แหล่งรวมเกมส์ชั้นนำ สล็อต คาสิโน บาคาร่า พร้อมระบบล้ำทันสมัย รวดเร็วทันใจ

กุญแจเกมรับ จอช โอโคกี นักล่าไร้แต้มที่โค้ชขาดไม่ได้

กุญแจเกมรับ จอช โอโคกี

กุญแจเกมรับ จอช โอโคกี (Josh Okogie) ถ้ามองผ่านๆ อาจเป็นเพียงผู้เล่นโรลเพลย์ ที่แทบไม่มีตัวเลข การทำแต้มติดอันดับใดๆ แต่ในเกมจริง เขาคือผู้ไล่ล่า ที่โค้ชทุกคนไว้วางใจ ให้ตามประกบผู้เล่น ที่อันตรายที่สุดของคู่แข่ง และเขาคือคนที่เปลี่ยนจังหวะเกม โดยไม่มีชื่ออยู่ในไฮไลต์

  • เส้นทางของจอช โอโคกีตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน
  • จุดแข็งของโอโคกี และจุดที่ต้องพัฒนา
  • สถิติของจอช โอโคกีในฤดูกาล 2024-25

นักล่าที่ไม่มีใครจดชื่อ แต่ไม่มีใครแทนได้

ในโลกของ NBA ที่ทุกค่ำคืน เต็มไปด้วยการทำแต้ม การเล่นไฮไลต์ และชื่อของดาวดัง ที่ถูกกล่าวถึงซ้ำแล้วซ้ำเล่า ชื่อของจอช โอโคกีแทบจะไม่เคยปรากฏ ในหัวข้อสนทนา เขาไม่ใช่ผู้เล่น ที่มีสถิติระเบิดตา ไม่ได้เป็นผู้เล่น All-Star ไม่เคยมีเกม 30 แต้ม และในบางค่ำคืน ก็จบเกมด้วยศูนย์คะแนนด้วยซ้ำ

แต่ถ้าคุณสวมบทเป็นโค้ช ในเกมสำคัญ และต้องเลือกใครสักคน เพื่อหยุดการบุกของ Luka Doncic, Jamal Murray หรือแม้แต่ Brandon Ingram โอโคกีจะเป็นหนึ่งในชื่อแรก ที่ถูกเรียกโดยไม่ต้องลังเล

เส้นทางของผู้ตามล่า จากไนจีเรียสู่แนวรับตัวหลักใน NBA

โอโคกีเกิดในประเทศไนจีเรีย เมื่อวันที่ 1 กันยายน ปี 1998 และย้ายมาใช้ชีวิตในจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ยังเด็ก เส้นทางของเขา ไม่ได้โรยด้วยพรสวรรค์ด้านเกมรุก หรือชื่อเสียงแบบติดยศ เขาถูกเลือกในอันดับที่ 20 ของ NBA Draft ปี 2018 โดย Minnesota Timberwolves (6 กันยายน 2025) [1]

ก่อนจะย้ายมาร่วมทัพ Phoenix Suns ในปี 2022 ด้วยสัญญาแบบ Free Agent และต่อสัญญาอีกครั้งในปี 2023 มูลค่า 2 ปี ราว $5.7 ล้าน

โอโคกีทุ่มเท ให้กับสิ่งที่คนส่วนใหญ่มองข้าม การป้องกันแบบละเอียดลึกซึ้ง การอ่านเกม การดักทาง และความเข้าใจจังหวะการเคลื่อนไหว ของผู้เล่นฝั่งตรงข้าม เขากลายเป็น “กุญแจเกมรับ” โดยไม่ต้องมีแต้มใดๆ เลยด้วยซ้ำ

ไม่มีแต้ม ไม่ได้แปลว่าไม่มีพลัง ตัวอย่างเกมรับที่เปลี่ยนเกม

กุญแจเกมรับ จอช โอโคกี

แม้ในฤดูกาล 2023-24 โอโคกีจะทำแต้มเฉลี่ยเพียง 4.6 แต้มต่อเกม แต่ตัวเลขเหล่านั้น ไม่สะท้อนคุณค่าที่แท้จริงของเขาเลยสักนิด เขาได้รับการยอมรับว่า เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่รับหน้าที่ประกบ แบบตัวต่อตัวได้ดีที่สุดในทีม Phoenix Suns โดยเฉพาะในเกม กับผู้เล่นระดับซูเปอร์สตาร์อย่าง ลูก้า ดอนซิช

ในแง่ของการป้องกันแบบตัวต่อตัว โอโคกีถือเป็นหนึ่งในตัวเลือก ที่ทีมใช้งานบ่อยที่สุด นั่นสะท้อนว่าโอโคกี แม้จะไม่มีแต้มให้เห็นมากนัก แต่ความไว้วางใจจากโค้ช ในการประกบผู้เล่นระดับสูงนั้นชัดเจน

เขาสร้างพลังจากการก่อกวน ไม่ให้สตาร์ของอีกฝั่ง ได้เล่นในจังหวะที่ถนัด บางครั้งเขาไม่จำเป็นต้องแตะบอลเลย ก็สามารถทำให้คู่แข่ง เสียจังหวะชู้ตได้ ไม่ให้สตาร์ของอีกฝั่ง ได้เล่นในจังหวะที่ถนัด (26 ธันวาคม 2023) [2]

