
เว็บเถื่อนลั่น ถาม พระเล่นการพนันได้ไหม หากยังนุ่งจีวร
- Wynn
- 238 views
พระเล่นการพนันได้ไหม 1 ในคำถามเปิดฟ้า ที่ร้อนระอุ และกำลังเดือดมาก ณ ตอนนี้ บนแพลตฟอร์มอากู๋ จากในยุคที่ทุกอย่าง ถูกแปรเปลี่ยนเป็นคอนเทนต์ แม้แต่ความศักดิ์สิทธิ์ ก็ไม่พ้น ถูกลากเข้าวงสนทนา ใต้โพสต์ท่วงทำนองบทใหม่ เกี่ยวกับการพนันทุกประเภท โดยที่คำถามนี้ ไม่ใช่แค่สะกิดศีลธรรม แต่เหมือนเอาไม้เขี่ยรังผึ้ง แห่งความศรัทธา แล้วนั่งดูว่า จะมีผึ้งตัวไหน หรือใครบ้าง ที่ต่อยกันเอง
พระเล่นการพนันได้ไหม ฮอตเสิร์ชใหม่มาแรง ที่เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา แบบสดๆ ร้อนๆ ได้มีพระครูท่านหนึ่ง ยศเป็นถึงเจ้าอาวาส ระดับหัวเมืองดัง ของภาคกลาง ในจังหวัดนครปฐม ได้เข้ามอบตัว ก่อนหมายจับถึง เพียง 2 ชั่วโมง พร้อมกับถูกรวบ ในหลายข้อหา ซึ่งที่โดดเด่นเลยก็คือ งุบงิบเงินวัด จากการทำบุญศรัทธาของญาติโยม ทั่วทุกสารทิศ เพื่อไปเล่นไพ่ออนไลน์ ในงบที่มีมูลค่าสูง ถึงหลาย 100 ล้าน
จนเกิดเป็นข่าวใหญ่ข่าวโต ที่มีเสียงแตกเป็น 2 ฝั่ง ทำให้มีผู้คนมากมาย ต่างพากันตั้งคำถาม และข้อสงสัยไปต่างๆ นานา เกี่ยวกับประเด็นร้อนฉ่า ที่เกิดขึ้นมาไม่กี่วันนี้ ว่าสมควรหรือไม่ และเงินมหาศาลเหล่านี้ มาจากไหนมากมาย แล้วความผิดนี้ ใครบ้างที่ต้องรับผิดชอบ [1]
สำหรับคำถามเกี่ยวกับ พระเล่นการพนันได้ไหม แน่นอนว่า ต้องไม่ได้ และไม่ควรเด็ดขาด เพราะศีลของพระ ไม่ใช่ศีล 5 ธรรมดา แบบฆราวาส แต่มันอัปเกรดเป็นแบบ Full Option ที่เรียกว่า ศีล 227 ข้อ ซึ่งการเล่นการพนันโดยตรง หรือโดยทางอ้อมนั้น ถึงจะไม่ถูกระบุเป็นข้อห้ามแบบเป๊ะๆ แต่เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งเฮ หรือเข้าใจผิด คิดว่าเล่นได้
เพียงแต่มันแค่ถูกซ่อนอยู่ ในหัวข้อใหญ่ เรื่องอบายมุข อมทรัพย์อมเงิน ที่ผิดร้ายแรงที่สุด ในบรรดาหัวข้อศีลทั้งหมด นั่นก็คือ ปาราชิก 4 ข้อ ในบาทที่ 2 หรือบาทแห่งความเสื่อม ที่ต้องเลี่ยงให้ไว เพราะไม่งั้นจะกลายเป็นอาบัติทันที ซึ่งคำว่าอาบัตินี้ แน่นอนว่า โทษหนักทั้ง 3 ระดับนั้น ไม่มีข้อยกเว้นใดๆ สำหรับพระเถื่อน ที่รูปโฉมภายนอก น่ายกย่องบูชา แต่ภายในเน่าเฟะ จนไม่เหลือคราบพระธรรม [2]
จากกรณีศึกษา ในคำถาม พระเล่นการพนันได้ไหม จากข่าวพระเล่นบาคาร่า ล่าสุด ที่ทำเอาวงการสีเหลืองสายกลาง ใต้ร่มจีวรสะเทือนไปตามๆ กัน และจากการสืบค้นประวัติในอดีต ถึงเรื่องราวดังกล่าว ในกรณีเดียวกัน เกี่ยวกับความจริงของคำกล่าวอ้าง ที่ว่าพระเล่นการพนันนั้น คือเรื่องจริง หรือแค่เรื่องเข้าใจผิด ตามสรุปเบื้องต้น ที่น่าสนใจ มีดังนี้
ที่มา: พระนักเทศน์ดัง แจงถูกกล่าวหาเล่นบาคาร่า ติดหนี้จนมีคนมาทวงถึงวัด [3]
ผู้คนเล่นพนัน 100 ทั้ง 100 หวังรวย แต่พระเล่นพนันนั้น หวังเอาอะไร เพราะในเมื่อเงินจำนวนมหาศาล ที่ได้จากผู้คนตามศรัทธา ที่ไม่ว่าจะเป็นเงินบริจาค เงินค่าที่ เงินออกงาน หรือเงินค่าอื่นๆ ก็ตาม ทั้งพระทั้งวัด ล้วนแล้วแต่ ย่อมมั่งคั่ง และร่ำรวยกว่าคนธรรมดามาก แถมยังไม่เสียภาษีอีกด้วย
จึงเป็นที่ถกเถียงว่า พรมแดนที่กั้นกลางบางๆ ระหว่างความเชื่อกับความหลง ในจิตสำนึกของพระนั้น มาจากการทดลอง เพื่อผ่อนคลาย และคลายเครียด จนนำพาไปสู่ตัณหากิน ในรูปแบบของปีศาจร้าย ในคราบมนุษย์ ที่ไม่สมควรมีความคิดริเริ่มที่จะบวช หรือเป็นพระภิกษุสงฆ์ ตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว ใช่หรือไม่
สำหรับประเด็นนี้ มาจากสีกาสาวคนสนิท ของเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ที่เป็นข่าวอยู่นั้น เป็นคนเดียวกันกับ 1 ในผู้ต้องหา ที่พึ่งโดนจับกุมตัวไปล่าสุด เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2568 หลังสงกรานต์ เพียงไม่นานที่ผ่านมา ในข้อหาจัดให้มีการเล่นเสี่ยงทายออนไลน์ โดยผิดกฎหมายของไทย
ภายใต้ชื่อเว็บ LAGALAXY911 และยังมี next88bet เจ้าใหญ่เจ้าดังด้วย ที่โดนรวบเช่นกัน ซึ่งบทบาทสำคัญของสีกาสาวท่านนี้ ก็คือ เป็นนายหน้ารับแทงรายใหญ่ ของเว็บเสี่ยงทายมีสี แบบของเถื่อนหลายๆ แห่งหลายๆ เจ้า โดยมีหน้าที่ คอยเชิญชวน ชักจูง และชักนำ ให้เกิดการเข้าร่วมนั่นเอง
เชื่อว่ามีหลายๆ คนมักจะเห็นพระ หรือเห็นเณรซื้อหวยใต้ดิน และสลากกินแบ่งรัฐบาล ก่อนวันหวยออกกันเป็นประจำ เลยเกิดความเข้าใจกันผิดๆ คิดว่าการเล่นหวย หรือซื้อหวยนั้น เบากว่าการเล่นไพ่บาคาร่า หรือเล่นพนันออนไลน์ทุกประเภท
ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว หวย ก็คือการพนันอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ใช้ความหวังบวกเลขมั่ว เพื่อแลกกับเงิน และแน่นอนว่า มันก็คือการพนัน และพระก็ผิดศีลเช่นกัน ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็น หวย ไพ่บาคาร่า เกมหมุนๆ หรืออะไรก็ตาม ที่เป็นการพนัน ล้วนผิดศีลของพระ และของคนธรรมดาทั้งสิ้น
พระเล่นการพนันได้ไหม แน่นอนว่า ต้องไม่ได้ และอาบัติอย่างร้ายแรงมากด้วย ในขั้นปาราชิก 4 บาทที่ 2 ที่หากเกี่ยวข้องโดยตรง กับการยักยอกทรัพย์จากการพนัน เพื่อผลประโยชน์ในเชิงสีเทา ที่แม้จะแค่ลองเล่นสนุกๆ ก็ไม่ได้ เพราะพระต้องละอบายมุขอย่างสิ้นเชิง และถึงแม้ว่า ความบันเทิงในรูปแบบนี้ จะไม่ใช่แค่ผิดทางโลก แต่เป็นการทำลายศรัทธาของญาติโยม และหักหลังต่อหลักธรรมะอีกด้วย
คำตอบคือ ถ้าเราบริจาคด้วยศรัทธา แน่นอนว่า ไม่ได้ทำผิดบาปแต่อย่างใด แต่คนที่ผิดจริง และผิดเต็มๆ คือ พระ หรือสงฆ์ผ้าเหลืองท่านใดก็ตาม ที่นำเอาเงินนั้น ไปใช้ผิดเจตนา บาปนั้นจึงหนักอยู่ที่ผู้ทรยศต่อจีวร แทนผู้ให้ด้วยศรัทธาต่างหาก
คำตอบคือ เนื่องจาก พระ ถือว่าไม่มีรายได้ ในเชิงธุรกิจส่วนตัว รายรับส่วนใหญ่ที่ได้เป็นปัจจัย จากศรัทธาล้วนๆ ไม่ใช่ค่าตอบแทนแรงงาน จึงไม่จำเป็นที่จะต้องเสียภาษีนั่นเอง