เปิดเรื่องราว จิมมี โฟลยด์ ฮัสเซิลบังก์ เครื่องจักรสังหาร

จิมมี โฟลยด์ ฮัสเซิลบังก์ เครื่องจักรสังหาร

จิมมี โฟลยด์ ฮัสเซิลบังก์ เครื่องจักรสังหาร คือกองหน้าชาวดัตช์ที่สร้างชื่อเสียง ในฐานะเครื่องจักรสังหาร ด้วยความสามารถในการจบสกอร์ที่เฉียบคม และทรงพลัง โดยเฉพาะลูกยิงไกลอันหนักหน่วงที่เป็นเอกลักษณ์ เขาย้ายมาร่วมทีมเชลซีในปี 2000 ด้วยค่าตัวสถิติสโมสร ณ เวลานั้น และกลายเป็น ดาวซัลโวสูงสุด ของทีมติดต่อกันถึงสี่ฤดูกาล

  • เส้นทางการเล่นฟุตบอล สู่การเป็นกองหน้าสุดคม
  • ความเฉียบคมที่เป็นเอกลักษณ์
  • เกมแห่งความทรงจำของเขา

ชีวประวัติของ จิมมีโฟลยด์ฮัสเซิลบังก์

โดยต้นกำเนิดของจิมมีโฟลยด์ ฮัสเซิลบังก์ (Jimmy Floyd Hasselbaink) ลืมตาดูโลกครั้งแรก เมื่อวันที่ 27 เดือนมีนาคม 1972 ที่เมือง Paramaribo ในประเทศเนเธอร์แลนด์ และเริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลกับสโมสรเล็กๆ อย่างเทลสตาร์ (Telstar) และ อาแซด อัลค์มาร์ (AZ Alkmaar) แต่ไม่ประสบความสำเร็จนัก

จุดเริ่มต้นที่แท้จริงในเวทียุโรปของเขา เกิดขึ้นในประเทศโปรตุเกส โดยเขาสร้างชื่อเสียงอย่างรวดเร็วกับ เบาวิสต้า เอฟซี และคว้าแชมป์โปรตุเกส คัพได้สำเร็จ ก่อนจะย้ายไปอังกฤษกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ในปี 1997 และแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวจนคว้ารางวัล รองเท้าทองคำพรีเมียร์ลีก ในปี 1999 (13 พฤศจิกายน 2025) [1]

จุดเริ่มต้นในลีกดัตช์ และสไตล์การเล่นที่โดดเด่น

โดยเส้นทางอาชีพของฮัสเซิลบังก์ในลีกดัตช์ ไม่ได้หวือหวาตั้งแต่แรกเริ่ม เขาเริ่มต้นกับสโมสรเล็กๆ อย่าง เทลสตาร์ (Telstar) และ อาแซด อัลค์มาร์ (AZ Alkmaar) ในช่วงต้นยุค 90 ซึ่งเป็นช่วงที่เขาต้องดิ้นรน และเผชิญกับความท้าทาย ในการปรับตัวเข้ากับฟุตบอลอาชีพอย่างแท้จริง การเริ่มต้นที่ไม่สวยหรูนี้ เป็นส่วนหนึ่งที่หล่อหลอมความมุ่งมั่น

สไตล์การเล่นที่โดดเด่น คือการเป็นกองหน้าที่มี พละกำลังมหาศาล และการยิงประตูที่รุนแรงเฉียบขาด ด้วยเท้าขวาอันทรงพลัง เขาไม่เพียงแต่เป็นนักล่าประตู ในกรอบเขตโทษเท่านั้น แต่ยังอันตรายอย่างยิ่งจากระยะไกล ซึ่งทำให้ผู้รักษาประตูคู่แข่ง ต้องระมัดระวังตลอดเวลา เหมือนกันกับ คาร์ลตัน โคล

นอกจากนี้ ความสามารถในการยิงประตูที่ดุดัน และแข็งแกร่งนี้เอง ที่เป็นกุญแจสำคัญที่ ทำให้เขาประสบความสำเร็จอย่างสูง เมื่อก้าวสู่ลีกใหญ่ในเวลาต่อมา

ข้อมูลความสำเร็จในการค้าแข้งของ ฮัสเซิลบังก์ เป็นยังไง

  • เกียรติยศบนเส้นทางลูกหนังของเจ้าตัว ช่วยพาทีมเชลซี คว้าแชมป์ คอมมิวนิตีชีลด์ 1 สมัย ในฤดูกาล 2000-2001
  • และสุดท้าย คว้ารางวัลผู้ทำประตูสูงสุด 2 สมัย ในฤดูกาล 1998-1999 และ 2000-2001

ที่มา: Jimmy Floyd Hasselbaink (2025) [2]

นักเตะจากเนเธอร์แลนด์ สู่เวทีพรีเมียร์ลีกอังกฤษ

จิมมี โฟลยด์ ฮัสเซิลบังก์ เครื่องจักรสังหาร

แม้จะเริ่มต้นในเนเธอร์แลนด์ แต่เขาไม่ได้ย้ายมาพรีเมียร์ลีกโดยตรงจากบ้านเกิด เส้นทางของเขาคือการไปสร้างชื่อเสียงอย่างแข็งแกร่ง ในลีกโปรตุเกสกับ เบาวิสต้า ก่อนจะถูก ลีดส์ ยูไนเต็ด ดึงตัวมาร่วมทีมในปี 1997 ด้วยค่าตัว 2 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นการเข้าสู่พรีเมียร์ลีกอย่างเป็นทางการ

ที่ลีดส์ เขาพิสูจน์ตัวเองอย่างรวดเร็ว ว่าเป็นกองหน้าระดับโลก โดยทำไป 42 ประตูจาก 87 นัด และคว้ารางวัล รองเท้าทองคำพรีเมียร์ลีก ในฤดูกาล 1998-1999 ร่วมกับ ไมเคิล โอเว่น และดไวท์ ยอร์ค แม้จะไปค้าแข้งกับแอตเลติโก มาดริดหนึ่งปี แต่เขาก็กลับมาอังกฤษอีกครั้งกับทีม เชลซี ในช่วงปี 2000 ด้วยค่าตัวสถิติสโมสร 15 ล้านปอนด์ (2025) [3]

ฟอร์มการถล่มประตู ที่ทำให้พรีเมียร์ลีกต้องจับตามอง

โดยเขากลายเป็นที่จับตามอง ของพรีเมียร์ลีกอย่างแท้จริง ตั้งแต่ช่วงที่อยู่กับทีม ลีดส์ ยูไนเต็ด ด้วยสถิติการทำประตูที่น่าประทับใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูกาล 1998-1999 ที่เขาทำไป 18 ประตู และคว้ารางวัล รองเท้าทองคำพรีเมียร์ลีก ร่วมกับผู้เล่นระดับตำนานคนอื่นๆ

การกลับมาสู่พรีเมียร์ลีกกับ เชลซี ในปี 2000 ยิ่งตอกย้ำสถานะของเขา ในฐานะกองหน้าชั้นยอด เมื่อเขาสร้างสถิติเป็นดาวซัลโวสูงสุด ของสโมสรติดต่อกัน 4 ฤดูกาล และยังทำสถิติส่วนตัวด้วยการยิงถึง 23 ประตูในลีกฤดูกาล 2000-2001

จุดเด่นของฟอร์มการถล่มประตู คือความหลากหลาย ทั้งการยิงไกลด้วยพลังงานมหาศาล การเข้าชาร์จลูกครอส และความแน่นอนในการยิงลูกจุดโทษ ทำให้เขาเป็นผู้เล่นที่พรีเมียร์ลีก ต้องให้ความสำคัญในการป้องกันเสมอ