เกมรับที่วัดไม่ได้ด้วยแต้ม สถิติ และพลังที่ซ่อนอยู่

ในฤดูกาล 2024-25 โอโคกีมีพัฒนาการ ในด้านเกมรุกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะเปอร์เซ็นต์การชู้ต ที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เขาทำแต้มเฉลี่ย 7.1 คะแนนต่อเกม รีบาวน์ 2.8 ครั้ง และแอสซิสต์ 0.8 ครั้งต่อเกม พร้อมกับ FG% ที่สูงถึง 44.3% และ 3P% ราว 34.8% (13 กันยายน 2025) [3]

ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่ดีที่สุด ในอาชีพของเขา สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าเขา เริ่มมีมิติใหม่ในเกมรุก แม้จะยังไม่ได้เป็นตัวทำแต้มหลัก ในกลางฤดูกาลนั้น โอโคกีถูกเทรดจาก Phoenix Suns ไปยัง Charlotte Hornets และในช่วง offseason เดือนกรกฎาคม 2025 ที่ผ่านมา

โอโคกีเซ็นสัญญาใหม่ 1 ปีกับ Houston Rockets แบบ fully guaranteed ซึ่งถือเป็นการยืนยันว่าเขา ยังเป็นผู้เล่นที่ทีมระดับ NBA ต้องการใช้งาน โดยเฉพาะในบทบาท wing defender ที่เน้นเกมรับ แต่พร้อมช่วยทีมในสถานการณ์เฉพาะทาง

ความกล้าหาญของจอช โอโคกีที่ไม่มีในไฮไลต์

กุญแจเกมรับ จอช โอโคกี

โลกบาสเกตบอลชอบคนทำแต้ม แต่น้อยคนนัก ที่จะยอมอยู่ในสนามแบบ “ไม่มีบท” ในเกมรุก เพียงเพื่อรอเวลาปิดเกมรับ และในฤดูกาลล่าสุด โอโคกีกำลังอยู่ในจุดนั้นอีกครั้งกับ Houston Rockets ทีมที่เพิ่งเซ็นเขาเข้าร่วม เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในแนวรับ

บทบาทของจอช โอโคกียังคงเป็นการสร้างแรงกดดันทางรับ ปิดจังหวะเกมรุกของคู่แข่ง และรับหน้าที่ป้องกัน ผู้เล่นปีกที่อันตราย ซึ่งช่วยให้ผู้เล่นตัวหลักในทีมอย่าง Jalen Green หรือ Fred VanVleet สามารถโฟกัส กับการสร้างเกมรุกได้มากขึ้น

เขาไม่ใช่ผู้เล่น ที่โค้ชเรียกมาเพื่อคาดหวังแต้มเสมอไป แต่เป็นตัวเลือกยุทธศาสตร์ และน้อยคนนัก ที่จะยอมอยู่ในสนามแบบ “ไม่มีบท” ในเกมรุก เพียงเพื่อรอเวลาปิดเกมรับ โอโคกีคือหนึ่งในไม่กี่คน ที่ยอมเสียโอกาสเด่นในเกมรุก เพื่อความสมดุลของทีม

ความเสี่ยงในเกมรุกของโอโคกี

ในเพลย์ออฟ 2023 เราเห็นฟีนิกซ์ ซันส์ถูกบีบให้เล่น 4-on-5 เมื่อโอโคกีอยู่ในสนาม และอีกฝ่ายปล่อยเขาแบบไม่สนใจเกมรุกเลย บ่อยครั้งเขาไม่สามารถลงโทษคู่แข่ง ด้วยการชู้ต 3 แต้มได้ และนั่นทำให้แผนบุกของ Suns ติดขัด

นั่นคือสิ่งที่โค้ชต้องคิดให้ดี: คุณจะเลือกเกมรับแน่นๆ แต่มีปัญหา Spacing หรือเลือกแนวรุกสมดุลแต่มีรูรั่วทางรับ

บทส่งท้าย ชื่อที่ไม่มีในไฮไลต์ แต่สำคัญในทุกชัยชนะ

จึงกล่าวได้ว่า “จอช โอโคกี” คือภาพสะท้อนของผู้เล่น ที่ไม่ต้องการคำชม แต่เปลี่ยนเกมได้ เขาอาจไม่มีตัวเลขสวยงาม แต่ในเกมที่ต้องป้องกันเพื่อชนะ เขาคือคนแรกที่โค้ชจะเรียกชื่อ และโอโคกีไม่ใช่นักบาส ที่ผู้คนจดจำด้วยแต้ม แต่คือคนที่ทำให้ผู้เล่นฝั่งตรงข้าม “หายไปจากเกม”

โอโคกีเหมาะกับทีมแบบไหน ?

ทีมที่มีผู้เล่นเกมรุกจัดจ้าน แต่ขาดผู้เล่นเกมรับปีก เช่น Rockets หรือ Heat จะได้ประโยชน์จากบทบาทของเขามากที่สุด เพราะเขาสามารถรับบทบาทที่สมดุล และเติมเต็มจุดอ่อนเกมรับได้ โดยไม่แย่งบอลจากผู้เล่นตัวหลัก

โอโคกีเคยมีผลกระทบ ในรอบเพลย์ออฟไหม ?

ในเพลย์ออฟ 2023 เขาเคยถูกปล่อยว่าง จนทำให้ซันส์ ต้องเสียบาลานซ์เกมบุก แต่ก็ยังมีหลายช่วง ที่เขาช่วยหยุดผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามได้ดี โดยเฉพาะในช่วงต้นเกม ที่เขาสามารถเบรกจังหวะการเข้าทำแต้มของอีกฝ่าย และบีบให้ใช้เวลาเล่นมากขึ้น

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง