
คันธนู ที่เล็งแค่ชัยชนะ ขึงตึง เตรียมยิง และไม่เคยพลาด
- Harry P
- 42 views
คันธนู ที่เล็งแค่ชัยชนะ แบรนดอน อินแกรม (Brandon Ingram) ไม่ได้เป็นนักบาสที่เสียงดัง ไม่ได้เรียกร้องความสนใจ ไม่ได้ไล่หลังแสงแฟลชของสื่อ เขาเป็นเหมือนคันธนู ที่เงียบ แต่ขึงตึง พร้อมยิง และเมื่อไหร่ที่เขาเล็ง มันจะไม่มีพลาด
คันธนู ที่เล็งแค่ชัยชนะ อย่างอินแกรม เมื่ออยู่ในยุคที่ผู้เล่นบางคน ขับเคลื่อนตัวเองด้วยพลังโซเชียล เขาคือภาพที่ตรงข้าม อินแกรมคือคนที่มีสไตล์เป็นของตัวเอง มีจังหวะการเล่นที่ไม่วูบวาบ แต่ทรงพลังพอ ที่จะยึดตำแหน่งแกนหลักของทีม ได้โดยไม่ต้องประกาศ
หากจะพูดถึงผู้เล่นที่มี “midrange game” ผสมกับการอ่านจังหวะอย่างนุ่มลึก อินแกรมคือตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด เขามีความยาวช่วงแขน ที่ยาวเกือบ 7 ฟุต 3 นิ้ว เทียบได้กับผู้เล่นตำแหน่งใหญ่ แต่มีสกิล footwork และการเคลื่อนไหวระดับการ์ด เขาใช้พื้นที่ elbow, baseline และ weak side อย่างมีชั้นเชิง
“อินแกรมเหมือนเควิน ดูแรนท์ (Kevin Durant) เวอร์ชันที่นิ่งกว่า แต่ยังเฉียบเท่าเดิม” – คำที่โค้ชฝ่ายตรงข้ามหลายคน ใช้บรรยายเขา แต่ความต่างสำคัญคือ ดูแรนท์ใช้พลังแบบผ่ากลาง แต่อินแกรมใช้พลังแบบซึมลึก [1]
ในฤดูกาลล่าสุด (2023-24) อินแกรมมีค่าเฉลี่ย 20.8 แต้ม 5.1 รีบาวด์ และ 5.7 แอสซิสต์ต่อเกม พร้อม FG% ที่สูงถึง 49.2% และ 3P% ประมาณ 35% ซึ่งอาจไม่ได้สะดุดตา เท่าผู้เล่นระดับซูเปอร์สตาร์คนอื่น แต่สิ่งที่เด่นคือ ความสม่ำเสมอ และประสิทธิภาพในช่วง clutch ที่โดดเด่นเป็นพิเศษ [2]
ในเกมที่นิวออร์ลีนส์ พีลิแกนส์ (New Orleans Pelicans) ต้องการคนจบเพลย์แบบมั่นใจ อินแกรมคือคนที่บอลจะมาหาเสมอ เขาไม่ใช่ผู้เล่นที่เรียกร้องเพลย์ แต่เขาคือคนที่อยู่ในจุดพร้อมชู้ตเสมอ และไม่มีลังเล
อินแกรมคือผู้เล่นที่อยู่ตรงกลาง ของทั้งสาม ไม่ใช่คนที่เร็วที่สุด หรือมีพลังมากที่สุด แต่เป็นคนที่ควบคุมเกม ด้วยความแน่น ความแม่น และความนิ่ง
พีลิแกนส์ไม่ใช่ทีม ที่มีแสงจ้าตลอดเวลา ไซออน วิลเลียมสัน (Zion Williamson) อาจเป็นหน้าตาของแฟรนไชส์ เป็นพลังระเบิด ที่พร้อมทำลายแนวรับ แต่ในอีกมุม เขาคือพลังที่ต้องควบคุม ความไม่แน่นอน เรื่องอาการบาดเจ็บ และสไตล์ที่พึ่งพาพละกำลัง ทำให้เขาไม่ใช่ศูนย์กลางที่สม่ำเสมอ ได้เสมอไป
ในขณะที่อินแกรมไม่ใช่พลัง ที่หวือหวา แต่คือ “แรงเฉื่อย” ที่ขับเคลื่อนทีม ให้ไปข้างหน้าแบบมั่นคง เขาคือกลไก ที่ทำให้ระบบรุกยังไหลลื่น แม้วิลเลียมสันจะไม่อยู่ หรือเกมจะถูกบีบ ให้เล่นช้าแบบ halfcourt
อินแกรมสร้างสมดุลให้ทีม เหมือนแรงดึงของคันธนู ที่ขึงไม่มากไป ไม่น้อยไป แต่พอดีจนพร้อมปล่อยลูกศร ได้แม่นยำในเสี้ยววินาที
พีลิแกนส์เป็นทีมที่มีศักยภาพสูงเต็มเปี่ยม ทั้งในเชิงรายบุคคล และพลังหนุ่ม แต่ยังไม่เคยไปไกล ถึงในรอบเพลย์ออฟ สาเหตุหลักไม่ใช่เพราะพรสวรรค์ไม่พอ แต่เพราะองค์ประกอบของความสม่ำเสมอ ยังไม่ลงตัว
วิลเลียมสันคือดาวเด่น ที่พร้อมระเบิดทุกเกม แต่ด้วยประวัติอาการบาดเจ็บ และการมีวินัยที่ยังถูกตั้งคำถาม ทำให้ทีมไม่สามารถวางรากฐานทั้งระบบ ไว้กับเขาได้อย่างเต็มที่ และในสถานการณ์เช่นนี้ อินแกรมคือเสาหลัก ที่พึ่งพาได้ เขาอาจไม่ใช่คนที่พาทีมกระชากโมเมนตัม ได้อย่างฉับพลัน
แต่เขาคือคนที่ช่วยประคองทุกเพลย์ ให้ไม่หลุดโครงสร้าง และทำให้ระบบของทีม ยังเดินหน้าได้ แม้ในวันที่ไร้จังหวะ และในโลกที่เต็มไปด้วยผู้เล่น ที่ชู้ตเร็ว คิดเร็ว อินแกรมคือสิ่งที่ทีมต้องมี [3]
หลายคนมองว่าอินแกรม เป็นสกอร์หลักเท่านั้น แต่ในฤดูกาลล่าสุด เขามีค่าเฉลี่ยแอสซิสต์มากถึง 5.7 ครั้งต่อเกม และสร้างโอกาสชู้ตให้เพื่อน มากกว่าที่คนทั่วไปคิด เขาอ่านเกมได้ดี โดยไม่ต้องถือบอลนาน คล้ายกับคริส มิดเดิลตัน (Khris Middleton) เวลาต้องตัดสินใจเร็วจาก weak side หรือ short corner
คำแนะนำสำหรับคนที่อยากเล่นแบบอินแกรม
ท้ายที่สุดแล้ว “แบรนดอน อินแกรม” ไม่ใช่นักแม่นปืน ที่กระหน่ำสามแต้ม ไม่ใช่เครื่องจักรทำแต้ม ที่ใส่เกียร์ห้าตลอดเวลา แต่เขาคือ “คันธนู” ที่ขึงไว้อย่างแน่น รอเพียงจังหวะที่ใช่ แล้วปล่อยลูกอย่างแม่นยำ ในโลกของบาสที่ทุกคนเร่งรีบ อินแกรมเลือกจะหยุด ล็อกเป้า และยิงแบบที่ไม่มีการพลาดเป้า
เพราะอินแกรมเล่นแบบเงียบ ไม่เร่ง แต่มั่นคง เหมือนคันธนูที่ขึงอย่างแน่น รอจังหวะปล่อยลูกศรอย่างแม่นยำ เป็นผู้เล่นที่เน้นคุณภาพ ไม่ใช่ความหวือหวา และพร้อมจะปลดปล่อยศักยภาพเต็มที่ ในจังหวะที่ทีมต้องการมากที่สุด
อินแกรมกลายเป็นแรงเฉื่อย ที่ช่วยให้เกมของพีลิแกนส์ ยังดำเนินต่อไปได้อย่างมั่นคง ไม่ใช่ผู้เล่น ที่ทำให้เกมพุ่งขึ้น แต่ทำให้เกมไม่พัง ด้วยจังหวะ และวิธีการเล่น ที่ไม่รบกวนระบบ แต่หลอมรวมเข้ากับมัน อย่างเป็นธรรมชาติ