
ข้อมูล เปาโล แฟร์ไรร่า แบ็กขวาตำนานแห่งสิงห์บลู
- sun-31
- 32 views
ข้อมูล เปาโล แฟร์ไรร่า ถือว่าเป็นนักเตะฟูลแบ็กชาวโปรตุเกส และเป็นหนึ่งในผู้เล่นยุคบุกเบิก ความสำเร็จของเชลซีอีกหนึ่งคนเลยก็ว่าได้ ภายใต้การนำของโชเซ่ มูรินโญ่ เมื่อในปี 2004 เขาเป็นแบ็กที่ไม่ได้เล่นหวือหวา แต่มีชื่อเสียงในเรื่องของความคงเส้นคงวา และความเป็นมืออาชีพอย่างสูง ในการเล่นฟุตบอลนั่นเอง เช่นเดียวกันกับ ปีเตอร์ เช็ก
สำหรับความเป็นมาของเปาโล แฟร์ไรร่า (Paulo Ferreira) เกิดเมื่อวันที่ 18 เดือนมกราคม 1979 ที่เมือง Cascais ในประเทศโปรตุเกส เขาเริ่มต้นอาชีพฟุตบอล ในตำแหน่งกองกลาง ก่อนจะถูกปรับมาเล่นเป็นแบ็กขวาอย่างเต็มตัว เมื่อย้ายไปร่วมทีมปอร์โต้ ภายใต้การคุมทีมของโชเซ่ มูรินโญ่ (19 กันยายน 2025) [1]
โดยเริ่มต้นอาชีพในลีกรองของโปรตุเกสกับทีม เอสโตริล ก่อนจะย้ายไป วิโตเรีย เซตูบัล และถูกยอดโค้ช โชเซ่ มูรินโญ่ ดึงตัวไปร่วมทีมปอร์โต้ เมื่อในช่วงปี 2002 ด้วยค่าตัวเพียง 2 ล้านยูโร และถูกปรับบทบาทจากปีก มาเป็นแบ็กขวาอย่างสมบูรณ์แบบ
การย้ายครั้งสำคัญที่สุดคือ การมาที่สโมสรฟุตบอลเชลซี ในช่วงปี 2004 โดยมีค่าตัวรายงานอยู่ที่ประมาณ €20 ล้านยูโร หรือประมาณ 13.2 ล้านปอนด์ ซึ่งถือเป็นราคาที่สูงมาก สำหรับฟูลแบ็กในยุคนั้น แต่การลงทุนครั้งนี้ ส่งผลให้เขากลายเป็นปราการหลังขวาตัวหลัก ในยุคที่เชลซีคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก
แม้ช่วงท้ายอาชีพจะสลับไปเป็นตัวสำรอง แต่ความภักดี และความเป็นผู้เล่นสารพัดประโยชน์ ทำให้เขายังคงเป็นคนสำคัญของทีม จนกระทั่ง แขวนสตั๊ดที่สแตมฟอร์ดบริดจ์ในปี 2013 โดยคว้าแชมป์รวม 10 รายการ ก่อนแขวนสตั๊ด เขามีรายได้รวมตลอดอาชีพการค้าแข้ง เป็นจำนวนมหาศาล ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่า 35,117 ดอลลาร์สหรัฐ (2025) [2]
สถิติการเล่นให้กับทีมฟุตบอลอาชีพ
ประวัติการรับใช้ทีมชาติ โปรตุเกส
หลังจากอำลาสนามในปี 2013 เขายังคงมีความสัมพันธ์อันยาวนานกับเชลซี โดยเริ่มต้นจากการเป็นทูตสโมสร และต่อมาก็เป็นผู้ช่วยโค้ชทางเทคนิค ให้กับนักเตะที่ถูกปล่อยยืม เขาทำงานเบื้องหลังที่สโมสรแห่งนี้ เป็นเวลาถึงเก้าปี เพื่อช่วยดูแลและให้คำปรึกษาแก่นักเตะอายุน้อย ที่ถูกยืมตัวออกไป จนกระทั่ง ตัดสินใจลาออกในปี 2022 เพื่อกลับไปอยู่กับครอบครัวที่โปรตุเกส
