
กำแพง บลูคอลเลอร์ แรงงานที่ไม่มีสถิติไหนวัดได้
- Harry P
- 114 views

กำแพง บลูคอลเลอร์ เควอน ลูนีย์ (Kevon Looney) ไม่ใช่ชื่อที่ติดปากแฟนบาส เวลาพูดถึงดาราใหญ่ แต่ในสายตาคนที่มองลึกพอ เขาคือกำแพงที่ขาดไม่ได้ เพราะสิ่งที่เขาทำ “ให้คนอื่นเล่นได้” บทความนี้คือการสำรวจชีวิต และเส้นทางของชาย ที่ถูกเรียกว่า “Blue Collar” อย่างแท้จริง
เควอน ลูนีย์เกิดเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ปี 1996 ในเมือง Milwaukee รัฐวิสคอนซิน เมืองที่มีประวัติศาสตร์แรงงานยาวนาน และวัฒนธรรมของผู้คน ที่ต้องทำงานหนัก เพื่ออยู่รอด ซึ่งได้หล่อหลอมบุคลิกของเขา ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ครอบครัวของลูนีย์ ไม่ได้มีฐานะดีนัก (30 กันยายน 2025) [1]
เขาเติบโตมากับการเห็นพ่อแม่ ทำงานอย่างหนัก และซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ สิ่งเหล่านี้กลายเป็นรากฐานสำคัญ ที่เขานำติดตัวเข้าสู่วงการบาสเกตบอล เมื่อเข้าสู่ NBA เขาไม่ได้ไล่ล่าความเป็นซูเปอร์สตาร์ หรือโอกาสในไฮไลต์ใหญ่โต แต่กลับเลือกทางที่เงียบกว่า ทางของคนที่คอยประคองทีมอยู่เบื้องหลัง
จุดเด่นของลูนีย์ ไม่ใช่การทำแต้ม หรือโชว์ความสามารถเฉพาะตัว แต่คือการตั้งฉากที่แข็งแกร่ง การรีบาวด์ที่แม่นยำ และการเคลื่อนไหว แบบไม่แย่งซีน ที่ทำให้เพื่อนร่วมทีม สามารถเล่นได้อย่างเต็มศักยภาพ เขาคือคนที่ทำให้ระบบเดินหน้า แม้จะไม่มีชื่อบนป้ายไฟ
ลูนีย์เข้าร่วมทีม โกลเด้น สเตท วอร์ริเออร์ส ในปี 2015 โดยถูกดราฟต์เป็นลำดับที่ 30 ของรอบแรก แม้จะถูกคาดหวัง ในฐานะพรสวรรค์จาก UCLA แต่ช่วงแรกของเขา กลับไม่ราบรื่น เขาเจอปัญหาบาดเจ็บสะโพกเรื้อรัง ถึงขั้นต้องผ่าตัด ซึ่งเกือบทำให้เขา หลุดจากวงจร NBA ตั้งแต่ยังไม่ทันได้เริ่ม
แต่สิ่งที่พาเควอน ลูนีย์กลับมายืนในทีม ไม่ใช่ชื่อเสียง หรือโชค แต่เป็นวินัยที่แน่วแน่ และการฝึกซ้อมที่หนักหน่วง เขาสร้างตัวเอง ให้กลายเป็นคนที่ทีมไว้ใจ ในสถานการณ์ที่กดดันที่สุด และนั่นทำให้เขา กลายเป็นหนึ่งในฟันเฟืองของวอร์ริเออร์ส ชุดแชมป์ 3 สมัย
ในช่วงปี 2022-2024 ลูนีย์ไม่ใช่แค่ผู้เล่นหมุนเวียนอีกต่อไป แต่คือผู้เล่นตัวหลัก ที่โค้ช Steve Kerr ไว้ใจให้ลงคุมแนวป้องกัน และความแข็งแรงของเขา ในจังหวะที่ดูเหมือนไม่มีอะไร ทำให้วอร์ริเออร์ส พลิกเกมเพลย์ออฟมานับไม่ถ้วน โดยไม่มีชื่อเขาอยู่ในสถิติเด่นๆ แต่อย่างใด (5 พฤษภาคม 2022) [2]

ฤดูกาล 2024-25 กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ในเส้นทางของลูนีย์ เมื่อเขาถูกลดบทบาทลงอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในรอบเพลย์ออฟ ที่เขามักจะได้นั่งข้างสนาม ตลอดควอเตอร์สำคัญ เพราะโค้ชเลือกใช้กลยุทธ์ใหม่ ที่เน้นความเร็ว และการเปลี่ยนจังหวะ ซึ่งไม่เอื้อต่อสไตล์การเล่น แบบบลูคอลเลอร์ของเขา
หลังจบฤดูกาล ลูนีย์ให้สัมภาษณ์อย่างตรงไปตรงมาว่า เขารู้สึกว่า “ไม่ได้รับความไว้วางใจอีกต่อไป” จากทีมที่เขาเคยเป็นกำแพงสำคัญ เขายังคงรักวอร์ริเออร์สอย่างสุดหัวใจ แต่ตระหนักว่าความรักเพียงอย่างเดียว อาจไม่เพียงพอ ในโลกที่หมุนเร็วอย่าง NBA
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงตัดสินใจเปิดบทใหม่ในชีวิต ด้วยการเซ็นสัญญากับ New Orleans Pelicans เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2025 แม้จะรู้ดีว่าโอกาสคว้าแชมป์ อาจน้อยกว่าทีมเดิม แต่เขาเชื่อมั่นว่า ตราบใดที่ยังมีจิตวิญญาณนักสู้ เขาก็ยังมีบางอย่าง ที่โลกควรได้เห็น (1 กรกฎาคม 2025) [3]
ลูนีย์คือทายาททางจิตวิญญาณ ของนักบาสอย่าง เดนนิส ร็อดแมน, เบน วอลเลซ หรือแม้แต่ ขุนพล รุ่นสุดท้าย อย่างยูโดนิส ฮาซลิม ผู้เล่นที่อาจไม่มีคลิปไฮไลต์เท่ๆ แต่เป็นคนที่โค้ช อยากให้ลงสนาม เมื่อเกมถึงจุดสำคัญ
เมื่อเปรียบกับบลูคอลเลอร์ยุคใหม่ อย่างเดรย์มอนด์ กรีน หรือพีเจ ทักเกอร์ แม้เควอน ลูนีย์จะไม่ดุดัน หรือมีคาแรกเตอร์ชัดเจนเท่าพวกนั้น แต่เขามีสิ่งที่ต่างออกไปคือ “ความเงียบ ที่ไม่เคยหลุดจากระบบ” เขาไม่เคยเล่นนอกกรอบ ไม่เคยทิ้งหน้าที่ และไม่เคยทำให้ทีมเสียทรง

ที่นิวออร์ลีนส์ พีลิแกนส์ ลูนีย์จะไม่ได้เป็นผู้เล่นหลัก ในแง่ทำแต้ม แต่จะได้โอกาสกลับมาเป็นคนป้องกันแนวในที่ทีมขาด การอยู่ร่วมกับ Zion Williamson และ Brandon Ingram อาจเป็นจิ๊กซอว์ ที่เขาทำให้ทีมแข็งขึ้นแบบเงียบๆ
แม้ฤดูกาลก่อน เขาจะได้ลงเล่นเฉลี่ยเพียง 18.0 นาทีต่อเกม แต่ยังเก็บได้ 6.4 รีบาวด์ และมีอัตรารีบาวด์รวมที่ 17.6% แสดงให้เห็นว่า เมื่อเขาอยู่ในสนาม เขายังควบคุมพื้นที่ใต้แป้น ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แต่คำถามคือ ระบบของนิวออร์ลีนส์ พีลิแกนส์ที่เน้น transition และ pace จะยืดหยุ่นพอให้เขาแสดงตัวตนได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ ก็อาจกลายเป็นกับดักสุดท้าย ในอาชีพของเขาเช่นกัน
หลังการย้ายทีม มีแฟนวอร์ริเออร์สจำนวนมาก ออกมาแสดงความเสียดาย เพราะแม้เควอน ลูนีย์จะไม่ใช่สตาร์ แต่เขาก็เป็นคนของทีม ที่อยู่ในทุกความทรงจำ ลูนีย์คือร่างจำลองของความจงรักภักดี ความเสมอต้นเสมอปลาย และการทำงานที่ไม่มีใครเห็น
ในยุค NBA ที่หมุนเร็ว และทุกอย่างวัดจากไฮไลต์ใน TikTok ผู้เล่นอย่างเควอน ลูนีย์กลับกลายเป็นภาพแทน ของสิ่งที่กำลังหายไป ความอดทน ความไม่เรียกร้อง และการทำเพื่อทีม มากกว่าตัวเอง
บทเรียนสำหรับนักบาส และแฟนกีฬารุ่นใหม่
สุดท้ายแล้ว กำแพง บลูคอลเลอร์ “เควอน ลูนีย์” ไม่ใช่แค่คำอธิบายไลฟ์สไตล์ แต่คือบุคลิกในสนาม ที่พร้อมจะรับทุกบทบาท แม้ไม่มีใครจำชื่อ และในวันที่เขาเดินออกจากวอร์ริเออร์ส เขาอาจไม่ได้รับเกียรติเท่าคนอื่น แต่เขาจะเป็นเสาหลัก ที่ประวัติศาสตร์ของทีมลืมไม่ได้
เขาเป็นตัวอย่างของผู้เล่น ที่ทำงานหนักในแนวรับ ตั้งฉาก รีบาวด์ และไม่เคยเล่นนอกกรอบ บทบาทของเขา เปรียบเสมือนกำแพง ที่ปกป้องทีม โดยไม่ต้องการแสงไฟจากสื่อ
ยังมี ถ้าทีมมีความยืดหยุ่น และรู้จักใช้เควอน ลูนีย์อย่างถูกจังหวะ เพราะแม้จะไม่เร็ว แต่เขาสามารถทำให้เกมช้าลง ในแบบที่คู่แข่งต้องเล่นตามเขา เปลี่ยนจากจังหวะบ้าคลั่ง ให้กลายเป็นเกมชิงจังหวะที่เขาถนัด

