
ป้อมปราการ แห่งรอยยิ้ม ผู้พิทักษ์เกมรับด้วยหัวใจที่สงบ
- Harry P
- 62 views

ป้อมปราการ แห่งรอยยิ้ม จาร์เร็ตต์ อัลเลน (Jarrett Allen) ไม่ใช่ผู้เล่นที่ยืนเรียกร้องความสนใจ แต่คือรากฐานที่ทำให้เกมรุก และเกมรับของทีม สมดุลได้อย่างน่าประหลาด บทวิเคราะห์นี้จะเปิดมุมใหม่ให้คุณเข้าใจว่า “ความนิ่ง” ที่เขามี ไม่ได้แปลว่าธรรมดา แต่มันคือพลังเฉพาะตัว ที่ยากจะหาคนทดแทน
ในยุคที่บาสเกตบอล กำลังเคลื่อนไปสู่ความเร็ว พื้นที่กว้าง และบิ๊กแมนต้องชู้ตสามแต้มได้ การมีผู้เล่นที่ยึดมั่น ในบทบาทดั้งเดิม คุมห่วง บล็อก รีบาวด์ และคอยเป็นกำแพงให้ทีม กลับกลายเป็นสิ่งหายาก และอาจไม่ถูกกล่าวถึงมากพอ
อัลเลนคือหนึ่งในผู้เล่น ที่ยังยืนหยัดกับบทบาทนี้ เขาไม่ใช่เซนเตอร์ ที่โดดเด่นด้วยตัวเลขสามแต้ม ไม่ใช่ผู้ปั้นเกมแนวหน้า แต่คือ “ป้อมปราการ” ที่ยิ้มได้เสมอ แม้อยู่กลางเพลย์อันดุเดือด
คำว่าป้อมปราการแห่งรอยยิ้ม ไม่ได้เป็นเพียงชื่อเล่น ที่ล้อกับบุคลิกดูผ่อนคลาย และรอยยิ้มอบอุ่นของอัลเลน แต่คือการสะท้อนบทบาทของเขาใน Cavaliers ฐานป้องกันในระบบ ที่เต็มไปด้วยดาวรุ่งไฟแรง และอัลเลนจะเป็นคำตอบระยะยาวจริงหรือไม่ ในยุคที่ตำแหน่งเซนเตอร์ ต้องทำได้ทุกอย่าง

อัลเลนถูกดราฟต์โดย บรู๊คลิน เน็ตส์ (Brooklyn Nets) ในปี 2017 ด้วยอันดับที่ 22 และใช้เวลาหลายฤดูกาล ในการเรียนรู้เกมระดับ NBA เขาไม่ได้พุ่งขึ้นมาเป็นซูเปอร์สตาร์ทันที แต่พัฒนาตัวเองอย่างมั่นคง ในฐานะ rim protector และผู้เล่นเกมรับที่เชื่อใจได้
เมื่อถูกเทรดมายัง คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส (Cleveland Cavaliers) ในดีลที่เกี่ยวข้องกับ James Harden เมื่อปี 2021 บทบาทของเขา ก็ชัดเจนขึ้น เป็นแกนหลักของเกมรับคาวาเลียร์ส ที่กำลังสร้างใหม่ด้วยแกนวัยรุ่นอย่าง Darius Garland, Evan Mobley และ Isaac Okoro
ในฤดูกาล 2024-25 อัลเลนทำผลงานเฉลี่ย 13.5 แต้ม 9.7 รีบาวด์ FG สูงถึง 70.6% (นำลีก) แม้ไม่มีลูกสามแต้มในคลังแสง แต่เขาคือหนึ่งในผู้เล่น ที่มีประสิทธิภาพที่สุดเมื่ออยู่ใกล้ห่วง เป็นเครื่องจักรของการ finish และ box out แบบที่ทีมไว้ใจได้เสมอ (21 กันยายน 2025) [1]
คาวาเลียร์สคือหนึ่งในทีม ที่มีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงมากที่สุด ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่การปั้นทีมรอบ จิตรกร แห่งเส้นเพลย์ อย่างดาเรียส การ์แลนด์ และอีวาน ม็อบลีย์ จนถึงการซื้อโดโนแวน มิตเชลล์เข้ามาในฤดูกาล 2022-23 ความมั่นคงของอัลเลน กลับกลายเป็นสิ่งที่ช่วยตรึงระบบเกมรับ ให้ไม่พัง
แต่ความมั่นคงนั้น ก็มาพร้อมคำถามสำคัญ ในโลกที่เซนเตอร์อย่าง นิโคลา โยคิช, แบม อเดบาโย หรืออัลเปเรน เซงกุน ต้องมีบทบาทหลากหลาย ทั้งพาบอลขึ้นเอง ชู้ตสามแต้ม และสร้างเกมรุกให้เพื่อน อัลเลนที่เน้นการรีบาวด์ และบล็อกแบบดั้งเดิม ยังเป็นคำตอบที่เหมาะสมอยู่หรือไม่
แม้จะมีจุดแข็งเรื่อง efficiency และ positioning แต่อัลเลนยังถูกวิจารณ์ว่า ไม่สามารถ “สร้างเกม” ได้เท่าที่ทีม contender ต้องการ และในเพลย์ออฟหลายปีที่ผ่านมา เขามักจะตกเป็นเป้าของการโจมตีด้วย pick-and-roll หรือ spacing ที่บีบให้เขา ออกมานอก paint (25 กันยายน 2025) [2]
สิ่งที่จาร์เร็ตต์ อัลเลนมีคือความนิ่ง ความแน่นอน และความคงที่แบบ old-school แต่สิ่งที่เขาขาดคือ versatility ที่ทีมยุคใหม่เริ่มมองหาในบิ๊กแมน นั่นจึงเป็นเหตุผล ที่ข่าวลือการเทรดเขา มีให้เห็นเสมอในช่วง offseason

อัลเลนไม่ใช่ผู้เล่นที่ชูมือขอบอล หรือแสดงออกอย่างเด่นชัดในสนาม แต่เขาคือผู้ที่ teammates ให้เครดิตเสมอว่า “อยู่ตรงนั้นในทุกจังหวะสำคัญ” รีบาวด์ที่ไม่มีใครมองเห็น, box out ที่ไม่มีในสถิติ หรือ screen ที่เปิดทางให้เพื่อนทำแต้ม
ในเชิงจิตวิทยา รอยยิ้มของจาร์เร็ตต์ อัลเลนสะท้อนความสงบนิ่งในเกม เขาไม่เคย overact หรือตอบโต้เกินควร แม้จะมีเสียงวิจารณ์ เช่น การเล่นที่ดู soft ในเพลย์ออฟ แต่บทสัมภาษณ์ล่าสุดของเขา กลับเผยว่าเขาไม่กลัวเสียงเหล่านั้น และใช้มันพัฒนาตัวเอง (19 ตุลาคม 2025) [3]
ท้ายที่สุด ป้อมปราการ แห่งรอยยิ้ม “จาร์เร็ตต์ อัลเลน” เตือนเราว่า ไม่ใช่ทุกคนต้องตามกระแสจึงจะมีคุณค่า บางคนแค่ยืนให้มั่นในสิ่งที่ถนัด ก็เปลี่ยนเกมได้ ในโลกที่เซนเตอร์ต้องชู้ตไกล และขึ้นบอลได้ อัลเลนยังคงยืนอยู่ใต้แป้น ยิ้มอย่างมั่นใจ และทำในสิ่งที่ไม่มีใครอยากทำ อย่างไร้ข้อแม้
เพราะจาร์เร็ตต์ อัลเลนคือผู้เล่น ที่รับบทบาทป้องกันอย่างมั่นคงใต้แป้น พร้อมบุคลิกสงบนิ่ง และรอยยิ้มที่ไม่เคยหายไป แม้จะอยู่ในเกมที่กดดันที่สุด ภาพลักษณ์นี้สะท้อนความแข็งแกร่ง ที่ไม่ต้องใช้เสียงดัง แต่สื่อถึงความเชื่อมั่นของทั้งทีม
ขึ้นอยู่กับระบบทีม อัลเลนอาจไม่ใช่ stretch five หรือ playmaker แต่ในทีมที่ต้องการเสถียรภาพ และเกมรับแน่นหนา เขายังมีบทบาทชัดเจน เพราะเขาช่วยทีมควบคุมจังหวะเกมรับได้ดี และมีความสม่ำเสมอ ที่ทีมระดับเพลย์ออฟต้องการ

