แหล่งรวมเกมส์ชั้นนำ สล็อต คาสิโน บาคาร่า พร้อมระบบล้ำทันสมัย รวดเร็วทันใจ

การกลับมา Newcastle United แบบคาดไม่ถึง

การกลับมา Newcastle United

การกลับมา Newcastle United สิ้นสุดการรอคอย แบบคาดไม่ถึง เชื่อว่าหากใครได้ยินคำนี้ อาจจะแทบไม่อยากเชื่อ ว่าสโมสรของทีม จะกลับมาแล้ว เนื่องจากตลอด หลายช่วงฤดูกาล การแข่งขันต่างๆ ที่ผ่านมา สโมสรไม่สามารถ แสดงฟอร์มการเล่น ได้อย่างที่คาดหวัง อีกทั้งยังคงช้ำใจ กับในหลายๆ การแข่งขัน ที่ผ่านมาด้วย

  • ประวัติของ newcastleunited
  • เกียรติยศของ newcastleunited
  • การคว้าแชมป์ คาราบาวคัพของ newcastleunited

ทำความรู้จักกับ Newcastle United ก่อนใคร ได้ที่นี่

สำหรับแฟนบอล ทั้งหลาย รวมถึง แฟนบอลหน้าใหม่ ที่เริ่มต้นให้ความสนใจ เกี่ยวกับการกลับมา ของนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด แต่ยังไม่รู้จัก ว่าสโมสรนี้ มีที่มาอย่างไร และมีประวัติ ความเป็นมา เกี่ยวกับสโมสร อย่างไรบ้าง วันนี้เราจะกลับมา ติดตามไปพร้อมๆ กันเกี่ยวกับ สโมสรที่หลายคนรัก

ประวัติทั่วไป เกี่ยวกับสโมสร ที่คุณควรรู้

นิวคาสเซิลยูไนเต็ด มีตัวย่อคือ “NUFC” และคนส่วนใหญ่ มักจะเรียกสั้นๆ ว่า “นิวคาสเซิล” หรือ “สาลิกาดง” ซึ่งคำว่า สาลิกาดง เป็นฉายา ที่คนไทยใช้เรียกทีมนี้ อันเนื่องมาจาก สีเสื้อของทีม เป็นสีขาวดำ เหมือนนกสาลิกา นั่นเอง

โดยสโมสร Newcastle เป็นทีมฟุตบอลอาชีพ ของอังกฤษ ที่ตั้งอยู่ในเมือง Newcastle upon Tyne และเล่นในพรีเมียร์ลีก โดยลีกสูงสุด ของฟุตบอลอังกฤษ สโมสรก่อตั้งขึ้น เมื่อปีคริสต์ศักราช 1892 เป็นต้น

ที่มา: สโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลยูไนเต็ด [1]

เกียรติยศของ Newcastle ที่เคยได้รับ จากการเล่นที่ผ่านมา

สโมสรนิวคาสเซิลยูไนเต็ด ได้รับเกียรติยศ จากผลงาน ที่สโมสรได้ทำเอาไว้ใน the magpies ก็ตกชั้นในปี 2016 แต่หลังจากนั้น สโมสรก็สามารถ เลื่อนชั้นขึ้นมาได้ จนเป็นแชมป์ ซึ่งนี่ถือว่า เป็นครั้งที่ 4 แล้วที่สโมสร สามารถคว้าแชมป์ division 2 ได้นั่นเอง

นอกจากนี้ สโมสรยังพาทีม คว้าแชมป์ division สูงสุดได้ถึง 4 ครั้ง โดยครั้งสุดท้าย ที่ทำผลงานได้ในปี 1927 และในการแข่งเอฟเอคัพ ก็คว้าแชมป์ได้อีก 6 ครั้ง นับได้ว่านิวคาสเซิลสามารถคว้าแชมป์ ได้เทียบเท่า กับยูฟ่ายูโรปาลีกในปี 1969 เลยทีเดียว

ที่มา: Newcastle United [2]

การคว้าแชมป์ คาราบาวคัพของ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด

การกลับมา Newcastle United

สิ้นสุดการรอคอยจริงๆ สำหรับการกลับมา ของนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ในศึกการแข่งขัน คาราบาวคัพ (ลีกคัพ) 2025 ที่พวกเขาไม่เพียงแค่ โชว์ฟอร์มการเล่น ได้อย่างดุเดือด แต่ยังไปได้ไกลจนคว้าแชมป์ มาครองได้สำเร็จ และถ้วยที่ได้รับมาในครั้งนี้ ไม่ธรรมดาอีกด้วย

พิชิตถ้วยแชมป์ ระดับสูงของอังกฤษ ในรอบ 70 ปี

บทสรุปของค่ำคืน ประวัติศาสตร์ กับการกลับมา นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด หรือ “สาลิกาดง” ถูกจารึก อย่างยิ่งใหญ่ที่สุด ของทีมสโมสร หลังจากที่ทีม สามารถเอาชนะ ลิเวอร์พูล ได้ด้วยผลสกอร์ 2-1 จากการลงสนาม ในนัดชิงชนะเลิศศึก คาราบาวคัพ (ลีกคัพ) ในปี 2025 นั่นเอง

ซึ่งเป็นการคว้าแชมป์รายการนี้ เป็นครั้งแรก ในประวัติศาสตร์ ของสโมสรได้สำเร็จ อีกทั้งถ้วยนี้ ที่ได้มายังเป็นถ้วยแชมป์ ระดับสูงของอังกฤษ ใบแรกในรอบ 70 ปีเลยล่ะ นับตั้งแต่ที่พวกเขา เคยคว้าแชมป์ เอฟเอคัพ เมื่อปี 1955 ที่ผ่ามาอีกด้วย

สุดยอด นิวคาสเซิล ความกระหาย ในการคว้าแชมป์ ที่เนิ่นนาน

ในการกลับมา นิวคาสเซิลยูไนเต็ด จากเกมการแข่งขัน ในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึง ความกระหาย ต้องการชัยชนะอย่างมาก ของนักแข่งในทีมของ เอ็ดดี ฮาว ที่ไม่ได้สัมผัส ถ้วยรางวัล มาเป็นระยะเวลา ที่เนิ่นนาน จนท้ายที่สุดแล้ว ความพยายาม ของพวกเขา ก็ประสบความสำเร็จ

จากการเล่นด้วยวินัย บวกกับเกมรับ อันเหนียวแน่น ผสมเกมบุก ที่รุกได้เฉียบขาด ในช่วงจังหวะจบสกอร์ ที่สำคัญที่สุด จนส่งผลให้ เหล่าบรรดาแฟนบอล Toon Army และบรรดานักเตะ ได้ร่วมฉลองอย่างสุดเหวี่ยง ในค่ำคืนนั้น ซึ่งเชื่อได้ว่า นักเตะในสโมสรทุกคน จะจดจำไปได้ตลอดกาล [3]

สรุปแล้ว newcastleunited ทีมที่หลายคนเชียร์

สำหรับสโมสร นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เป็นอีกหนึ่งสโมสร ของอังกฤษ ที่มีประวัติ การแข่งขัน ในรายการต่างๆ มาเนิ่นนาน และเป็นอีกทีมฟุตบอล ที่มีชื่อเสียงมายาวนาน เป็นที่รัก และที่รู้จัก ของแฟนบอลหลายๆ คนทั่วโลก และถึงแม้ว่า หลังๆ มานั้น สโมสรจะไม่ค่อย ประสบความสำเร็จ แต่ก็ไม่เคยคิก ที่จะยอมแพ้ และพร้อมจะสู้ต่อไป

ทำไมถึงเรียก Newcastle อีกอย่างว่า สาลิกาดง

สาลิกาดง เป็นชื่อเรียกที่คนไทย ต่างพากันตั้งฉายา และเรียกตามกันมา เนื่องจาก สีเสื้อของสโมสร เป็นสีขาวดำ ที่มีความคล้ายกับ นกสาลิกา จึงพากันเรียกว่า สาลิกาดง นั่นเอง

เพราะอะไร อันดับตาราง ของนิวคาสเซิลยังนิ่ง

ถึงแม้ว่า ในช่วงเวลา ของการแข่งขัน สโมสรนิวคาสเซิล จะตั้งใจเล่น อย่างเต็มที่ก็ตาม แต่เกมนี้ไม่ทำให้ทีม เอาชนะ Brighton ได้ยังคงรั้งอันดับที่ 4 ของตารางอยู่เช่นเดิม นับได้ว่าพลาด โอกาสสำคัญที่จะทำแต้มแซงแมนเชสเตอร์ซิตี ได้อย่างน่าเสียดายเลย

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง