
ผู้กำกับเพลย์ รุ่นใหม่ กับการฟื้นคืนเกมที่เคยหยุดเดิน
- Harry P
- 30 views
ผู้กำกับเพลย์ รุ่นใหม่ ลอนโซ่ บอลล์ (Lonzo Ball) ผู้กำกับเกมที่เปลี่ยนความวุ่นวาย ให้เป็นจังหวะที่ลงตัว และเมื่อคนทั้งโลกกำลังมองหาผู้เล่น ที่ทำแต้มได้มากที่สุด บอลล์กลับเป็นคนที่ทำให้เพื่อนร่วมทีม ทำแต้มได้ง่ายที่สุด เขาไม่ใช่ดาวทำแต้ม แต่คือคนวางฉาก
ในยุคที่เกม NBA เต็มไปด้วยความเร็ว และการทำแต้ม ลอนโซ่ บอลล์กลับโดดเด่น ด้วยสิ่งที่ตรงกันข้าม เขาไม่ใช่นักบาสที่หวือหวา ไม่ได้เร้าใจด้วยสเต็ปแบบ ไครี เออร์วิง หรือปั้นแต้มเป็นกอบเป็นกำแบบ ลูก้า ดอนซิช แต่เขาคือคนที่ “ควบคุม” ทุกอย่าง ให้เป็นไปตามจังหวะ
คนที่มองเกมเหมือนผู้กำกับมองกล้อง เป็นผู้คุมโครงสร้าง โดยไม่ต้องเป็นพระเอกของฉาก และหลังจากหายจากวงการไปเกือบ 2 ปีเต็ม เพราะอาการบาดเจ็บเข่าเรื้อรัง บอลล์กำลังจะกลับมาในฤดูกาล 2025-26 พร้อมคำถามสำคัญว่า “ผู้กำกับเพลย์” คนนี้ ยังมีที่ยืนใน NBA หรือไม่
ลอนโซ่ บอลล์เข้าสู่ NBA ด้วยสถานะดราฟต์อันดับ 2 ในปี 2017 โดยลอสแอนเจลิส เลเกอส์ พร้อมแรงกดดันมหาศาล จากพ่อผู้พูดมากอย่าง LaVar Ball และความคาดหวังในฐานะ “Magic Johnson คนต่อไป” แต่เส้นทางของเขา ไม่ได้เป็นเส้นตรง หรือเปล่งแสงเหมือนที่หลายคนคาด
หลังจากเล่นกับลอสแอนเจลิส เลเกอส์ได้สองฤดูกาล เขาถูกเทรดไปยัง นิวออร์ลีนส์ พีลิแกนส์ (New Orleans Pelicans) และจากนั้น จึงมาอยู่กับ ชิคาโก บูลส์ (Chicago Bulls) ในปี 2021 ซึ่งเป็นจุดที่ลอนโซ่ บอลล์ดูจะเริ่มลงล็อก กับระบบทีมมากที่สุด (14 กันยายน 2025) [1]
ความต่างจากน้องชาย อย่างลาเมโล่ บอลล์ (LaMelo Ball) นั้นชัดเจน ลาเมโล่ บอลล์คือ สายฟ้า แห่งจินตนาการ สายโชว์ สายครีเอทีฟ และสายไฮไลต์ แต่พี่ใหญ่อย่างลอนโซ่ บอลล์กลับเป็นระบบ เป็นความนิ่ง และการทำให้คนอื่นเล่นง่ายขึ้น
สถิติที่ไม่ได้ทำให้เป็นซูเปอร์สตาร์ แต่ทำให้โค้ชไว้ใจ ตลอดอาชีพลอนโซ่ บอลล์มีค่าเฉลี่ย 11.4 แต้ม, 5.8 แอสซิสต์, 5.5 รีบาวด์ต่อเกม ซึ่งอาจดูธรรมดา หากมองเพียงผิวเผิน แต่เมื่อเจาะลึก จะพบว่าเขา มีผลกระทบด้านเกมรับอย่างชัดเจน (17 กันยายน 2025) [2]
ในฤดูกาล 2021-22 กับบูลส์ก่อนบาดเจ็บ เขาชู้ตสามแต้มได้แม่นถึง 42.3% จากการชู้ตเกือบ 7 ครั้งต่อเกม และมี Turnover เฉลี่ยประมาณ 3.5 ต่อเกมในฤดูกาลนั้น แสดงให้เห็นว่าเขา เป็นผู้เล่นที่คุมเกม ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เหตุผลที่โค้ชหลายทีมชอบเขา