การเดินทางในอาชีพค้าแข้งของฮัสเซิลบังก์ เป็นแบบไหน

ข้อมูลเชิงตัวเลขในสนามให้กับทีมฟุตบอลอาชีพ

  • เมื่อปี 1990-1991 เล่นให้กับทีม Telstar ลงเล่นไป 4 นัด
  • เมื่อปี 1991-1994 เล่นให้กับทีม AZ Alkmaar ลงเล่นไป 46 นัด ประตูที่ทำได้ 5 ลูก
  • เมื่อปี 1995-1996 เล่นให้กับทีม Campomaiorense ลงเล่นไป 31 นัด ประตูที่ทำได้ 12 ลูก
  • เมื่อปี 1996-1997 เล่นให้กับทีม Boavista ลงเล่นไป 29 นัด ประตูที่ทำได้ 20 ลูก
  • เมื่อช่วงปี 1997-1999 เล่นให้กับทีม Leeds United ลงเล่นไป 69 นัด ซับไป 34 ประตู
  • เมื่อช่วงปี 1999-2000 เล่นให้กับทีม Atlético Madrid ลงเล่นไป 34 นัด ซับไป 24 ประตู
  • เมื่อในปี 2000-2004 เล่นให้กับทีม Chelsea ลงเล่นไป 136 นัด ซับไป 69 ประตู
  • เมื่อในปี 2004-2006 เล่นให้กับทีม Middlesbrough ลงเล่นไป 58 เกม การจบสกอร์ 22 ประตู
  • เมื่อในปี 2006-2007 เล่นให้กับทีม Charlton Athletic ลงเล่นไป 25 เกม การจบสกอร์ 2 ประตู
  • เมื่อในปี 2007-2008 เล่นให้กับทีม Cardiff City ลงเล่นไป 36 เกม การจบสกอร์ 7 ประตู
  • และสุดท้าย ลงสนามรวมทุกรายการ อยู่ทั้งหมด 468 เกม สถิติการยิง 195 ประตู

 

โปรไฟล์การค้าแข้งให้กับทีมชาติ เนเธอร์แลนด์

  • และสุดท้ายในปี 1998-2002 ลงสนามรวมทุกรายการ อยู่ทั้งหมด 27 เกม การจบสกอร์ 9 ประตู

บทสรุป จิมมีโฟลยด์ ฮัสเซิลบังก์ เครื่องจักรสังหาร

บทส่งท้ายของ จิมมีโฟลยด์ฮัสเซิลบังก์ เครื่องจักรสังหาร คือกองหน้าที่ถูกจดจำด้วย พลังการยิงที่หนักหน่วง และความสามารถในการทำประตูจากทุกระยะ เขาประสบความสำเร็จในการคว้า รองเท้าทองคำพรีเมียร์ลีก ถึงสองครั้ง กับลีดส์และเชลซี และเป็นดาวซัลโวของเชลซีติดต่อกันหลายฤดูกาล

ฤดูกาลสุดพีคที่คว้ารองเท้าทองคำ เกิดขึ้นเมื่อไหร่

โดยเขาคว้ารางวัล รองเท้าทองคำพรีเมียร์ลีกได้ถึง 2 ครั้ง โดยมีฤดูกาลสุดพีคที่แตกต่างกัน ในฤดูกาล 1998-1999 กับทีมลีดส์ ยูไนเต็ด ในช่วงฤดูกาล 2000-2001 กับ ทางสโมสรเชลซี ตอนนั้นเจ้าตำทำได้ 23 ลูก ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดของเขาในพรีเมียร์ลีก และคว้ารางวัลมาครองได้แต่เพียงผู้เดียว

การพัฒนาตนเอง จนกลายเป็นกองหน้าที่ผสมผสานด้วยพลัง

พัฒนาตนเองจากจุดเริ่มต้นที่ดิ้นรนในลีกดัตช์ ผ่านการฝึกฝนและประสบการณ์ในโปรตุเกส จนกลายเป็นกองหน้าที่สมบูรณ์แบบ ที่ผสมผสานด้วยพลัง พร้อมกับความรวดเร็วและความแม่นยำ เขาทำงานอย่างหนัก เพื่อเพิ่มพละกำลังให้กับร่างกาย ทำให้ลูกยิงของเขามีความรุนแรง และเฉียบขาดมากยิ่งขึ้น

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง