อนว่าเขา ไม่ใช่การ์ดที่เน้นทำแต้ม แต่คือผู้เล่น ที่คอยทำให้ทีมเคลื่อนที่ได้ต่อเนื่อง
สิ่งที่แฟนบาสเห็นชัดๆ คือการรีบาวด์ ที่โดดเด่นเกินตำแหน่ง และการมองหาช่องว่าง ให้เพื่อนร่วมทีมได้ชู้ต และเกมที่พบ Miami Heat คือหนึ่งในหลักฐานสำคัญ
กิดดีย์จบด้วย 25 แต้ม 10 รีบาวด์ และ 4 แอสซิสต์ แม้ทีมจะแพ้ แต่สถิติแบบนี้บ่งบอกได้ชัดว่าเขา มีศักยภาพที่จะเป็นแกนหลักได้จริง เพียงแต่ความต่อเนื่อง และประสิทธิภาพ ในการชู้ตไกล ยังเป็นจุดที่ถูกตั้งคำถาม (17 เมษายน 2025) [2]
กิดดีย์มีความสูง 6 ฟุต 8 นิ้ว (203 ซม.) และนี่คือจุดที่ทำให้เขา แตกต่างจากการ์ดทั่วไป ความสูงผสมกับการอ่านเกม ทำให้เขาเล่นได้หลายตำแหน่ง ตั้งแต่ Point Guard, Shooting Guard ไปจนถึง Small Forward
ในหลายจังหวะ เขาทำให้เกมบุกของชิคาโก บูลส์มีความลื่นไหลขึ้น อย่างเห็นได้ชัด และเป็นมิติที่ทีมขาดไปนาน ตั้งแต่ลอนโซ่ บอล (Lonzo Ball) มีอาการบาดเจ็บเรื้อรัง
สิ่งที่แฟนบาสหลายคนมองข้ามคือ บทบาท Glue Guy ในร่างของพอยต์การ์ด ปกติแล้ว Glue Guy มักเป็นฟอร์เวิร์ด ที่ทำงานสกปรก แต่กิดดีย์ทำให้เห็นว่า การ์ดก็สามารถเป็นตัวเชื่อมทีมได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการสกรีนเพื่อเปิดพื้นที่ หรือแม้แต่การรีบาวด์ ที่ทำให้เพื่อนเริ่มต้นฟาสต์เบรกได้
นอกเหนือจากในสนาม กิดดีย์เคยเจอกับแรงกดดัน ด้านภาพลักษณ์ส่วนตัว และข่าวลือที่ทำให้ชื่อเสียงของเขา ไม่ได้ราบรื่นตลอด การใช้โซเชียลมีเดียอย่างเข้มข้น และการถูกจับตามองตั้งแต่อายุยังน้อย ทำให้เขากลายเป็นประเด็นถกเถียงในสื่อ การจัดการกับชื่อเสียงนอกสนาม ก็เป็นอีกบททดสอบสำคัญ
อีกเรื่องคือสถานะ Restricted Free Agent (RFA) ที่กำลังจะมาถึง บูลส์ต้องตัดสินใจว่าจะลงทุนระยะยาวหรือไม่ เพราะการเทรดคารุโซออกไป ย่อมหมายถึงการฝากอนาคต ไว้กับกิดดีย์แบบเต็มตัว
ในเดือนสิงหาคม 2025 มีรายงานจากหลายสำนักข่าวระบุว่า ข้อเสนอปัจจุบันของบูลส์ อยู่ที่ประมาณ 20 ล้านเหรียญต่อปีในสัญญา 4 ปี แต่ฝั่งกิดดีย์ต้องการราว 30 ล้านเหรียญต่อปี ทำให้เกิดช่องว่างราว 10 ล้านต่อปีในการเจรจา (26 สิงหาคม 2025) [3]
นอกจากนี้บูลส์ยังแสดงท่าทีแข็งแกร่ง ในการปฏิเสธข้อเสนอ sign-and-trade จากทีมอื่น และมีสิทธิ์เลือกใช้ qualifying offer มูลค่า 11.1 ล้านเหรียญ หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงระยะยาวได้ สื่อบางแห่งเชื่อว่า จุดเปลี่ยนจะเกิดขึ้นหลังวันแรงงาน
เมื่อผู้เล่นกลับมาซ้อมที่ Advocate Center ซึ่งเป็นช่วงที่เหมาะ ต่อการเจรจาสัญญาอย่างจริงจัง และในเรื่องข่าวลือการเชื่อมโยงกับทีม Golden State Warriors ผ่าน sign-and-trade แม้จะถูกพูดถึง แต่ติดข้อจำกัดกฎการเงิน และยังไม่มีการเดินหน้าเป็นทางการ
ข้อควรระวัง: สำหรับนักบาสสมัครเล่น ไม่ควรเลียนแบบทุกแง่มุม เพราะแม้ว่ากิดดีย์ จะมีจุดเด่น แต่การชู้ตที่ไม่เสถียร และการครองบอลนานเกินไป คือสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง
ท้ายที่สุด พอยต์การ์ด สายสร้างสรรค์ “จอช กิดดีย์” เส้นทางต่อจากนี้ของเขา จะขึ้นอยู่กับการพัฒนาความแม่น และความต่อเนื่อง หากเขาสามารถยกระดับจุดอ่อนเหล่านี้ได้ การแลกคารุโซ อาจกลายเป็นก้าวสำคัญของบูลส์ ในการสร้างทีม ที่มีโครงสร้างเกมรุกที่สมดุล และยืดหยุ่นกว่าเดิม
เพราะบูลส์ต้องการเพลย์เมกเกอร์ ที่สร้างสรรค์เกมรุกได้ แม้จะเสียหัวใจเกมรับอย่างคารุโซ แต่หวังว่ากิดดีย์ จะช่วยให้ทีมพัฒนาทิศทางใหม่ ในเกมบุก และเพิ่มโครงสร้างเกมรุก ที่ยืดหยุ่นกว่าที่เคยมี
การขยับหาตำแหน่งใหม่หลังส่งบอล การอ่านเกมล่วงหน้า และการรีบาวด์ จากตำแหน่งการ์ด ซึ่งเป็นทักษะ ที่สร้างความแตกต่าง แม้ไม่ใช่ผู้ทำแต้มหลัก