บอลล์ไม่ได้เน้นทำแต้ม แต่สร้าง “เวที” ให้เพื่อนร่วมทีมได้เล่นง่ายขึ้น เขารู้ว่าเมื่อไหร่ควรเร่ง เมื่อไหร่ควรชะลอ และมองเห็นการเคลื่อนไหว ที่ยังไม่เกิดขึ้นในอีก 1-2 วินาทีข้างหน้า เขายังสามารถประกบผู้เล่น ได้หลากหลายตำแหน่ง (1-3) และมีวินัยเกมรับสูงมาก
บาดเจ็บหัวเข่าหลายรอบ และการหายไปกว่า 2 ปี
ต้นปี 2022 ลอนโซ่ได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่า (meniscus tear) และแม้จะผ่าตัดแล้วหลายครั้ง อาการก็ยังไม่ดีขึ้น จนสุดท้ายต้องเข้ารับการผ่าตัดใหญ่แบบ cartilage transplant ในปี 2023 ซึ่งเป็นกระบวนการที่ไม่ค่อยเกิดขึ้น ในหมู่นักกีฬาอาชีพ และในช่วงสองปีที่ผ่านมา เขาไม่ได้ลงเล่นแม้แต่นัดเดียว
เส้นทางการกลับมายังไม่ปิด
ล่าสุดในเดือนกันยายน 2025 มีรายงานว่าลอนโซ่ บอลล์เริ่มซ้อม แบบเต็มรูปแบบแล้ว และมีแนวโน้ม จะกลับมาลงเล่นในฤดูกาลนี้ ซึ่งนับว่าเกินความคาดหมาย ของหลายฝ่ายมาก (26 มีนาคม 2025) [3]
จุดแข็ง
ข้อจำกัด
หากคุณมองหาผู้เล่น ที่เน้นสร้างจังหวะให้คนอื่นลอนโซ่ บอลล์คือคำตอบ เขาไม่ใช่ผู้เล่นที่ควรดูด้วย Stats หรือ Fantasy Point แต่ควรดูด้วย flow ของเกม เมื่อเขาอยู่ในสนาม ซึ่งเหมาะกับทีมที่มีสตาร์อยู่แล้ว แต่ขาดคนประสานจังหวะ อย่างเช่น Bucks, Heat หรือแม้แต่ Warriors รุ่นใหม่
ข้อควรระวัง และมุมวิจารณ์ที่ต้องกล้ายอมรับ
การหายไปนานกว่า 2 ปีส่งผลทั้งต่อร่างกาย และความเร็วของเกม โอกาสกลับมาเล่นในระดับเดิม อาจใช้เวลานาน หรืออาจไม่กลับมาเลย และชิคาโก บูลส์อาจไม่ต่อสัญญา ทำให้เขาต้องพิสูจน์ตัวเอง แบบไม่มีสัญญาระยะยาว
แต่ในอีกมุมหนึ่ง หากลอนโซ่ บอลล์กลับมาได้ เขาคือ Rare Asset ของ NBA การ์ดที่สามารถเปลี่ยนเพลย์ให้ถูกต้อง โดยไม่ต้องการแต้ม
สุดท้ายแล้ว ผู้กำกับเพลย์ รุ่นใหม่ “ลอนโซ่ บอลล์” คือผู้เล่นที่ไม่ได้เร่งเกมให้เร็วขึ้น แต่ชะลอให้ทุกคนเล่นอย่างถูกจังหวะ เขาไม่ได้เป็นคนปิดฉาก แต่เป็นคนเริ่มต้นเรื่องราว และใน NBA ที่เต็มไปด้วยผู้จบสกอร์ การมีคนเริ่มเพลย์อย่างแม่นยำ อาจเป็นสิ่งที่ทีมขาดไปมากที่สุด
ระบบที่เหมาะกับลอนโซ่ บอลล์คือทีมที่มีตัวทำแต้มชัดเจน และต้องการคนคุมจังหวะ ที่ต้องจ่ายบอลแม่นยำ และการอ่านเกมเร็ว เขาไม่จำเป็นต้องครองบอลเยอะ แต่ต้องได้อยู่ในระบบที่ให้เขา มีอิสระในการเรียกเพลย์ และอ่านรูปเกมได้เอง
เขาแสดงให้เห็นว่า ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เล่นที่ทำแต้มเยอะ ถึงจะสำคัญกับทีม การเข้าใจระบบ การเสียสละ และการอ่านเกม คือคุณสมบัติที่ทีมระดับสูงต้องการ