อย่างไรก็ตาม เขากลับคืนสู่วงการฟุตบอล อีกครั้งในเดือนกรกฎาคม 2023 โดยรับตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมที่ ลีลล์ ในลีกเอิง ของประเทศฝรั่งเศส เพื่อทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมชาติอย่าง เปาโล ฟอนเซก้า และยังคงเป็นผู้ช่วยโค้ชคู่บุญของฟอนเซก้า ในการย้ายไปทำงานกับ เอซี มิลาน และลียงในเวลาต่อมา
การมาอยู่กับทีมเชลซีในปี 2004 พร้อมกับโชเซ่ มูรินโญ่ นับเป็นจุดสูงสุดในอาชีพค้าแข้งของ เปาโลแฟร์ไรร่า เขากลายเป็นแบ็กขวาตัวหลักทันที ในทีมชุดปฏิวัติวงการฟุตบอลอังกฤษ ด้วยความทุ่มเทและวินัยสูงในการเล่นเกมรับ ทำให้เขาเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญ ที่ช่วยให้สิงห์บลูส์คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปี
ในฤดูกาล 2004-2005 โดยทีมชุดนั้น สร้างสถิติเสียประตูในลีกน้อยที่สุดเพียง 15 ประตูเท่านั้น แฟร์ไรร่าคือผู้เล่นที่มูรินโญ่ไว้วางใจอย่างยิ่ง ตลอดช่วงสามปีแรกที่ยอดโค้ชชาวโปรตุเกสคุมทีม โดยเขามีส่วนสำคัญ ในการพาทีมคว้าแชมป์ลีกสองสมัยซ้อน รวมถึงแชมป์ ลีกคัพ ในปี 2005 ด้วยความสามารถที่เล่นได้ทั้งแบ็กขวาและซ้าย ทำให้เขากลายเป็นสมาชิกคนสำคัญของทีมนั่นเอง
ที่มา: Paulo Ferreira (2025) [3]
ใจความสำคัญในเรื่องของ ข้อมูล เปาโลแฟร์ไรร่า คือแบ็กขวาชาวโปรตุเกส ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง โดยเริ่มต้นเส้นทางกับทีมปอร์โต้ และคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในช่วงปี 2004 ก่อนจะย้ายตามโชเซ่ มูรินโญ่ มาสู่เชลซีด้วยค่าตัวที่สูงในยุคนั้น ตลอดเก้าปีที่สแตมฟอร์ดบริดจ์ เขาเป็นผู้เล่นที่เต็มไปด้วยความภักดีและไว้ใจได้ โดยคว้าแชมป์สำคัญได้ทุกรายการในระดับสโมสร
หลังจากที่ เปาโลแฟร์ไรร่า แขวนสตั๊ดในปี 2013 เขายังคงทำงานต่อกับสโมสรเชลซี ในบทบาทที่เรียกว่า ผู้ช่วยโค้ชเทคนิคดูแลนักเตะที่ถูกปล่อยยืม เป็นเวลาเก้าปี บทบาทหลักของเขาคือ การทำหน้าที่เป็นเหมือนพี่เลี้ยง คอยดูแลและให้คำปรึกษาแก่นักเตะอายุน้อยของสโมสร ที่ถูกส่งไปเล่นแบบยืมตัวตามสโมสรต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่าพวกเขา จะได้รับการพัฒนาที่เหมาะสม
โดยนักเตะรายนี้ ถูกยกย่องว่าเป็นแบ็กขวา ที่มีความมีวินัยในเกมรับสูง และไว้วางใจได้เสมอ จุดเด่นของเขาคือ การเล่นที่เน้นความแน่นอน ไม่หวือหวา แต่ไม่เคยผิดพลาดง่ายๆ ซึ่งทำให้เขาเป็นที่โปรดปรานของโค้ช เขามีความสามารถในการอ่านเกม และยืนตำแหน่งได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้มักจะตัดการจ่ายบอล หรือสกัดคู่แข่งได้อย่างถูกจังหวะ